ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวยกสูง บริเวณลานดินหน้าบ้านเจ้าหน้าที่พบศพผู้ตายจำนวน 3 ศพ ศพแรกบริเวณหน้าบ้านชื่อ ด.ญ.พรพิมล ดำมี อายุ 13 ปี สภาพศพมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธขนาด .38 เข้าลำตัวจำนวน 1 นัดนอนตายในลักษณะคว่ำหน้า และห่างไปประมาณ 10 เมตร บริเวณข้างบ้านพบศพผู้ชายและผู้หญิง 2 ศพในสภาพนอนหงายศีรษะหันไปคนละฝั่งแต่เท้าเกยทับกัน ข้าง ๆ ศพของสองสามีภรรยาต่างวัยพบสุนัขพันธุ์พุดเดิ้ลตัวหนึ่งที่ครอบครัวของผู้ตายเลี้ยงเอาไว้นอนเฝ้าศพไม่ยอมห่าง และไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้ศพ เจ้าหน้าที่ต้องให้ญาติ ๆ ของผู้ตายจับสุนัขตัวดังกล่าวออกไปก่อนเข้าตรวจสอบชันสูตรพลิกศพ ซึ่งศพผู้ชายชื่อนายเรียม ผิวล้วน อายุ 76 ปี สภาพศพมีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนขนาด .38 เข้าขมับขวา 1 นัดกระสุนฝังใน ข้างศพที่ใกล้มือด้านขวาพบอาวุธปืนพกสั้นขนาด .38 จำนวน 1 กระบอกตกอยู่ใกล้ ๆ ทราบว่าเป็นอาวุธปืนของนายเรียม ผู้ตาย ศพ ส่วนศพผู้หญิงชื่อนางภรรัตน์ สุขงอม 46 ปี เจ้าของบ้านเกิดเหตุ สภาพถูกยิงด้วยอาวุธปืนเดียวกันเข้ากลางหน้าอกซ้ายกระสุนฝังใน 1 นัด เลือดสด ๆ ไหลทะลักนองพื้นที่ส่งกลิ่นเหม็นคราวคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืน.38 ตกอยู่จำนวน 4 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานประกอบคดีต่อไป
จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่านายเรียม ผู้ตาย 1 ใน 3 ศพ เป็นผู้ก่อเหตุสยองครั้งนี้ ในอดีตเป็น อส.ประจำอำเภอสิชล จ.นครศรีธรรมราช ส่วนนางภรรัตน์ ได้เลิกรากับสามีเก่าเมื่อ 3 ปีก่อน และได้มาอยู่กินกับนายเรียม ที่บ้านที่เกิดเหตุ โดยนางภรรัตน์ ได้มีลูกติด 2 คนเป็นลูกชายวัย 19 ปี และ ด.ญ.พรพิมล ลูกสาววัย13 ปี ซึ่งนางภรรัตน์ มีอาชีพขายผักตามตลาดนัด โดยทุกวันนางภรรัตน์ จะขับรถยนต์กระบะตระเวนไปขายผักตามตลาดนัดทั้งในและต่างอำเภอ
ก่อนเกิดเหตุนางภรรัตน์ ได้ขับรถยนต์กระบะกลับจากขายผักตามตลาดนัดแห่งหนึ่ง เมื่อกลับบ้านพัก ได้นำรถเข้าโรงจอดรถข้างบ้าน ในขณะที่นายเรียม ยืนรอเมียรักอยู่หน้าบ้าน และตรงเข้าไปหานางภรรัตน์ พร้อมสอบถามเรื่องที่นางภรรัตน์ กลับบ้านผิดเวลา ทั้งนี้เนื่องจากนายเรียม เกรงว่านางภรรัตน์ เมียรักคราวลูกคราวหลานจะปันใจไปให้ชายอื่นจึงเกิดหึงหวงเมียสาว พร้อมต่อว่านางภรรัตน์ ต่าง ๆ นานา จนทั้งคู่เกิดมีปากเสียงทะเลาะกันอย่างรุนแรง ในขณะที่ ด.ญ.พรพิมล แอบยืนดูแม่และพ่อเลี้ยงทะเลาะกันอยู่ห่าง ๆ
จนกระทั้งนายเรียม บันดาลโทสะชักอาวุธปืนออกมาจ่อยิงนางภรรัตน์ 1 นัดล้มคว่ำเสียชีวิตคาที่ ด.ญ.พรพิมล บุตรสาวของนางภรรัตน์ เห็นแม่ถูกยิงจนล้มฟุบจมกองเลือดจึงรีบวิ่งเข้าไปช่วยเหลือแม่จึงถูกพ่อเลี้ยงใจโหดจ่อยิงจนล้มฟุบเสียชีวิตเป็นศพที่ 2 หลังจากนั้นนายเรียม เฒ่าจอมหึงโหดได้หันปากกระบอกปืนจ่อยิงหัวตัวเองฆ่าตัวตายตามเป็นศพที่ 3 เพื่อหนีความผิดดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นที่วิพากวิจารณ์ของชาวบ้านอย่างกว้างขวาง และถือเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญคดีแรกที่เกิดขึ้นในพื้นที่ หลังจากเจ้าหน้าที่ได้ทำการชันสูตรพลิกศพเสร็จแล้วได้มอบศพให้กับญาตินำศพไปจัดการตามประเพณีต่อไป.