เบื้องต้นจึง แจ้งข้อหา”ประกอบกิจการให้เช่า แลกเปลี่ยนหรือจำหน่ายภาพยนตร์ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าพนักงาน” “มีไว้ซึ่งวีซีดีและดีวีดีที่ไม่ผ่านการตรวจของพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อจำหน่ายอันเป็นการฝ่าฝืนพ.ร.บ.ภาพยนตร์และวีดีทัศน์ พ.ศ.2552 มาตรา43” และ”เพื่อประสงค์แห่งการค้าหรือโดยการค้าเพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงแก่ประชาชนซึ่งภาพยนตร์อันลามก” จากนั้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสน.พลับพลาไชย 1 แจ้งข้อหาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.
วันเสาร์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2556
กวาดล้างแผ่นหนังเถื่อนและลามกอนาจาร
เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (16 มี.ค.) พ.ต.ท.บุญโชค ยันต์วิเศษ หัวหน้าชุดเฉพาะกิจปราบปรามสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ทางปัญญา สตช. พ.ต.ท.สัมพันธ์ เหลืองสัจจกุล สว.สส.สน.พลับพลาไชย 1 พร้อมพวก ลงพื้นที่ตลาดคลองถม ถนนวรจักร แขวงและเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กวาดล้างแผงค้าดีวีดีภาพยนตร์ละเมิดลิขสิทธิ์และลามกอนาจาร โดยสามารถจับกุมผู้ค้าแผ่นดีวีดีภาพยนตร์ละเมิดลิขสิทธิ์ทั้งไทยและต่างประเทศ ได้ 10 ราย ยึดของกลาง เป็นแผ่นดีดวีดี ภาพยนตร์ละเมิดลิขสิทธิ์และลามกอนาจาร จำนวน 30,000 แผ่น รวมมูลค่าความเสียหายนับแสนบาท พ.ต.ท.บุญโชค เปิดเผยว่า ทั้งนี้สืบเนื่องจาก เจ่้าหน้าที่ได้รับการร้องเรียนว่า มีการค้าขายซีดี ดีวีดี ภาพยนตร์ผิดลิขสิทธิ์จำนวนมากในบริเวณดังกล่าวจึงประสานพื้นที่เข้ากวาดล้างจับกุมผู้ต้องหา 10 คน แบ่งเป็นชาย 5 คน และ หญิง 5 คน สอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาต่างให้การว่าเป็นเพียงลูกจ้างดูแลร้าน
เบื้องต้นจึง แจ้งข้อหา”ประกอบกิจการให้เช่า แลกเปลี่ยนหรือจำหน่ายภาพยนตร์ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าพนักงาน” “มีไว้ซึ่งวีซีดีและดีวีดีที่ไม่ผ่านการตรวจของพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อจำหน่ายอันเป็นการฝ่าฝืนพ.ร.บ.ภาพยนตร์และวีดีทัศน์ พ.ศ.2552 มาตรา43” และ”เพื่อประสงค์แห่งการค้าหรือโดยการค้าเพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงแก่ประชาชนซึ่งภาพยนตร์อันลามก” จากนั้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสน.พลับพลาไชย 1 แจ้งข้อหาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.
เบื้องต้นจึง แจ้งข้อหา”ประกอบกิจการให้เช่า แลกเปลี่ยนหรือจำหน่ายภาพยนตร์ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าพนักงาน” “มีไว้ซึ่งวีซีดีและดีวีดีที่ไม่ผ่านการตรวจของพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อจำหน่ายอันเป็นการฝ่าฝืนพ.ร.บ.ภาพยนตร์และวีดีทัศน์ พ.ศ.2552 มาตรา43” และ”เพื่อประสงค์แห่งการค้าหรือโดยการค้าเพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงแก่ประชาชนซึ่งภาพยนตร์อันลามก” จากนั้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสน.พลับพลาไชย 1 แจ้งข้อหาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.
ขัดแย้งธุรกิจมืดตามยิงถึงห้องพักเสียชีวิต
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 16 มี.ค. พ.ต.ท. อาวุธ อุดมรัตน์ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สน.สำเหร่ รับแจ้งมีเหตุยิงกันตายภายในโรงแรม เวนิส โฮเต็ล ซอยเจริญนคร 35 แขวงบางลำภูล่าง เขตคลองสาน กทม. จึงไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.สุรเดช เด่นธรรม พ.ต.อ.จีรศักดิ์ ขำคง. รองผบก.น.8. พ.ต.ท.บวร สุภิสิงห์ สว.กก.สส.บก.น.8. ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.จุฬา และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู ที่เกิดเหตุเป็นโรงแรมม่านรูด 3 ชั้น จุดเกิดเหตุอยู่ภายในห้องนั่งเล่นภายในหมายเลขห้อง A2 ชั้น 3 ซึ่งเป็นห้องสูทขนาด 2 เตียง พบศพ นาย ไพรัตน์ รอดอุสาห์ อายุ 46 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. ที่หน้าอกด้านซ้าย ทะลุสีข้างซ้าย นอนตะแคงข้างเสียชีวิต จมกองเลือดข้างโต๊ะกินข้าว ในที่เกิดเหตุพบ ปลอกกระสุนขนาดเดียวกัน 2 ปลอกและหัวกระสุนฝังคากำแพงห้องน้ำ 1 หัว และโทรศัพท์มือถือ นอกจากนี้ พบ ยาไอซ์น้ำหนัก 5 กรัม บรรจุซองพลาสติกใสขนาดเล็ก พร้อมอุปกรณ์การเสพ ขวดน้ำ บนโต๊ะอาหารพบสำรับข้าวกระจายเกลื่อน สอบสวนเบื้องต้น นายรุ่งโรจน์ สำเภาดี อายุ40 ปี พนักงานต้อนรับของโรงแรม ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงบ่ายวันที่ 15 มี.ค. ที่ผ่านมา พบผู้ตายกับเพื่อนขับขี่รถจยย.ยามาฮ่า โนวา สีเหลือง ทะเบียน ปตท 449 กทม. ซ้อนท้ายกันเข้ามาเปิดห้องพักที่เกิดเหตุ กระทั่งช่วงเช้ามืดวันนี้ พบเพื่อนผู้ตายออกจากจากห้องพัก ก่อนที่ผู้ตายจะตามไปในช่วงสาย แล้วย้อนกลับเข้ามาเพียงคนเดียว ในช่วงบ่าย จากนั้น ประมาณ 10 นาที คนร้ายเป็นชาย อายุประมาณ60 ปี สวมเสื้อยืดแขนและกางเกงขาสามส่วนสีขาว จึงขับขี่รถจยย. มาฮ่า ฟีโน่ สีชมพู ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน เข้าไปหาผู้ตายในห้อง สักพักจึงได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด ก่อนคนร้ายจะวิ่งออกจากห้องขึ้นรถจยย.ขับขี่หลบหนีไป ตนและพนักงานยจึงรีบวิ่งเข้าไปดูในห้อง และพบผู้ตายเสียชีวิตในลักษณะดังกล่าว จึงรีบแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ
ด้านนายกรกฏ รอดอุส่าห์ อายุ 43 ปี น้องชายผู้ตายให้การว่า ปกติพี่ชายทำงานให้กับนายจรัส หรือศักดิ์ ติงลี่ ซึ่งเป็นเจ้ามือโต๊ะรับพนันบอล หวยปิงปอง และธุรกิจผิดกฎหมายอีกหลายอย่าง โดยพี่ชายจะเปรียบเสมือนมือขวา ที่นายศักดิ์ให้ความไว้วางใจเป็นพิเศษ จึงไม่ทราบสาเหตุว่าเหตุใดจึงต้องยิงฆ่าพี่ชายตน ส่วนเรื่องประเด็นที่พี่ชายถูกระบุว่าเกี่ยวข้องพัวพันกับยาเสพติดตนไม่ทราบ ด้าน พ.ต.ท. อาวุธ เผยว่า จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายและเพื่อนได้ เปิดห้องพักที่เกิดเหตุ และเดินทางเข้า-ออก โรงแรมหลายครั้ง กระทั่งช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ หลังผู้ตายกลับเข้ามาที่ห้องพักเพียงคนเดียว นาย จรัส แย้มวงศ์เดือน หรือ”ศักดิ์ ติ่งลี่ ”อายุ 62 ปี ได้ตามผู้ตายเข้าไปในห้องพักก่อนจะมีเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด จากนั้น นายจรัส จึงรีบวิ่งหนีออกจากห้องไปขึ้นรถจยย.หลบหนีไป แนวทางการสืบสวนทราบว่า นาย สมจรัส แย้มวงศ์เดือน หรือ”ศักดิ์ ติ่งลี่ ” เป็นขาใหญ่ย่านฝั่งธนบุรี มีทั้งกิจการโต๊ะบอล ยาเสพติดและธุรกิจผิดกฎหมาย ส่วนผู้ตายเป็นลูกน้องคนสนิทของ นาย สมศักดิ์ เองในชั้นนี้คาดว่าสาเหตุที่ฆ่ากันตายน่าจะมาจากเรื่องขัดผลประโยชน์ธุรกิจบางอย่าง เนื่องจากตรวจสอบข้อมูลโทรศัพท์พบว่านายจรัสได้โทรเข้าเครื่องผู้ตายหลายครั้งเพื่อตกลงปัญหา และไม่สามารถตกลงกันได้ ทำให้นายศักดิ์ ไม่พอใจจึงตามมายิงผู้ตาย อย่างอุกอาจเช่นนี้ อย่างไรก้ตามชุดสืบสวนจะได้ติดตามจับกุมนายจรัสมาดำเนินคดีต่อไป.