ด้าน พล.ต.ต.ประจวบ วงศ์สุข ผบก.สส.ภ.5 เปิดเผยว่า สอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหารับสารภาพว่า เป็นผู้ขโมยเงินจากรถขนเงินคันดังกล่าวจริง และทำเพียงคนเดียว โดยใช้รถเก๋งฮอนด้า ซิตี้ สีดำ หมายเลขทะเบียน ขฉ 5708 เชียงใหม่ ของตัวเองเป็นพาหนะในการก่อเหตุและขนเงินหลบหนี โดยวันเกิดเหตุได้วางแผนขับรถเก๋งไปจอดขวางจุดที่รถขนเงินจะต้องเข้าจอดประจำ ซึ่งจุดนั้นจะมีกล้องวงจรปิด ทำให้รถขนเงินไม่สามารถเข้าจอดได้ จึงต้องขับไปจอดในจุดอื่นที่ไม่มีกล้องวงจรปิดคอยจับภาพ จากนั้นจึงอาศัยจังหวะที่พนักงานรถขนเงินทั้งหมดไปกินข้าว ใช้ความชำนาญเกี่ยวกับระบบรถขนเงิน ลงมือฉกเงิน 9.2 ล้าน ใส่รถขับหลบหนีไป อย่างไรก็ดี ทางตำรวจกำลังเร่งขยายผลว่ามีคนอื่นรู้เห็นอีกหรือไม่ และขณะนี้กำลังควบคุมตัว นายสุเมธ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ก่อนนำตัวไปแถลงข่าวต่อไป.
วันจันทร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2556
จับโชเฟอร์ฉกเงิน 9.2 ล้านแบงก์กรุงไทย อ้างฉายเดี่ยว ยึดเงินคืน 8.9 ล้าน
กรณี 3 พนักงานรถขนเงินธนาคารกรุงไทย นำเงินสด 27 ล้านบาทจากกรุงไทย สาขาข่วงสิงห์ จ.เชียงใหม่ ขึ้นรถตู้ไปที่ธนาคารกรุงไทย สาขาแม่ริม ก่อนจอดรถไว้ใต้ถุนธนาคาร แล้วพากันออกไปกินข้าว แต่เมื่อกลับมาที่รถกลับพบว่าเงินสด 9.2 ล้านบาทที่ใส่ถุงไว้ 3 ใบหายไป โดยตำรวจโรงพักแม่ริมได้ออกหมายจับ 2 ใน 3 พนักงานขับรถขนเงินคันเกิดเหตุ ซึ่งสงสัยว่าจะมีส่วนรู้เห็นกับเรื่องนี้ ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว ความคืบหน้า วันนี้ (19 มี.ค.) เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตำรวจชุดสืบสวน บชภ.5 ได้จับกุม นายสุเมธ เลิศภาณุพัฒน์ ซึ่งเป็นคนขับรถของธนาคารกรุงไทยเช่นกัน แต่เป็นคนละคันกับที่เกิดเหตุ โดยจับกุมได้ที่บ้านพักของผู้ต้องหา ในอ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ พร้อมของกลาง เงินสด 8.9 ล้านบาท ที่ซุกซ่อนอยู่ในตู้เสื้อผ้า ในบ้านพักหลังดังกล่าว
ด้าน พล.ต.ต.ประจวบ วงศ์สุข ผบก.สส.ภ.5 เปิดเผยว่า สอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหารับสารภาพว่า เป็นผู้ขโมยเงินจากรถขนเงินคันดังกล่าวจริง และทำเพียงคนเดียว โดยใช้รถเก๋งฮอนด้า ซิตี้ สีดำ หมายเลขทะเบียน ขฉ 5708 เชียงใหม่ ของตัวเองเป็นพาหนะในการก่อเหตุและขนเงินหลบหนี โดยวันเกิดเหตุได้วางแผนขับรถเก๋งไปจอดขวางจุดที่รถขนเงินจะต้องเข้าจอดประจำ ซึ่งจุดนั้นจะมีกล้องวงจรปิด ทำให้รถขนเงินไม่สามารถเข้าจอดได้ จึงต้องขับไปจอดในจุดอื่นที่ไม่มีกล้องวงจรปิดคอยจับภาพ จากนั้นจึงอาศัยจังหวะที่พนักงานรถขนเงินทั้งหมดไปกินข้าว ใช้ความชำนาญเกี่ยวกับระบบรถขนเงิน ลงมือฉกเงิน 9.2 ล้าน ใส่รถขับหลบหนีไป อย่างไรก็ดี ทางตำรวจกำลังเร่งขยายผลว่ามีคนอื่นรู้เห็นอีกหรือไม่ และขณะนี้กำลังควบคุมตัว นายสุเมธ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ก่อนนำตัวไปแถลงข่าวต่อไป.
ด้าน พล.ต.ต.ประจวบ วงศ์สุข ผบก.สส.ภ.5 เปิดเผยว่า สอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหารับสารภาพว่า เป็นผู้ขโมยเงินจากรถขนเงินคันดังกล่าวจริง และทำเพียงคนเดียว โดยใช้รถเก๋งฮอนด้า ซิตี้ สีดำ หมายเลขทะเบียน ขฉ 5708 เชียงใหม่ ของตัวเองเป็นพาหนะในการก่อเหตุและขนเงินหลบหนี โดยวันเกิดเหตุได้วางแผนขับรถเก๋งไปจอดขวางจุดที่รถขนเงินจะต้องเข้าจอดประจำ ซึ่งจุดนั้นจะมีกล้องวงจรปิด ทำให้รถขนเงินไม่สามารถเข้าจอดได้ จึงต้องขับไปจอดในจุดอื่นที่ไม่มีกล้องวงจรปิดคอยจับภาพ จากนั้นจึงอาศัยจังหวะที่พนักงานรถขนเงินทั้งหมดไปกินข้าว ใช้ความชำนาญเกี่ยวกับระบบรถขนเงิน ลงมือฉกเงิน 9.2 ล้าน ใส่รถขับหลบหนีไป อย่างไรก็ดี ทางตำรวจกำลังเร่งขยายผลว่ามีคนอื่นรู้เห็นอีกหรือไม่ และขณะนี้กำลังควบคุมตัว นายสุเมธ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ก่อนนำตัวไปแถลงข่าวต่อไป.
จักรยานยนต์พุ่งเสยท้ายสิบล้อพ่วงเลี้ยวเข้าโรงงานตาย1เจ็บ1
เมื่อเวลา 03.00น. วันที่ 19 มีนาคม 2556 ร.ต.ต. ณัฏฐพล อุดน้อย ร้อยเวรสอบสวนสภ.คลองหลวง รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนท้ายรถบรรทุกพ่วงมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตให้มาตรวจสอบ ที่เกิดเหตุถนนเลียบคลองสาม หน้าบริษัท รังสิตรีไซเคิล จำกัด เลขที่ 25/5 หมู่ที่ 10 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยอาสาสมัครป่อเต็กตึ๊ง หน่วยกู้ชีพบัวเพชร แพทย์เวรร.พ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ
ในที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่ารุ่นมีโอสีดำ หมายเลขทะเบียน มมค 495 กทม.ล้มคว่ำอยู่กลางถนนสภาพด้านหน้ารถพังยับเยินชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์กระเด็นกระจัดกระจาย ใกล้กันพบผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน1รายซึ่งเป็นผู้ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ทราบชื่อต่อมานายธนพล เสนีวงศ์ อายุ 17ปี อยู่บ้านเลขที่ 69/76 ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี มีบาดแผลถลอกตามร่างกายกู้ชีพบัวเพชรนำส่งร.พ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ใกล้กับพบผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์เสียชีวิตอยู่บริเวณกลางถนนในลักษณะคว่ำหน้าศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ แขนขาทั้งสองข้างหัก ทราบชื่อผู้ตายเพียงชื่อเล่นนายเบส อายุ20ปี ห่างกันเล็กน้อยพบรถบรรทุกพ่วง18ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาวหมายเลขทะเบียนตัวแม่ 81-4436 เพชรบูรณ์ ลูกพ่วง 80-3482 เพชรบูรณ์ จอดอยู่ริมทางบริเวณไฟเลี้ยวด้านขวาท้ายรถมีร่องรอยการถูกชนจนได้รับความเสียหาย ใกล้กันพบนายสมบูรณ์ ศรีจันทร์ อายุ39ปี ผู้ขับขี่รถพ่วงยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่
นายสมบูรณ์ ศรีจันทร์ อายุ39ปี อยู่บ้านเลขที่ 27 หมู่ที่ ต.นางั่ว อ.เมืองเพชรบูรณ์ จ.เพชรบูรณ์ ผู้ขับขี่รถบรรทุกพ่วงให้การว่า ตนได้ขับรถบรรทุกกระดาษใช้แล้วมาเต็มคันรถจากจ.เพชรบูรณ์ เพื่อนำมาส่งที่โรงงานรังสิตรีไซเคิลจำกัด เมื่อมาถึงหน้าโรงงานตนกำลังชะลอความเร็วรถลงเพื่อเลี้ยวเข้าโรงงานจู่ๆก็มีรถจักรยานยนต์พุ่งชนท้ายอย่างแรงจนได้ยินเสียงดัง จึงจอดรถลงไปตรวจสอบก็พบมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบพร้อมประสานหน่วยกู้ภัย
ทางด้าน ร.ต.ต.ณัฏฐพล อุดน้อย ร้อยเวรสอบสวนสภ.คลองหลวง เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้เชิญตัวผู้ขับขี่รถยนต์สิบล้อพ่วงไปสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาพร้อมทั้งให้อาสาสมัครป่อเต็กตึ๊งนำร่างผู้เสียชีวิตส่งนิติเวชร.พ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อรอญาติรับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป
ในที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่ารุ่นมีโอสีดำ หมายเลขทะเบียน มมค 495 กทม.ล้มคว่ำอยู่กลางถนนสภาพด้านหน้ารถพังยับเยินชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์กระเด็นกระจัดกระจาย ใกล้กันพบผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน1รายซึ่งเป็นผู้ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ทราบชื่อต่อมานายธนพล เสนีวงศ์ อายุ 17ปี อยู่บ้านเลขที่ 69/76 ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี มีบาดแผลถลอกตามร่างกายกู้ชีพบัวเพชรนำส่งร.พ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ใกล้กับพบผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์เสียชีวิตอยู่บริเวณกลางถนนในลักษณะคว่ำหน้าศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ แขนขาทั้งสองข้างหัก ทราบชื่อผู้ตายเพียงชื่อเล่นนายเบส อายุ20ปี ห่างกันเล็กน้อยพบรถบรรทุกพ่วง18ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาวหมายเลขทะเบียนตัวแม่ 81-4436 เพชรบูรณ์ ลูกพ่วง 80-3482 เพชรบูรณ์ จอดอยู่ริมทางบริเวณไฟเลี้ยวด้านขวาท้ายรถมีร่องรอยการถูกชนจนได้รับความเสียหาย ใกล้กันพบนายสมบูรณ์ ศรีจันทร์ อายุ39ปี ผู้ขับขี่รถพ่วงยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่
นายสมบูรณ์ ศรีจันทร์ อายุ39ปี อยู่บ้านเลขที่ 27 หมู่ที่ ต.นางั่ว อ.เมืองเพชรบูรณ์ จ.เพชรบูรณ์ ผู้ขับขี่รถบรรทุกพ่วงให้การว่า ตนได้ขับรถบรรทุกกระดาษใช้แล้วมาเต็มคันรถจากจ.เพชรบูรณ์ เพื่อนำมาส่งที่โรงงานรังสิตรีไซเคิลจำกัด เมื่อมาถึงหน้าโรงงานตนกำลังชะลอความเร็วรถลงเพื่อเลี้ยวเข้าโรงงานจู่ๆก็มีรถจักรยานยนต์พุ่งชนท้ายอย่างแรงจนได้ยินเสียงดัง จึงจอดรถลงไปตรวจสอบก็พบมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบพร้อมประสานหน่วยกู้ภัย
ทางด้าน ร.ต.ต.ณัฏฐพล อุดน้อย ร้อยเวรสอบสวนสภ.คลองหลวง เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้เชิญตัวผู้ขับขี่รถยนต์สิบล้อพ่วงไปสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาพร้อมทั้งให้อาสาสมัครป่อเต็กตึ๊งนำร่างผู้เสียชีวิตส่งนิติเวชร.พ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อรอญาติรับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป