ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ
www.becomz.com

  • ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ รามคำแหง

    ซ่อมคอมถึงบ้าน,ซ่อมคอมพิวเตอร์ถึงบ้าน,ซ่อมคอมนอกสถานที่,ซ่อมคอมพิวเตอร์ นอกสถานที่,วางระบบอินเตอร์เน็ต,วางระบบแลน,ระบบเน็คเวิร์ค,เขียนโปรแกรมเว็บไซด์,ดูแลคอมพิวเตอร์แบบรายเดือน-รายปี,พร้อมบริการด้านไอทีจ่าย. สนใจติดต่อ 095-954-4524

  • หากคุณกำลังมองหาสถานที่ รับซ่อมคอมถึงที่

    ราคือหน่วยรับซ่อมคอมพิวเตอร์ถึงที่ ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน ที่ทำงาน บริษัท ห้าง ร้าน สถานสงเคราะห์ โรงเรียน โรงพยาบาล ฯลฯ เราจะไปบริการซ่อมให้ในราคาสุดประหยัด ถูกกว่ายกไปซ่อมที่ห้างหรือร้านซ่อมแน่นอน เนื่องจากทางร้านของเราไม่ต้องเสียค่าเช่าพื้นที่ จึงสามารถลดต้นทุนในส่วนนี้ได้. สนใจติดต่อ 095-954-4524

  • www.becomz.com ให้บริการถึงที่

    บริการซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ โดยไม่ต้องยก เครื่องคอมให้เหนื่อย หรือ เสียเวลา การทำงานของคุณ เรา คือ ทางออกสำหรับคุณ ที่จะไป บริการถึงบ้าน ที่บ้าน หรือ อ๊อฟฟิต ( office ) และ คอนโด อาพาทเม้น ทุกสถานที่ พร้อม ทั้ง ให้ บริการซ่อมคอมพิวเตอร์ 24 ชั่วโมง สำหรับ ลูกค้าบางท่านที่สะดวก. สนใจติดต่อ 095-954-4524

  • ค่าบริการ

    – ซ่อมโปรแกรม แก้ปัญหาด้านโปรแกรมทั่วไป เครื่องละ 500 บาท – เเละลง Driver 300 บาท รวมกับ ซ่อมปกติเป็น 700 บาท – อะไหล่เสีย จะแจ้งราคาอะไหล่ก่อนซ่อม (ลูกค้าสามารถจัดหาอะไหล่เองได้) เพื่อความมั่นใจ ซ่อมเสร็จเรารับประกันซอฟเเวร์ 7วัน พร้อมให้คำแนะนำ และบริการหลังซ่อม ตลอดการรับประกันน ติดตั้งให้ถึงที่ .สนใจติดต่อ 095-954-4524

  • รับซ่อมทุกปัญหา โทรมาคุยกันก่อนได้ครับ

    – บริการอัพเกรดเครื่อง แก้ปัญหาเครื่องช้า รวนบ่อย ค้างบ่อย – บริการติดตั้ง แก้ปัญหา ระบบคอมพิวเตอร์ ระบบแลน-อินเตอร์เน็ต – บริการลงวินโดว์, ลงโปรแกรม, แก้ไวรัส, แก้ปัญหาต่างๆ – บริการฝากซ่อม-เคลม อะไหล่คอมฯ และสินค้าไอที ทุกชนิด – บริการจัดสเป๊คเครื่อง จัดชุดคอมมือ1-2 พร้อมใช้งาน ติดตั้งให้ถึงที่ .สนใจติดต่อ 095-954-4524

วันพุธที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2558

สอน ทำรูป พาโนราม่า Panorama

ถ่ายภาพพาโนราม่า (Panorama) และ ต่อภาพใน Photoshop CS5

ภาพพาโนราม่า ทุกคนน่าจะเคยเห็นใช่มั้ยคะ ที่มันเป็นภาพยาวๆ เห็นบรรยากาศของสถานที่นั้นเยอะกว่าภาพขนาดปกติ บางทีเหมือนกับว่าเราไปอยู่ในสถานที่นั้นด้วยตัวเองเลย (ขนาดนั้น ; P)


เมื่อก่อนก็รู้สึกว่า ไม่เห็นจะชอบดูภาพแบบนี้เลย แต่พอครั้งหนึ่งเกิดปัญหาว่า ทำไงดี เก็บภาพ Object ที่ต้องการไม่ครบ มันขาดๆ อยากได้องค์ประกอบแบบที่คิดไว้ ที่ไม่ใช้ Character ของเลนส์ Wide ทำไงดี ก็ได้รับคำแนะนำให้ถ่ายแบบพาโนรามา ก็เลยทำให้เก้ารู้สึกว่ามันมีประโยชน์มากเลยค่ะ มันดียังไง ??

+ มันช่วยทำให้เราเก็บภาพบรรยากาศได้ครบถ้วน เช่น ภาพธรรมชาติ ทะเล ภูเขา
+ กรณีที่ ถ้าเราไปอยู่ในสถานที่แคบๆ แล้วเราไม่มีเลนส์ Wide หรือเราไม่อยากได้ Character ของเลนส์ Wide แต่เราอยากถ่ายภาพ Object ชิ้นนึงที่ใหญ่โตเกินกว่าเลนส์ที่เรามีอยู่จะเก็บได้หมดใน Shot เดียว เราสามารถเก็บภาพได้ด้วยการถ่ายภาพแบบพาโนรามา

แล้วมันถ่ายยังไง ?? พูดง่ายๆ ก็จะบอกว่า ก็ถ่ายภาพให้มันเรียงกันไป แล้วเอามาต่อกันใน Photoshop แต่พอทำเข้าจริงๆ มันไม่ได้ภาพอย่างที่คิดแฮะ

- แสงไม่เท่ากัน เอามาต่อกันแล้วไม่เนียน
- ต่อกันไม่ได้ เพราะหารอยต่อของภาพไม่เจอ
- เสียเนื้อภาพไปเยอะมากเพราะมือเราไม่นิ่ง กลายเป็นภาพพาโนฯ  แบบตีบๆ
- Object ที่ต้องการหัวขาดบ้าง ท้ายขาดบ้าง
และอื่นๆ อีกมากมาย

เก้ามี Tip  มาแนะนำให้การถ่ายภาพพาโนราม่าที่ไม่ยุ่งยาก และไม่ประสบปัญหาอย่างที่ List ไว้ด้านบนค่ะ แต่ก่อนสิ่งใดๆ เลย หยิบเลนส์ Normal มาเสียบนะคะ อย่างใช้เลนส์ที่มี Distortion สูงๆ อย่างเลนส์ Wide นะ ไม่งั้นต่อภาพไม่ได้นะคะ

ก่อนอื่นอยากให้รู้กันก่อนว่า การถ่ายภาพพาโนราม่า มีทั้งแบบแนวนอน และแนวตั้งนะคะ (แม้ว่า คำว่า Panorama ตามปกติทั่วไป จะหมายถึงแนวนอนก็ตาม แต่เราก็สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในแนวตั้งก็ได้) งั้นเรามาเริ่มดูกันที่การถ่ายพาโนราม่าแบบแนวนอนกันก่อนดีกว่าค่ะ (เพราะถ้ารู้แนวนอน แนวตั้งก็ไม่อยากแล้วล่ะค่ะ) มาดูกันเลย

1. จัดองค์ประกอบภาพซะก่อน 
(เพื่อให้พระเอกของภาพหัว-ท้ายไม่ขาด)
คิดก่อนว่า ภาพของเราจะออกมาหน้าตาอย่างไร จินตนาการไว้เลย จะเก็บแบบ 360 องศาไปเลยมั้ย หรือจะเก็บแค่ครึ่งเดียว คือ 180 องศา พระเอกของภาพคืออะไร (อย่าคิดว่า ถ่ายภาพพาโนราม่าไม่ต้องมีพระเอกนะคะ) เอากล้องมาส่องดูในช่องมองภาพ แล้วหมุนหันดูให้ครบองศาที่เราต้องการว่า พระเอกของเราหัวขาด หรือท้ายขาดหรือเปล่า จะได้ตั้งระดับแขนถูก

2. การจัดท่าทางให้หมุนตัวได้ครบองศาภาพที่ต้องการ (ตามที่เราจัดองค์ประกอบไว้ในใจ)
พอเราจัดองค์ประกอบภาพแล้ว เราจะรู้ว่า จะต้องตั้งต้นที่ภาพแรกด้านไหนถูกมั้ยคะ เทคนิค อยู่ที่การทำเท้าค่ะ ให้นึกภาพรูปวงกลม 1 วง (360 องศา) แล้วแบ่งออกเป็น 4 ส่วน (ส่วนละ 90 องศา) เราจะทำเท้าเป็นรูป 1 ใน 4 ของวงกลม ส่วนละ 90 องศาไปทีละส่วน

ที่ Shot แรก ให้เท้าซ้ายตั้งฉากกับเท้าขวา และตัวเราจะหันหน้าไปทางเดียวกันกับเท้าซ้าย แล้วถ่ายภาพเรียงไป ไล่ไปทางด้านขวา จนตัวเราหันหน้ามาทางเดียวกันกับเท้าขวา ถือว่าสุดส่วนที่ 1 (1 ใน 4 ของวกลม) ทำแบบนี้ไปทีละส่วน จนครบองศาภาพที่เราต้องการ ถ้าต้องการภาพแบบ 360 องศาเลย ก็ทำไปให้ครบ 4 ส่วนไปเลย





3. ปรับกล้องไปโหมด M (เพื่อให้ภาพแต่ละ Shot เป็นแสงเดียวกัน นำมาต่อกันได้เรียบเนียน)
เราต้องปรับกล้องไปที่โหมด M เพราะอะไร ??? โดยปกติ เราจะถ่ายภาพในโหมด AV ใช่มั้ยคะ เราก็กำหนดแค่ค่า F กล้องจะกำหนด Speed Shutter ให้เราเองอัตโนมัติ ทีนี้ ลองหันกล้องไปทางอื่นสิคะ จะเห็นเลยว่า ค่า Speed Shutter มันจะเปลี่ยน หันไปอีกทาง Speed Shutter ก็เปลี่ยนอีก ทำไงดีล่ะ เราอยาก Fix มันไว้แบบนี้ นี่แหล่ะค่ะ คือสาเหตุที่ทำไมเราต้องปรับไปโหมด M เพื่อกำหนดค่า F และ Speed Shutter ให้คงที่

งั้นเรามาทำตาม Step ต่อไปนี้กันดีกว่า
3.1 หันกล้องไปที่ตัวพระเอกของภาพในโหมด AV
3.2 จำค่า F, Speed Shutter ที่ได้จากการโฟกัสเอาไว้ในใจ (ถ้า Speedshutter ที่ได้ทำให้เราถือถ่ายไม่ได้ เราก็ต้องดัน ISO ให้เราถือถ่ายได้นะ แล้วจำค่านั้นไว้)
3.3 เปลี่ยนโหมดจาก AV ไปเป็นโหมด M
3.4 ปรับค่า F, Speed Shutter, ISO ที่ได้จำไว้จากโหมด AV

วิธีการนี้ จะทำให้ภาพที่ได้แสงเท่ากัน ไม่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาตามองศาการหมุนตัวของเรา

4. ถือกล้องในแนวตั้ง (เผื่อการเสียเนื้อภาพเวลาต่อภาพใน Photoshop)
เพราะเวลาที่เราถ่ายภาพไปทีละ Shot บางที เราอาจจะล็อคแขนไม่นิ่งพอ เวลาเอาภาพมาต่อกัน มันจะเป็นคลื่นๆ ที่ขอบภาพ ซึ่งตรงนี้ เราต้องหั่นทิ้งแน่นอน ดังนั้น เผื่อเหลือเผื่อขาด เพื่อจะได้หั่นทิ้งโดยองค์ประกอบภาพของเรายังอยู่ครบ เราต้องเผื่อ Space ไว้ให้หั่นขอบทิ้งได้ด้วยค่ะ



(ภาพ ที่เห็นขอบหยักๆ เป็นคลื่นๆ ที่เราต้องหั่นทิ้งใน Photoshop)


5. หันไปโฟกัสพระเอกของภาพ การที่เราหันไปโฟกัสพระเอกของภาพก่อน เพราะเราต้องการให้พระเอกของภาพชัดค่ะ (ให้นึกภาพเวลาที่เราถ่ายภาพปกติ เราย่อมอยากให้ตัวเอกของเราชัด แล้วที่เหลือของภาพ ก็ปล่อยมันไป)

6. ทำสัญลักษณ์ให้รู้ว่า ชุดภาพพาโนราม่าของเรา เริ่มที่ Shot แรกภาพไหน และ จบที่ Shot สุดท้ายภาพไหน

เพราะเวลาที่เราเก็บภาพพาโนราม่า เราจะมีภาพอยู่หลาย Shot มากๆ แล้วยิ่งถ้าเราเก็บพาโนราม่าหลายใบ ใน Memory ของเราก็จะยิ่งมี ภาพเยอะมหาศาล พอเราจะเอาภาพลงเครื่องคอมพิวเตอร์ อาจจะทำสับสนได้ว่า Shot ไหนเป็น Shot เริ่ม แล้ว Shot เป็น Shot จบกันละหว่า แล้วยิ่งเป็นสถานที่ธรรมชาติ ที่มันดูเหมือนๆ กันไปหมด ชีวิตจะมืดมนมาก ต้องนั่งไล่แบบ Manual กันจนปวดหัวล่ะค่ะ

ดังนั้นเพื่อความสะดวก และง่ายในการจัดชุด Shot ของพาโนราม่า ทุกครั้ง ให้ทำสัญลักษณ์ไว้ก่อนถ่าย Shot แรก และหลังจากถ่าย Shot สุดท้ายแล้ว มันจะเป็นแบบประมาณแบบนี้

Start Shot1     Shot2     Shot3     Shot4     Shot5     Shot6     Shot7     Shot8     Shot9     Shot10     Stop ---> นี่คือ 1 ชุดของภาพพาโนราม่า



แล้วเราก็ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ พอเอาภาพลงคอมพิวเตอร์ เราจะเห็นสัญลักษณ์ภาพที่เราทำไว้ จะเห็นภาพทันทีว่า อ๋อ นี่คือชุดภาพชุดแรก นี่คืออีกชุดนึงแล้ว

เราจะถ่ายอะไรก็ได้เลยนะคะ ที่ทำให้เราไม่งงทีหลังแค่นั้นเอง อย่างภาพนี้เบญเค้าถ่ายภาพนิ้วตัวเองเป็นสัญลักษณ์ไว้



ข้อควรระวัง : อย่าเผลอไปกดโฟกัสสัญลักษณ์ของตัวเองล่ะ เพราะไม่งั้น ตัวพระเอกของเราจะไม่ชัดนะจ๊ะ

7. ถ่ายภาพให้ Overlap กัน 20% เสมอ (เพื่อจะได้ต่อภาพใน Photoshop ได้เนียนที่สุด)
มันคืออะไรหนอ ?? พอเราถ่าย Shot ที่ 1 ให้เราจำขอบขวาสุดของภาพ Shot 1 ไว้ว่าอยู่ตรงไหน แล้วเราเลื่อนกล้องตามมา ให้ขอบซ้ายมาทับซ้อนกัน โดยกินพื้นที่ซ้อนกันประมาณ 20% ของภาพ



Tip : จริงๆ แล้ว ถ้าไม่มั่นใจในการจดจำขอบภาพ เราจะให้มัน Overlap กันมากกว่า 20% ก็ได้นะ เก้ามักจะเอาชัวร์คือ ถ่ายมาแบบถี่ๆ เลยค่ะ ซ้อนทับกันมากไม่เป็นไร ดีกว่าขาด แล้วต่อภาพไม่ได้ เสียพาโนราม่าไปทั้งชุด อาจทำให้จิตตกไปเลย เพราะถ้าเป็นสถานที่ที่เราไม่ค่อยจะมีโอกาสได้ไปอีก ก็น่าเสียดายใช่มั้ยคะ

ข้อควรระวัง : อย่าเผลอกดโฟกัสในแต่ละ Shot นะคะ เพราะไม่งั้นเท่ากับว่าเราเปลี่ยนการโฟกัสไปจากตัวพระเอกของเรา ทำให้พระเอกไม่ชัดนะจ๊ะ

เสร็จแล้วค่ะ สำหรับการถ่ายภาพพาโนราม่าแนวนอน ไปต่อภาพกันดีกว่า

เปิดโปรแกรม Photoshop เลือก Mini Bridge (สำหรับคนที่ใช้ Photoshop CS3 หรือ CS4 จะไม่มี Mini Bridge ดังนั้นจะสามารถ Merge ภาพได้ที่เมนูตามนี้ File > Automate > Photomerge แล้วก็เลือกไฟล์ที่ต้องการได้เลย)



เราจะเห็น Set ภาพพาโนราม่าที่เราถ่ายไว้ เราก็จะเห็นเลยว่า ชุดภาพพาโนราม่าของเรามันเริ่มที่ Shot ไหน และจบที่ Shot ด้วยสัญลักษณ์ที่เ่ราทำไว้



เลือก Photomerge ตามภาพนี้ค่ะ



รอซักครู่ จะมี Popup ขึ้นมาแบบนี้ แล้วกด OK



หลังจากที่กดปุ่ม OK ก็ต้องรอซักพักเลยค่ะ ยิ่งถ้าถ่ายมาหลาย Shot ในแต่ละชุดพาโนฯ ก็จะยิ่งรอนานค่ะ พอ Photoshop ทำงานเสร็จ เราะเห็น ภาพมันแต่ละ Shot มันมาต่อกัน แต่จะเห็นขอบเป็นคลื่นๆ แบบนี้ แล้วมันแสดงเป็นหลาย Layer ค่ะ

เราต้องรวม Layer ทั้งหมดให้เป็นอันเดียวกัน โดยกด Layer > Merge Layers



หลังจากที่ Merge Layers แล้ว เราจะเห็นว่า มันเหลือ Layer เดียว

หลังจากนั้นเลือก Selection เอาเฉพาะส่วนที่จะใช้ ไม่เอาขอบหยัก โดย Drag เอาเฉพาะตรงกลาง
แต่ถ้าเรา Select พลาด แล้วเราอยากปรับ ก็ไปเลือก Select > Transform Selection เราก็จะปรับขนาดเส้นขอบได้ตามต้องการ







พอเราเลือกได้ถูกต้องแล้ว ก็ต้องทำการ Crop โดยเลือกที่ Image > Crop



เราจะเห็นว่า ขอบหยักหายไปแล้ว แล้วกด Select > Deselect

เป็นอันเสร็จสิ้นการต่อภาพพาโนราม่าใน Photoshop ค่ะ

( =^_^= ) ( =^_^= ) ( =^_^= ) ( =^_^= ) ( =^_^= ) ( =^_^= ) ( =^_^= ) ( =^_^= ) ( =^_^= ) ( =^_^= ) ( =^_^= )

มาดูการถ่ายพาโนราม่าแบบแนวตั้งกันบ้าง

การถ่ายพาโนราม่าแนวตั้ง มันก็เป็นการประยุกต์เอาจากแนวนอนค่ะ เอาไว้ถ่ายภาพพวก อะไรที่มันสูงๆ น่ะ เช่น ถ่ายภาพเจดีย์สูงๆ และเราอยากเก็บไว้ให้หมด หรือบางภาพ เก้าเคยเห็นที่เค้าถ่ายหน้าผา มันทำให้เรารู้สึกว่า หน้าผาสูงม๊าาากกกกก หรือภูเขาสูงๆๆ แล้วมันถ่ายยังไงล่ะ ??? ง่ายกว่าแบบแนวนอนนะคะ คือ เราไม่ต้องสนใจเรื่องของการหมุนตัวแล้วนะ จะทำเท้ายังไงก็ได้ให้เรายืนได้มั่นคงเป็นพอ มาดู Step กันเลย

1. จัดองค์ประกอบภาพซะก่อน (เพื่อไม่ให้พระเอกของภาพด้านซ้ายหาย ด้านขวาขาด)

2. ปรับกล้องไปโหมด M แล้วก็ทำทุกอย่างเหมือนเดิมตามการถ่ายแบบแนวนอน

3. ถือกล้องในแนวนอน อันนี้สำคัญ เราต้องเผื่อหั่นขอบซ้ายขวาทิ้งด้วย กรณีที่เรามือไม่นิ่ง ส่ายไป-มา

4. โฟกัสไปที่ส่วนที่เราต้องการให้ชัด สมมุติว่า เราถ่ายภาพ เจดีย์ฝักข้าวโพดที่วัดอรุณ ตรงส่วนบน จะมีรูปช้างอยู่ เราอยากให้รูปช้างชัด เราก็โฟกัสไปที่ช้างก่อนค่ะ

5. ทำสัญลักษณ์ให้รู้ว่า ชุดภาพพาโนราม่าของเรา เริ่มที่ Shot แรกภาพไหน และ จบที่ Shot สุดท้ายภาพไหน
6. ถ่ายภาพให้ Overlap กัน 20% เสมอ

เสร็จแล้วค่ะ แค่นี้เอง แล้วก็เอาภาพไปต่อกันใน Photoshop ได้เลยตามปกติ

ตัวอย่างภาพพาโนราม่า














Share:

ทำรูปภาพโปร่งใส Photoshop

วิธีการทำภาพพื้นหลังให้โปร่งใสใน Photoshop cs6 แบบง่ายๆ
1. เปิดภาพด้วย Photoshop cs6 และทำการ copy เลเยอร์ขึ้นมา เพื่อแบคอัพภาพไว้ก่อน โดยอาจจะใช้ปุ่ม short cut Ctrl+J ก็จะได้เลเยอร์ขึ้นมาใหม่อีก 1 หนึ่งอัน
พื้นหลังโปร่งใส photoshop, Photoshop
2. เลือกส่วนที่เราต้องการจะทำให้จางลง ด้วยเครื่องมือ Lasso Tool (อยากได้ละเอียดแค่ไหน ก็เลือกตามใจชอบ) ในตัวอย่างจะเลือกแบบคร่าวๆก็พอ แสดงให้เห็นถึงส่วนที่เลือกออกมา
พื้นหลังโปร่งใส photoshop, Photoshop
3. ลดความเข้มของส่วนที่เลือกโดยใช้ Fill สัก 50% ก็พอ ถ้าปรับไปถึง 100% ก็คล้ายๆกับทำ dicut ละ
พื้นหลังโปร่งใส photoshop, Photoshop
4. สร้าง Layer ใหม่ขึ้นมาอันนึง แล้วเทสีขาว (หรือสีอื่นหรือรูปอื่นก็ได้) ลงไปด้านใต้ทุกภาพ และต้องมีส่วนของภาพที่เราต้องการให้ชัดสุด อยู่บนสุด เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
พื้นหลังโปร่งใส photoshop, Photoshop

หากลองนึกถึงการนำรูปภาพไปใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการนำรูปภาพไปใช้งานงานกราฟฟิก งานออกแบบเว็บไซต์ หรืองานนำเสนอต่างๆ รูปภาพเหล่านี้หากเราทำการค้นหาบนอินเตอร์เน็ตและนำมาใช้งานนั้น บางรูปจะติดพื้นหลัง(Background) ของรูปภาพไปด้วย และหากพื้นหลังงานออกแบบของเราคนละสีกับ Background ของรูปภาพหละ?  ลองคิดภาพว่าในขณะที่พื้นหลังของงานออกแบบของเราเป็นสีน้ำเงิน และเราได้แทรกรูปภาพรวัตถุรูปหนึ่ง และมีพื้นหลังสีขาว ซึ่งหากมองดูแล้วมันไม่สวยเลยถ้าจะมีพื้นหลังติดมาด้วย เพราะเราต้องการเพียงแค่รูปวัตถุเท่านั้น….
ดังนั้นในบทความนี้ผมจะมาสอนในเรื่องของการใช้งาน Photoshop โดยการทำพื้นหลังของรูปภาพให้โปร่งใส เพื่อที่จะสามารถนำไปปรับประยุกต์ใช้กับงานท่าน ไม่ว่าจะเป็นงานนำเสนอ งานออกแบบเว็บไซต์ หรืองานกราฟฟิต เป็นต้น
ลองมาดูตัวอย่างกันดีกว่า.. ว่าการตัดรูปภาพพื้นหลังออกหรือพื้นหลังโปร่งใสมีลักษณะเป็นยังไง
  • ตัวอย่างการนำภาพการ์ตูนไปแทรกที่ PowerPoint โดยที่ยังไม่ได้ตัดพื้นหลัง ให้สังเกตุว่ามีพื้นหลังสีม่วงติดมาด้วย
2015-01-13_145524
  • ตัวอย่างการนำภาพการ์ตูนไปแทรกที่ PowerPoint และตัดรูปพื้นหลังออก โดยใช้โปรแกรม Photoshop
2015-01-13_150254
เอาหละเมื่อเห็นผลลัพธ์กันแล้วว่าการทำรูปพื้นหลังให้โปร่งใสนั้นเป็นยังไง ต่อไปเราลองมาดูวิธีการทำโดยใช้โปรแกรม Photoshop กันเถอะ…
วิธีทำพื้นหลังรูปภาพให้โปร่งใส่ด้วย Photoshop
ขั้นตอนแรก เปิดโปรแกรม Photoshop ขั้นมาจากนั้นคลิกที่ File -> Open เพื่อเปิดรูปภาพวัตถุที่ยังไม่ได้ทำการตัดภาพพื้นหลัง ขึ้นมาแก้ไขบนโปรแกรม
2015-01-13_152420
ขั้นตอนที่สอง ให้คลิกขวา Layer ที่ชื่อ Background และเลือก Duplicate Layer.. (วิธีนี้เป็นการ Copy Layer ที่ชื่อ Background)
2015-01-13_152953
จากนั้นทำการตั้งชื่อ Layer ที่ทำการ Copy โดยตั้งชื่อที่ช่อง As: ในตัวอย่างตั้งชื่อว่า Cartoon เมื่อตั้งเสร็จให้กด OK
2015-01-13_153409
ขั้นตอนที่สาม จะเห็นได้ว่าตอนนี้มี Layer อยู่ 2 Layer ให้ทำการปิดการแสดงวัตถุของ Layer ที่ชื่อ Background โดยให้สังเกตุที่รูปดวงตา ตรงข้างหน้า Layer ต้องไม่มีรูปดวงตา
2015-01-13_161015
ขั้นตอนที่สี่ คลิกทำงานบน Layer ที่มีชื่อว่า Cartoon และคลิกเครื่องมือที่มีชื่อว่า Magic Wand Tool
2015-01-13_161514
ขั้นตอนที่ห้า หลังจากเลือกที่เครื่องมือ Magic Wand Tool จากนั้นให้คลิกพื้นที่ๆ ต้องการลบออกให้เป็นพื้นที่โปร่งใส (ในตัวอย่างคือพื้นที่สีม่วงที่จะต้องการให้เป็นพื้นที่โปร่งใส) เมื่อคลิกลงบนพื้นหลังสีม่วงแล้ว จะปรากฏเส้นประล้อมรอบพื้นที่ๆ ที่เราเลือกไว้ นั้นหมายความว่าเรากำลังเลือกพื้นที่นั้นอยู่
2015-01-13_161834
ขั้นตอนที่หก ให้กดปุ่ม Delete บนแป้นพิมพ์ เพื่อลบพื้นที่ๆ ที่ได้เลือกไว้ หลังจากที่ลบออกไปแล้วให้สังเกตุว่าพื้นหลังสีม่วงนั้นจะถูกลบออก และจะปรากฏพื้นหลังลายตาราง(Transparent) ซึ่งหมายความว่าพื้นหลังนั้นโปร่งใสแล้ว
รูปภาพด้านซาย จะหลงเหลือพื้นหลังสีม่วงที่ใต้วงแขน ให้ใช้เครื่องมือ Magic Wand Toolและ Deleteพื้นที่สีม่วงตรงใต้แขนออกอีกครั้ง จนได้ภาพดัง รูปภาพด้านขวา ที่ไม่มีพื้นหลังหลงเหลือเลยจนได้พื้นหลังโปร่งใสตามความต้องการ
2015-01-13_162612 2015-01-13_162710
ขั้นตอนที่เจ็ด เป็นขั้นตอนสุดท้าย นั้นคือขั้นตอนการบันทึกรูปภาพ ให้เราคลิกไปที่แท็บเมนู File -> Save for Web…
2015-01-14_100017
ตั้งค่าชนิดของไฟล์เป็น PNG-24 และกด SAVE
2015-01-14_100106
เลือกปลายทางที่ต้องการบันทึกลงในคอมพิวเตอร์ จากนั้นกด Save ดังตัวอย่างบันทึกลงบนหน้าDesktop
2015-01-14_100134
สังเกตุได้ว่ารูปภาพที่เราได้บันทึกลงบนหน้า Desktop นั้นจะมีพื้นหลังโปร่งใส สามารถนำไปใช้งานได้เลยโดยที่ไม่มีพื้นหลังให้รบกวนใจอีกต่อไป

Share:

Disqus Shortname

Comments system

ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 095-954-4524

ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

Blog Archive

Post Top Ad

คลังบทความของบล็อก

Author Details

Menu - Pages

Business

Random Posts

Recent

Popular

Blog Archive