วันอาทิตย์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2556
จับเอเย่นต์ค้ายาเสพติดพร้อมอาวุธปืน
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 4 ส.ค. พ.ต.ท.ชโลธร เปรมปรี รอง ผกก.ป.สภ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง พร้อมกำลังเข้าจับกุม นายเอกชัย หรือแฟร้งค์ หรือเอก จันทร์สา อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 413 ม.1 ต.มะขามคู่ อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง พร้อมของกลางยาบ้า 2,301 เม็ด ยาไอซ์ 17.96 กรัม อาวุธปืนขนาด .32 มม. 1 กระบอก อาวุธปืนขนาด .38 แม็กกาซีน 1 กระบอก แม็กกาซีน 2 อัน เครื่องกระสุนปืน 6 นัด ซองใส่อาวุธปืน 2 ซอง เครื่องชั่งดิจิตอล 1 เครื่อง เครื่องคิดเลข 1 เครื่อง กระเป๋าสะพายสีดำ รถเก๋งยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นมิราจ สีบอรนซ์ 1 คัน ทะเบียน กม 3591 ระยอง รถจักรยานยนต์ดัดแปลงสภาพยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแดซ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน
สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจออกตรวจท้องที่ไปพบ นายเอกชัย ขับรถเก๋งคันดังกล่าว เมื่อตำรวจเรียกให้หยุดรถเพื่อตรวจค้น นายเอกชัยได้ขับรถถอยชนเจ้าหน้าที่ตำรวจและรถโดยสารที่วิ่งมา เจ้าหน้าที่จึงใช้อาวุธปืนยิงไปที่ล้อยางจึงทำให้รถไม่สามารถวิ่งต่อไปได้ นายเอกชัยเปิดประตูรถเพื่อจะหลบหนีแต่เจ้าหน้าที่สามารถรวบตัวไว้ได้ เข้าตรวจค้นในรถพบยาบ้าและยาไอซ์ซุกซ่อนอยู่ในคอนโซลหน้ารถ และที่เบาะพบอาวุธปืนขนาด .32 พร้อมบรรจุแม็กกาซีน จากนั้นเข้าตรวจค้นบ้านพักของนายเอกชัยพบอาวุธปืนขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก และรถจักรยานยนต์ดัดแปลงสภาพที่ใช้ส่งยาเสพติด
จากการสอบสวน นายเอกชัยให้การว่า ที่ผ่านมาเคยต้องโทษคดียาเสพติดและได้รู้จักกับ นายลอง ทุ่งละหาร ผู้ต้องหาอยู่ในเรือนจำกลางจังหวัดระยอง ได้โทรศัพท์ติดต่อมาให้ไปรับยาตามจุดต่างๆที่ได้นัดหมาย พร้อมกับเงินค่าจ้างครั้งละ 7,000-10,000 บาท ที่มัดมากับยาเสพติด และยาเสพติดชุดนี้ได้ไปรับที่ป้าย 60 กม. ซอย 9 ม.1 ต.มะขามคู่ อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง เพื่อรอโทรศัพท์จากนายลองให้ไปส่งตามจุดที่นัดหมาย ซึ่งทำมาแล้วหลายครั้งและครั้งนี้ได้ขับรถผ่านมาเจอเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงถูกจับกุมได้
เกิดเหตุรถไฟชนรถปิกอัพมีผู้เสียชีวิต
เมื่อเวลา 09.00 น. เมื่อวันที่ 4 ส.ค. พ.ต.ท.ชานนท์ เทพคำราม พนักงานสอบสวน สภ.ห้วยขะยูง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี รับแจ้งมีเหตุรถไฟชนรถปิกอัพมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ที่บริเวณทางข้ามถนนรถยนต์ตัดกับทางรถไฟ ถนนบ้านลาดเจริญ ต.ท่าลาด อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างบูชาธรรม พบรถปิกอัพยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน บร -9453 อุบลราชธานี ถูกรถไฟดีเซลรางธรรมดา ขบวนที่ 146 อุบลราชธานี-กรุงเทพฯ ชนกระเด็นห่างจากทางข้ามรถไฟประมาณ 30 เมตร จนตกลงข้างทางสภาพรถด้านซ้ายพังยับเยิน โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย เสียชีวิตขณะนำส่งโรงพยาบาลเป็นเด็กชาย 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือเด็กชายทรงศักดิ์ วงษ์คำเหลา อายุ 4 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46 หมู่ 3 ต.มาบแค อ.เมือง จ.อุบลราชธานี สภาพศพกระโหลกศีรษะแตก และผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 2 ราย เป็นหญิง 2 รายทราบชื่อคือ นางหนูเย็น วงษ์คำเหลา อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31 หมู่ที่ 10 บ้านลาดเจริญ ต.ท่าลาด อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี และนางบุญเริ่ม วงษ์คำเหลา อายุ 70 ปี อาการสาหัส เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯจึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลวารินชำราบ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจเบื้องต้นทราบว่าคนที่มากับรถปิกอัพทั้งหมดเป็นญาติกันโดยมี นางหนูเย็น วงษ์คำเหลา เป็นคนขับ เด็กชายทรงศักดิ์ วงษ์คำเหลา เป็นลูกและนางบุญเริ่ม วงษ์คำเหลา เป็นแม่ ซึ่งเป็นญาติกับตลกชื่อดังหม่ำ จ๊กมก (เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา)ได้ขับรถใช้เส้นทางหมู่บ้านดังกล่าวเพื่อจะไปตลาดที่บ้านบุ่งหวายตัดออกสู่ถนนวาริน-กันทรารมย์ เมื่อมาถึงจุดตัดข้ามทางรถไฟ ไม่ทันระวังตัวจึงถูก รถไฟขบวนดังกล่าวชนอย่างแรงจนมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บในที่สุด..
พ่อค้าขายแมลงทอดเมาถูกเพื่อนแทงเสียชีวิต
เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 4 ส.ค. ร.ต.ท.ทศพล ปัญญาลิขิต ร้อยเวรสอบสวน สภ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ รับแจ้งมีคนถูกแทงเสียชีวิต ภายในสวนสาธารณโผน กิ่งเพชร ถ.ดำเนินเกษม เขตเทศบาลเมืองหัวหิน จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น จากนั้นพร้อมด้วยชุดสืบสวน และมูลนิธิสว่างหัวหินธรรมสถาน รุดไปยังที่เกิดเหตุ พบศพ นายอัตลัด พระสงฆ์ อายุ 32 ปี พ่อค้าขายแมลงทอด อยู่บ้านเลขที่ 286/9 ม.4 ต.ทับสะแก อ.ทับสะแก จ.ประจวบฯ ถูกแทงด้วยอาวุธมีดเข้าที่ชายโครงขวาทะลุปอด 1 แผล ก่อนนำศพส่ง รพ.หัวหิน จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนหน้านั้นนายอัตลัดชวน นายสันติหรือกร สาสุข อายุ 25 ปี พ่อค้าขายของชำ ตั้งวงดื่มเหล้ากับเพื่อนพ่อค้าด้วยกันอีกหลายคน จนทั้งคู่เริ่มเมามายและมีปากเสียงทะเลาะชกต่อยกันขึ้น เพื่อนในวงเหล้าจะเข้าห้ามปรามแต่ไม่ทัน นายสันติชักมีดที่เหน็บไว้ที่เอวแทงนายอัตลัดเข้าไป 1 แผลเสียชีวิตก่อนวิ่งหลบหนีไป ซึ่งตำรวจจะได้ติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป..
โปลิศทุ่งคอก เร่งรัดคดีค้างเก่า
วันที่ 4 ส.ค. พ.ต.อ.พศวีร์ เรืองภู่ ผกก.สภ.ทุ่งคอก อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี พ.ต.ท.วันชัย พุทธวงษ์ รอง ผกก.สส. ชุดสืบสวน นำกำลังออกติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ และคดีค้างเก่า ร่วมกันจับกุมตัว นายภาคภูมิ เสริมสุข หรือเอ็ม อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 262 หมู่ 6 ต.ทุ่งคอก อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ผู้ต้องหาคดีบุกรุกเคหสถานผู้อื่นในเวลากลางคืน ตามหมายจับศาลจังหวัดสุพรรณบุรี ที่ 262/2556 ลงวันที่ 10 มิ.ย. 2556 โดยตำรวจจับตัว นายภาคภูมิ ได้ที่บ้านพักคนงาน ในเขตพื้นที่ หมู่ 6 ต.ทุ่งคอก อ.สองพี่น้อง สอบสวนให้รับสารภาพ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดี
ส่วนทางด้าน พ.ต.ท.สมนึก พันธ์แจ่ม รอง สว.สส. ร.ต.อ.เอกภาพ สินพูน รอง สวป. ชุดสืบสวน นำหมายจับศาลจังหวัดสุพรรณบุรี ที่ 261/2556 ลงวันที่ 10 มิ.ย. 2556 เข้าตรวจค้นที่อู่ซ่อมรถยนต์ ไม่มีชื่อ ที่บ้านใหม่ หมู่ 17 ต.บ่อสุพรรณ อ.สองพี่น้อง ร่วมกันจับกุมตัว นายวันชนะ หนูอ้น หรือท๊อป อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 195 หมู่ 17 ต.บ่อสุพรรณ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ผู้ต้องหาคดีร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น และร่วมกันมีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต สอบสวนให้รับสารภาพ นำตัวส่ง ร.ต.ท.สมเกียรติ ศรีสังวาลย์ พนักงานสอบสวน สภ.ทุ่งคอก ดำเนินคดีต่อไป..