ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ
www.becomz.com

วันศุกร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2555

หนุ่มใหญ่เมืองเบียร์สุดดีใจ-พบภรรยายอมเซ็นให้ลูกไปอยู่ด้วย


จากกรณี นายสเตฟาน วาร์กเนอร์ อายุ 42 ปี หนุ่มใหญ่ชาวเยอรมัน อุ้มลูกวัย 1 ขวบคือ ด.ช.อันตอน วาร์คเนอร์ ออกตามหาภรรยา เพื่อให้เซ็นชื่ออนุญาตให้นำลูกชายกลับไปอยู่ต่างประเทศด้วย จนระหกระเหินไปอยู่ที่ อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา จนตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดพระนครศรีอยุธยทราบข่าวได้เดินทางไปประสานงานกับ สถานทูตเพื่อดำเนินการเกี่ยวกับการส่งนายสเตฟานและลูกกลับไปยังประเทศ เยอรมัน ขณะเดียวกันก็ได้ติดต่อกับภรรยาของนายสเตฟานได้ โดยยินดีที่จะไปเซ็นชื่อให้ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

ความคืบหน้า วันนี้ (12 ต.ค.) ที่สำนักงานตำรวจท่องเที่ยว จ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.ท.ฉัตรามนตรี มหาพชราอรุณใหม่ สว.ทท.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย ร.ต.ต.เอกณกร ธารารมย์ รองสว. และจนท.ตำรวจ ได้รับตัวนายสเตฟาน และลูกชายกลับมาจากสถานทูตเยอรมันประจำประเทศไทย โดยได้มีการนำข้าวปลาอาหารมาเลี้ยงนายสเตฟานและลูก ขณะเดียวกันยังมีพระครูเกษมจันทวิมล หรืออาจารย์แดง เจ้าอาวาสวัดป้อมรามัญ ต.สวนพริก อ.พระนครศรีอยุธยา มาทำการปะพรมน้ำมนต์ให้ด้วย  

ร.ต.ต.เอกณกร เปิดเผยว่าเมื่อช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ ได้พานายสเตฟานและลูกไปยังสถานทูตเยอรมันประจำประเทศไทย เพื่อทำเรื่องกลับประเทศ โดยมีภรรยาของนายสเตฟานที่ได้รับการประสานงานจากตำรวจท่องเที่ยว ไปรอเซ็นชื่อมอบลูกให้นายสเตฟาน โดยไม่มีข้อแม้ใดๆ แต่ทางสถานทูตแจ้งว่ายังไม่สามารถที่จะนำเด็กกลับไปด้วยได้ เนื่องจากต้องรอให้ศาลมีคำสั่งก่อน ซึ่งระหว่างรอนั้นนายชัช ตลาดไท เจ้าของตลาดนัดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รับเป็นผู้ดูแลเรื่องที่อยู่อาศัยเอง นอกจากนี้ตำรวจท่องเที่ยวได้ประสานไปยัง ร.ร.สอนภาษาที่ พัทยา เพื่อขอรับหนังสือเดินทาง ซึ่งก่อนหน้านี้นายสเตฟานอยากที่จะสื่อสารภาษาไทย เพื่อตามหาภรรยา จึงได้ไปเรียนภาษา โดยต้องเสียเงิน 24,000 บาท แต่เงินไม่พอได้นำหนังสือเดินทางไปค้ำเอาไว้ และเอาเงินไปให้ไว้ 10,000 บาท ซึ่งตำรวจท่องเที่ยวประสานไปแล้ว เพื่อที่จะนำเงินไปจ่ายขอรับหนังสือเดินทางมาให้นายสเตฟาน ซึ่งเป็นเรื่องโชคดีที่ทาง ร.ร.สอนภาษา ได้ยอมที่จะคืนหนังสือเดินทางให้ และไม่คิดเงินที่เหลือ จากนี้ไปก็จะต้องหารือว่าหากศาลมีคำสั่งเรื่องลูกของนายสเตฟานแล้ว จะหาค่าเครื่องบินจากไหนให้กับนายสเตฟานได้กลับประเทศ

ด้านนายสเตฟาน กล่าวว่ารู้สึกดีใจที่คนไทยมีน้ำใจ โดยเฉพาะตำรวจท่องเที่ยวของประเทศไทย ที่ช่วยเหลือเต็มที่หากกลับไปแล้ว ก็จะไม่ลืมประเทศไทยและตำรวจไทยเลย นายสเตฟานเปิดเผยถึงชีวิตที่ไม่คาดฝันว่า เดินทางเข้ามาเมืองไทยครั้งแรกเมื่อปี 2549 เพื่อเยี่ยมคุณตาที่ไม่สบายนอนอยู่ที่รพ.กรุงเทพพัทยา และได้พบกับสาวไทยอายุ 18 ปีแม่ของด.ช.อันตอน และคบหากัน จนกระทั่งคุณตาของตนเสียชีวิต ได้มอบเงินที่เป็นมรดกให้ 11 ล้านบาท ตนจึงนำไปปลูกบ้านให้กับแม่ของภรรยา 2 ล้าน ซื้อรถยนต์ 1.5 ล้านบาท และใช้จ่ายอยู่ในพัทยา จนกระทั่งไปอยู่ที่ จ.อุบลราชธานี กับภรรยา เมื่อภรรยาคลอดลูกได้ 4 เดือนก็หายไป เงินที่มีอยู่ก็หมดลง จึงถูกแม่ยายไล่ออกจากบ้านพร้อมลูก แล้วไปตามหาภรรยาที่พัทยา จนมาอยู่ที่ อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา แล้วมาได้รับความช่วยเหลือดังกล่าว ตอนนี้อยากที่จะกลับบ้านที่เยอรมัน เพื่อพบญาติๆและหาเงินเลี้ยงลูกให้ดีที่สุดต่อไป
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Disqus Shortname

Comments system

ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 095-954-4524

ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

Blog Archive

Post Top Ad

คลังบทความของบล็อก

Author Details

Menu - Pages

Business

Random Posts

Recent

Popular

Blog Archive