วันเสาร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2556
กรุงเก่าระดมจับเด็กแว้นกว่า80คัน
วันนี้(9 มิ.ย.) พ.ต.อ. ชัยยะ เพชรปัญญา ผกก.สภ.เมืองพระนครศรีอยุธยา พ.ต.ท.ศักดินา สุขมาก รอง ผกก.ป.พ.ต.ต.ชัยณรงค์ ทาสุวรรณ สวป.พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ อาสาสมัครตำรวจบ้าน รวมกว่า 50 นาย ทำการจับกุมแก๊งรถจยย. ซิ่ง ได้ 83 คัน บนนถนนสายเอเชีย ที่ลงจากสะพานเกือกม้ามุ่งหน้าเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 17 ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา โดยแก๊งซิ่งกลุ่มดังกล่าวมีประมาณกว่า 100 คันได้แข่งขันกันทั้งในเขตเกาะเมืองถนนโรจนะ และ บนถนนสายเอเชีย สร้างความเดือดร้อนรำคราญและเป็นอันตรายต่อ ประชาชนที่สัญจรขับขี่ยานพาหนะผ่านไปมา
เมื่อแก๊งซิ่งเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้พากันแตกฮือ แยกย้ายกันขี่รถจยย.หลบหนี แต่เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 76 คน รถจยย. 83 คัน ซึ่งบางคนได้ทิ้งรถวิ่งหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดรถจยย. เอาไว้ตรวจสอบ
ทั้งนี้สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ พ.ต.อ.ชัยยะ ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่สองฝั่งโรจนะและสัญจรผ่านไปมาในเส้นทางว่า มีแก๊งรถจยย. จำนวนมาก ได้ทำการประลองความเร็วกันเสียงดัง และเป็นอันตรายแก่ชาวบ้านที่สัญจรผ่านไปมา จึงได้วางแผนจับกุม ซึ่งจากผลการปฏิบัติ สามารถจับกุมได้ดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น และขับรถโดยประมาณหวาดเสียว ก่อนควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดี
กรุงเก่าระดมจับเด็กแว้นกว่า80คัน
วันนี้(9 มิ.ย.) พ.ต.อ. ชัยยะ เพชรปัญญา ผกก.สภ.เมืองพระนครศรีอยุธยา พ.ต.ท.ศักดินา สุขมาก รอง ผกก.ป.พ.ต.ต.ชัยณรงค์ ทาสุวรรณ สวป.พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ อาสาสมัครตำรวจบ้าน รวมกว่า 50 นาย ทำการจับกุมแก๊งรถจยย. ซิ่ง ได้ 83 คัน บนนถนนสายเอเชีย ที่ลงจากสะพานเกือกม้ามุ่งหน้าเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 17 ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา โดยแก๊งซิ่งกลุ่มดังกล่าวมีประมาณกว่า 100 คันได้แข่งขันกันทั้งในเขตเกาะเมืองถนนโรจนะ และ บนถนนสายเอเชีย สร้างความเดือดร้อนรำคราญและเป็นอันตรายต่อ ประชาชนที่สัญจรขับขี่ยานพาหนะผ่านไปมา
เมื่อแก๊งซิ่งเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้พากันแตกฮือ แยกย้ายกันขี่รถจยย.หลบหนี แต่เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 76 คน รถจยย. 83 คัน ซึ่งบางคนได้ทิ้งรถวิ่งหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดรถจยย. เอาไว้ตรวจสอบ
ทั้งนี้สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ พ.ต.อ.ชัยยะ ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่สองฝั่งโรจนะและสัญจรผ่านไปมาในเส้นทางว่า มีแก๊งรถจยย. จำนวนมาก ได้ทำการประลองความเร็วกันเสียงดัง และเป็นอันตรายแก่ชาวบ้านที่สัญจรผ่านไปมา จึงได้วางแผนจับกุม ซึ่งจากผลการปฏิบัติ สามารถจับกุมได้ดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น และขับรถโดยประมาณหวาดเสียว ก่อนควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดี
ออกภาพสเก็ตช์โจรจี้แบงค์กรุงไทยร่มเกล้าชิงเงิน 1.3 เเสน
จากกรณีมีคนร้ายเป็นชายรูปร่างท้วม สันทัด อายุประมาณ 30-35 ปี สวมหมวกกันน็อกแบบเต็มใบสีขาว บุกเข้ามาใช้อาวุธปืนจี้ชิงเงินจากธนาคารกรุงไทย สาขาร่มเกล้า โดยใช้เวาเพียงแค่ 25 วินาที ก่อนกวาดเงินสดจำนวน 1.3 เเสนบาท แล้วขับขี่ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีเขียว จำทะเบียนได้แค่ตัวเลขคือ 432 หลบหนีมุ่งหน้าไปทางลาดกระบังตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
วันนี้ (8 มิ.ย.) พ.ต.ท.สายันต์ เพ็ชรยืนยง รอง ผกก.สส.สน.ลาดกระบัง กล่าวถึงความคืบหน้าในการติดตามจับกุมคนร้ายคดีนี้ว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พ.ต.อ.เอก เอกศาสตร์ รอง ผบก.น.3 ได้เรียกเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ลาดกระบัง และกก.สส.บก.น.3 เข้าร่วมประชุมเพื่อแบ่งงานกันทำในการติดตามจับกุมคนร้าย โดยให้ฝ่ายสืบสวน กก.สส.บก.น.3 ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดเส้นทางที่คนร้ายขี่จยย.มาก่อเหตุ และเรื่องรถจยย.ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ ส่วนฝ่ายสืบสวน สน.ลาดกระบัง ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดเส้ยทางการหลบหนีของคนร้าย ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าคนร้ายใช้เส้นทางหลบหนีไปมุ่งหน้าไปทางลาดกะบัง โดยขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบว่าคนร้ายจะใช้เส้นทางหลบหนีไปทางใด
พ.ต.ท.สายันต์ กล่าวต่อว่า สำหรับการสอบปากคำพยานนั้น เบื้องต้นได้ทำการสอบปากคำพนักงานส่งเอกสารคนหนึ่งที่กำลังจะมาแลกเช็คที่ธนาคาร และหันไปเห็นคนร้ายขณะกำลังขี่รถจยย.หลบหนีออกไปมาสอบปากคำเพิ่มเติมแล้ว โดยทะเบียนรถจยย.ของคนร้ายนั้นเป็นแบบเก่า ที่มีเส้นสีแดงคาดกลาง ซึ่งขณะนี้กำลังตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งว่า เป็นหมวดอักษรและหมวดจังหวัดใด นอกจากนั้นยังได้ให้พยานที่เห็นหน้าคนร้ายก่อนก่อเหตุไปทำการสเก็ตช์ภาพมาเรียบร้อยแล้วเช่นกัน
ด้าน พ.ต.อ.ภิรมย์ สวนทอง ผกก.สส.บก.น.3 กล่าวว่า ได้สั่งให้ฝ่ายสืบสวน กก.สส.บก.น.3 กำลังตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมทั้งบริเวณด้านหน้าธนาคาร ร่วมไปถึงเส้นทางที่คนร้ายใช้หลบหนีเพิ่มเติม ซึ่งคนร้ายหลบหนีมุ่งหน้าไปทางลาดกระบัง และเชื่อว่าน่าจะหลบหนีมุ่งหน้าออกไปถนนมอเตอร์เวย์ นอกจากนี้ยังนำภาพคนร้ายที่กล้องวงจรปิดบันทึกเอาไว้ได้ไปให้ชาวบ้านในละแวกที่เกิดเหตุดูว่าพอจะมีใครพอคุ้นกับคนร้ายที่มีรูปพรรณสันฐานแบบนี้หรือไม่ รวมทั้งรอผลการตรวจพิสูจน์ลายนิ้วมือแฝงของคนร้ายบริเวณหน้าธนาคารที่เกิดเหตุจากเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเพิ่มเติมอีกด้วย
พ.ต.อ.ภิรมย์ กล่าวต่อว่า สำหรับรถจยย.ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุนั้น เบื้องต้นทราบว่าเป็นรถจยย.ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 100 สีเขียว ซึ่งพยานจดจำหมายเลขทะเบียนได้คือ 432 ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีอยู่หลายคันเช่นกัน ซึ่งขณะนี้กำลังตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ทั้งนี้ยังได้ตรวจสอบในประเด็นของ รปภ.ของธนาคารที่เกิดเหตุเพิ่มเติมด้วย เนื่องจากเป็น รปภ.จากบริษัทรักษาความปลอดภัย และซึ่งในวันเกิดเหตุ รปภ.คนประจำธนาคารสาขาที่เกิดเหตุนั้นได้แจ้งลากับทางบริษัท โดยอ้างว่าไปงานศพต่างจังหวัด ทำให้ทางบริษัทต้องส่งรปภ.อีกคนมาแทน แต่จากการตรวจสอบแล้วพบว่า เจ้าตัวไม่ได้เดินทางไปต่างหวัดแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังมีรปภ.อีก 2 คนที่เคยมาประจำธนาคารสาขาที่เกิดเหตุ และถูกไล่ออกไป ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบว่าทั้งหมดมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่