วันนี้ ( 12 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 11 ต.ค.ที่ผ่านมา ที่สตูดิโอเดลินิวส์ทีวี ถนนวิภาวดีรังสิต พ.ต.ท.สนอง แสงมณี สว.จราจร สน.วิภาวดี เดินทางมาบันทึกเทปรายการเดลินิวส์คลายทุกข์ เพื่อตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับการจัดการจราจรบนถนนวิภาวดีรังสิต โดยมี น.ส.สายฝน เหตระกูล รองผู้อำนวยการสถานีเดลินิวส์ทีวี นายธีระพงษ์ เหลืองทองกุล หัวหน้าข่าวหน้า 1 ให้การต้อนรับ
โดยพ.ต.ท.สนอง กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่ากทม.มีถนนรวมระยะทางไปกลับ ทางด่วนต่างๆ กว่า 5,000 กิโลเมตร แต่ปัจจุบัน จำนวนรถมีมากถึง7ล้านคัน ซึ่งพื้นที่ไม่เพียงพอเพราะรถทั้งหมดต้องใช้พื้นที่อยู่บนท้องถนนราว 2 หมื่นกว่ากิโลเมตร ส่งผลให้เกิดปัญหาการจราจรได้ นอกจากนี้เมื่อมีการจราจรติดขัดประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนก็จะเลือกใช้เส้นทาง ที่สะดวก รวมทั้งในทางที่แคบหรือมีลักษณะเป็นคอขวดก็จะขับรถไปเบียดเสียดกัน ทำให้เกิดปัญหารถติดได้
“ในส่วนนี้วินัยจราจรเป็นสิ่งสำคัญที่ประชาชนเองต้องเคารพ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ไม่ได้นิ่งนอนใจได้มีการประชุมถึงสถานการณ์ปัญหา จราจร โดยในชั่วโมงเร่งด่วนจะเปิดการจราจรบนพื้นราบเพื่อให้รถบนถนนได้เคลื่อนตัว ได้สะดวกมากขึ้น รวมทั้งในส่วนของจุดที่มีการจราจรติดขัดก็จะดำเนินการในการส่งเจ้าหน้าที่ จราจรลงพื้นที่คอยโบกรถและเพื่อให้การจราจรสะดวกมากขึ้น อาทิเช่น บริเวณธนาคารทหารไทย สำนักงานใหญ่ ที่ช่วงชั่วโมงเร่งด่วนเกิดปัญหารถติดมาก ส่งผลให้รุกลามไปถึงบริเวณห้าแยกลาดพร้าว” พ.ต.ท.สนอง กล่าว
พ.ต.ท.สนอง กล่าวอีกว่า ทางผู้บัญชาการเน้นย้ำให้ตำรวจทุกคนดูแลความเรียบร้อยในส่วนของการจราจร รวมทั้งลดการปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่กับประชาชน โดยการนำเทคโนโลยีมาใช้ อาทิเช่น กล้องวงจรปิด เพื่อตรวจสอบว่ารถคันไหนฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามกฏจราจร ก็จะมีการส่งรูปที่กล้องบันทึกภาพไว้ส่งไปให้ทางบ้าน รวมทั้งเน้นย้ำให้อำนวยความสะดวกการจราจรหลังจากที่มีการเปิดสนามบิน โดยการปรับสภาพทางกายภาพของถนนที่เป็นบริเวณคอขวดให้ประชาชนสัญจรไปได้ รวมทั้งในช่วงเวลาเปิดภาคเรียน ซึ่งถนนวิภาวดีรังสิตมีสถานศึกษาจำนวนมาก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้มีการเตรียมแผนรับมือในเรื่องของช่วงการเหลี่ยมล้ำของ เวลา เร่งระบายการจราจรเพื่อไม่ให้ปริมาณรถบนถนนสะสม
พ.ต.ท.สนอง กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ในส่วนของการรับมือการจราจรที่ทางสน.วิภาวดีต้องรับผิดชอบแล้วนั้น ทางสน.วิภาวดีได้ริเริ่มโครงการแก้ไขปัญหาเด็กแว้น โดยจัดทำโครงการภายใต้ชื่อ “แว้น...แล้วไปไหน ” ซึ่งได้มีการดำเนินการไปแล้ว โดยโครงการดังกล่าวเป็นการปลูกจิตสำนึกให้เด็กที่ถูกเจ้าหน้าที่กวดขันขณะ แข่งรถให้เกิดความสำนึก และรักครอบครัว เปลี่ยนทัศนคติที่ดีไม่หลงไปอยู่ในวังวงของการแข่งรถ รวมทั้งมีมาตรการจับก่อนแข่ง โดยจะส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจลงไปตรวจสอบร้านที่แต่งรถ รวมทั้งมาตรการในการปิดล้อมจับกุม เยาวชนที่เป็นเด็กแว้น
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น