พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์ เปิดเผยว่า ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สน.ห้วยขวาง ออกปฏิบัติหน้าที่ เมื่อมาถึงบริเวณด้านหน้าสถานบริการยูโธเปีย สังเกตเห็นคนร้ายทั้งสอง กำลังใช้ไขควง พยายามงัดและทุบกระจกรถเก๋งสายตรวจ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ทล. อยู่ จึงแสดงตัวจับกุม ระหว่างนั้นทั้งสองพยายามหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมไว้ได้พร้อมของกลางทั้งหมด สอบสวนทั้งสองรับสารภาพว่า ตระเวนออกทุบกระจกรถลักทรัพย์วันนี้ ตั้งแต่เวลา 16.00 น. เรื่อยมาตั้งแต่ย่านเตาปูน มาจนถึงห้วยขวาง รวมก่อเหตุมาแล้ว 4 ครั้ง ยังไม่ได้ทรัพย์สินเป็นเงินสด สาเหตุที่เลือกทุบกระจกรถของตำรวจ เนื่องจากอยากได้ปืนมาใช้ ที่ผ่านมาออกตระเวนก่อเหตุลักษณะนี้รวมแล้วกว่า 50 ครั้ง ทั้งนี้นายวราชัย เพิ่งพ้นโทษจากการถูกดำเนินคดีข้อหาร่วมกันลักทรัพย์(ทุบกระจกรถ) มาไม่นาน ก็กลับมาก่อเหตุอีก เบื้องต้นควบคุมตัวทั้งสอง พร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี.
วันเสาร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
รวบโจ๋แสบคิดสั้นทุบกระจกรถตำรวจ
วันนี้ (22 ก.พ.) พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์ บริรักษ์กุล ผบก.น.1 พ.ต.อ.อัศวยุทธ นุชพุ่ม ผกก.สน.ห้วยขวาง พ.ต.ท.พยงค์ เอี่ยมสกุล รองผกก.ป. แถลงจับกุมนายวราชัย มงคลนำ อายุ 23 ปี และนายเอ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี สองผู้ต้องหาตระเวนทุบกระจกรถประชาชน ลักทรัพย์สิน พร้อมของกลางอาวุธปืน .45 จำนวน 1 กระบอก ไขควง ไฟฉาย อุปกรณ์ในการงัดแงะ สมุดบัญชีธนาคารต่างๆ กระเป๋าเงินแบบผู้หญิง โทรศัพท์มือถือ และรถจยย. ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน ไม่ติดป้ายทะเบียน จับกุมได้ขณะกำลังเตรียมทุบกระจกรถเก๋งสายตรวจ ฮอนด้า แอคคอร์ท ทะเบียน ษฉ-5026 กรุงเทพมหานคร ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ทล. ซึ่งแวะรับประทานอาหาร บริเวณหน้าที่สถานบริการยูโธเปีย ถนนวัฒนธรรม แขวงและเขตห้วยขวาง
พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์ เปิดเผยว่า ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สน.ห้วยขวาง ออกปฏิบัติหน้าที่ เมื่อมาถึงบริเวณด้านหน้าสถานบริการยูโธเปีย สังเกตเห็นคนร้ายทั้งสอง กำลังใช้ไขควง พยายามงัดและทุบกระจกรถเก๋งสายตรวจ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ทล. อยู่ จึงแสดงตัวจับกุม ระหว่างนั้นทั้งสองพยายามหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมไว้ได้พร้อมของกลางทั้งหมด สอบสวนทั้งสองรับสารภาพว่า ตระเวนออกทุบกระจกรถลักทรัพย์วันนี้ ตั้งแต่เวลา 16.00 น. เรื่อยมาตั้งแต่ย่านเตาปูน มาจนถึงห้วยขวาง รวมก่อเหตุมาแล้ว 4 ครั้ง ยังไม่ได้ทรัพย์สินเป็นเงินสด สาเหตุที่เลือกทุบกระจกรถของตำรวจ เนื่องจากอยากได้ปืนมาใช้ ที่ผ่านมาออกตระเวนก่อเหตุลักษณะนี้รวมแล้วกว่า 50 ครั้ง ทั้งนี้นายวราชัย เพิ่งพ้นโทษจากการถูกดำเนินคดีข้อหาร่วมกันลักทรัพย์(ทุบกระจกรถ) มาไม่นาน ก็กลับมาก่อเหตุอีก เบื้องต้นควบคุมตัวทั้งสอง พร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี.
พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์ เปิดเผยว่า ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สน.ห้วยขวาง ออกปฏิบัติหน้าที่ เมื่อมาถึงบริเวณด้านหน้าสถานบริการยูโธเปีย สังเกตเห็นคนร้ายทั้งสอง กำลังใช้ไขควง พยายามงัดและทุบกระจกรถเก๋งสายตรวจ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ทล. อยู่ จึงแสดงตัวจับกุม ระหว่างนั้นทั้งสองพยายามหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมไว้ได้พร้อมของกลางทั้งหมด สอบสวนทั้งสองรับสารภาพว่า ตระเวนออกทุบกระจกรถลักทรัพย์วันนี้ ตั้งแต่เวลา 16.00 น. เรื่อยมาตั้งแต่ย่านเตาปูน มาจนถึงห้วยขวาง รวมก่อเหตุมาแล้ว 4 ครั้ง ยังไม่ได้ทรัพย์สินเป็นเงินสด สาเหตุที่เลือกทุบกระจกรถของตำรวจ เนื่องจากอยากได้ปืนมาใช้ ที่ผ่านมาออกตระเวนก่อเหตุลักษณะนี้รวมแล้วกว่า 50 ครั้ง ทั้งนี้นายวราชัย เพิ่งพ้นโทษจากการถูกดำเนินคดีข้อหาร่วมกันลักทรัพย์(ทุบกระจกรถ) มาไม่นาน ก็กลับมาก่อเหตุอีก เบื้องต้นควบคุมตัวทั้งสอง พร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี.
รวบหนุ่มใหญ่สวีเดน หลอกแรงงานไทย 168 คนไปปล่อยลอยแพ
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 22 ก.พ. ที่กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว พล.ต.ต.รอย อิงคไพโรจน์ ผบก.ทท. พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท. พ.ต.ท.เกื้อกมล ดวงประทีป รอง ผกก.3 บก.ทท. พ.ต.ต.บวรภพ สุนทรเลขา สว.ส.ทท.2 กก.1 บก.ทท. ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายอารี เวคโค จูฮานี ฮาวลิโคเน่น อายุ 52 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของประเทศสวีเดน
พล.ต.ต.รอยเปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวกับตำรวจของสวีเดนได้ร่วมกันสืบสวนจนทราบว่าเมื่อปี 53 ที่ผ่านมา นายอารีได้ทำการเปิดบริษัทนายหน้าจัดหาแรงงานไทยเพื่อไปทำงานต่างประเทศ ซึ่งต่อมาเจ้าตัวได้ส่งแรงงานไทยจำนวน 168 คน ไปทำงานด้านการเกษตรยังประเทศสวีเดนเพื่อทำงานด้านเกษตร ซึ่งแรงงานชุดดังกล่าวได้ทำการกู้เงินจากธนาคาร และเงินนอกระบบรวมทั้งหมด 13 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทาง แต่เมื่อแรงงานชุดนี้เดินทางไปทำงานที่ประเทศสวีเดนแล้วปรากฏว่านายอารียังฉ้อโกงเงินค่าจ้างไปอีก คิดเป็นเงินไทยจำนวน 24.8 ล้านบาท ทำให้แรงงานทั้งหมดไม่ได้รับเงินค่าจ้างและถูกปล่อยลอยแพ ทั้งหมดจึงเข้าร้องเรียนขอความช่วยเหลือกับทางการสวีเดน ก่อนจะได้รับการส่งตัวกลับประเทศไทยในเวลาต่อมา
พล.ต.ต.รอย กล่าวต่อว่า หลังเกิดเหตุนายอารีได้นำเงินทั้งหมดที่ได้จากการหลอกลวงแรงงานหลบหนีมากบดานที่ประเทศไทยตั้งแต่ปี 54 โดยจะเปลี่ยนที่กบดานอยู่เสมอทำให้ยากต่อการจับกุม ต่อมารัฐบาลสวีเดนจึงทำการออกหมายจับและยกเลิกหนังสือเดินทางของนายอารีไว้ ก่อนประสานมายังประเทศไทยเพื่อให้ติดตามจับกุมตัว จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีผ่านทางระบบ Touriat Buddy Applications ว่าพบนายอารีหลบช่อนตัวอยู่ใน จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่จึงได้ขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดชลบุรี ก่อนเข้าจับกุมนายอารีขณะกบดานอยู่ภายในบ้านเลขที่ 127/759 หมู่ที่ 3 ต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี ก่อนควบคุมตัวมาสอบปากคำ
พล.ต.ต.รอย กล่าวด้วยว่า จากการสอบสวนนายอารี ให้การรับสารภาพโดยอ้างว่าเพิ่งเปิดบริษัทหลอกลวงแรงงานไทยชุดดังกล่าวเพียงชุดเดียว เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้หากมีแรงงานไทยคนใดเคยถูกนายอารี หลอกลวงในลักษณะนี้ก็สามารถเข้ามาแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมได้
พล.ต.ต.รอยเปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวกับตำรวจของสวีเดนได้ร่วมกันสืบสวนจนทราบว่าเมื่อปี 53 ที่ผ่านมา นายอารีได้ทำการเปิดบริษัทนายหน้าจัดหาแรงงานไทยเพื่อไปทำงานต่างประเทศ ซึ่งต่อมาเจ้าตัวได้ส่งแรงงานไทยจำนวน 168 คน ไปทำงานด้านการเกษตรยังประเทศสวีเดนเพื่อทำงานด้านเกษตร ซึ่งแรงงานชุดดังกล่าวได้ทำการกู้เงินจากธนาคาร และเงินนอกระบบรวมทั้งหมด 13 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทาง แต่เมื่อแรงงานชุดนี้เดินทางไปทำงานที่ประเทศสวีเดนแล้วปรากฏว่านายอารียังฉ้อโกงเงินค่าจ้างไปอีก คิดเป็นเงินไทยจำนวน 24.8 ล้านบาท ทำให้แรงงานทั้งหมดไม่ได้รับเงินค่าจ้างและถูกปล่อยลอยแพ ทั้งหมดจึงเข้าร้องเรียนขอความช่วยเหลือกับทางการสวีเดน ก่อนจะได้รับการส่งตัวกลับประเทศไทยในเวลาต่อมา
พล.ต.ต.รอย กล่าวต่อว่า หลังเกิดเหตุนายอารีได้นำเงินทั้งหมดที่ได้จากการหลอกลวงแรงงานหลบหนีมากบดานที่ประเทศไทยตั้งแต่ปี 54 โดยจะเปลี่ยนที่กบดานอยู่เสมอทำให้ยากต่อการจับกุม ต่อมารัฐบาลสวีเดนจึงทำการออกหมายจับและยกเลิกหนังสือเดินทางของนายอารีไว้ ก่อนประสานมายังประเทศไทยเพื่อให้ติดตามจับกุมตัว จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีผ่านทางระบบ Touriat Buddy Applications ว่าพบนายอารีหลบช่อนตัวอยู่ใน จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่จึงได้ขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดชลบุรี ก่อนเข้าจับกุมนายอารีขณะกบดานอยู่ภายในบ้านเลขที่ 127/759 หมู่ที่ 3 ต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี ก่อนควบคุมตัวมาสอบปากคำ
พล.ต.ต.รอย กล่าวด้วยว่า จากการสอบสวนนายอารี ให้การรับสารภาพโดยอ้างว่าเพิ่งเปิดบริษัทหลอกลวงแรงงานไทยชุดดังกล่าวเพียงชุดเดียว เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้หากมีแรงงานไทยคนใดเคยถูกนายอารี หลอกลวงในลักษณะนี้ก็สามารถเข้ามาแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมได้