ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ
www.becomz.com

  • ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ รามคำแหง

    ซ่อมคอมถึงบ้าน,ซ่อมคอมพิวเตอร์ถึงบ้าน,ซ่อมคอมนอกสถานที่,ซ่อมคอมพิวเตอร์ นอกสถานที่,วางระบบอินเตอร์เน็ต,วางระบบแลน,ระบบเน็คเวิร์ค,เขียนโปรแกรมเว็บไซด์,ดูแลคอมพิวเตอร์แบบรายเดือน-รายปี,พร้อมบริการด้านไอทีจ่าย. สนใจติดต่อ 095-954-4524

  • หากคุณกำลังมองหาสถานที่ รับซ่อมคอมถึงที่

    ราคือหน่วยรับซ่อมคอมพิวเตอร์ถึงที่ ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน ที่ทำงาน บริษัท ห้าง ร้าน สถานสงเคราะห์ โรงเรียน โรงพยาบาล ฯลฯ เราจะไปบริการซ่อมให้ในราคาสุดประหยัด ถูกกว่ายกไปซ่อมที่ห้างหรือร้านซ่อมแน่นอน เนื่องจากทางร้านของเราไม่ต้องเสียค่าเช่าพื้นที่ จึงสามารถลดต้นทุนในส่วนนี้ได้. สนใจติดต่อ 095-954-4524

  • www.becomz.com ให้บริการถึงที่

    บริการซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ โดยไม่ต้องยก เครื่องคอมให้เหนื่อย หรือ เสียเวลา การทำงานของคุณ เรา คือ ทางออกสำหรับคุณ ที่จะไป บริการถึงบ้าน ที่บ้าน หรือ อ๊อฟฟิต ( office ) และ คอนโด อาพาทเม้น ทุกสถานที่ พร้อม ทั้ง ให้ บริการซ่อมคอมพิวเตอร์ 24 ชั่วโมง สำหรับ ลูกค้าบางท่านที่สะดวก. สนใจติดต่อ 095-954-4524

  • ค่าบริการ

    – ซ่อมโปรแกรม แก้ปัญหาด้านโปรแกรมทั่วไป เครื่องละ 500 บาท – เเละลง Driver 300 บาท รวมกับ ซ่อมปกติเป็น 700 บาท – อะไหล่เสีย จะแจ้งราคาอะไหล่ก่อนซ่อม (ลูกค้าสามารถจัดหาอะไหล่เองได้) เพื่อความมั่นใจ ซ่อมเสร็จเรารับประกันซอฟเเวร์ 7วัน พร้อมให้คำแนะนำ และบริการหลังซ่อม ตลอดการรับประกันน ติดตั้งให้ถึงที่ .สนใจติดต่อ 095-954-4524

  • รับซ่อมทุกปัญหา โทรมาคุยกันก่อนได้ครับ

    – บริการอัพเกรดเครื่อง แก้ปัญหาเครื่องช้า รวนบ่อย ค้างบ่อย – บริการติดตั้ง แก้ปัญหา ระบบคอมพิวเตอร์ ระบบแลน-อินเตอร์เน็ต – บริการลงวินโดว์, ลงโปรแกรม, แก้ไวรัส, แก้ปัญหาต่างๆ – บริการฝากซ่อม-เคลม อะไหล่คอมฯ และสินค้าไอที ทุกชนิด – บริการจัดสเป๊คเครื่อง จัดชุดคอมมือ1-2 พร้อมใช้งาน ติดตั้งให้ถึงที่ .สนใจติดต่อ 095-954-4524

วันพฤหัสบดีที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ตำรวจมุกดาหาร ปล่อยแถวกวาดล้าง อาชญากรรม

วันนี้ั ( 26 ต.ค.) บริเวณลานด้านหน้าสถานีตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหารได้มีการปล่อยแถว ตำรวจ เพื่อระดมกำลังกวาดล้างอาชญากรรมในพื้นที่ เป็นการสร้างความเชื่อมั่นต่อหน่วยงานและสร้างความเชื่อถือแก่ ประชาชน ในช่วงเทศกาลออกพรรษา เพราะจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาในจังหวัดเป็นจำนวนมากหวั่นเกิดเหตุอาชญากรรม สืบเนื่องมาจากมีกลุ่มวัยรุ่นรวมตัวกันเป็นกลุ่มหลายๆกลุ่มโดย ใช้รถจักรยานยนต์เป็นส่วนใหญ่ประมาณ 10-20 คันก่อเหตุทะเลาะวิวาทกับกลุ่มวัยรุ่นด้วยกันเองเป็นที่เอือม ระอากับประชาชนที่ชีวิตประจำวันมิหนำซ้ำยังทำร้ายผู้อื่นที่ใช้ ยวดยานพาหนะบนท้องถนนในเขตเทศบาลเมืองมุกดาหาร ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องปราม ตำรวจจึงต้องระดมกวาดล้างกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ เป้าหมาย มั่วสุมของเด็กและเยาวชน รวมทั้งจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและเครือข่ายขึ้น บัญชีไว้เพื่อให้ประชาชนเกิดความมั่นใจและอบอุ่นในการปฏิบัติงาน ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่งผลให้เกิดความสงบสุขและความสงบเรียบร้อยในสังคมพร้อมขอให้ ผู้ปกครอง ร่วมกันดูแลบุตรหลานของแต่ละคนให้อย่าออกมาก่อเหตุดังกล่าวมิ ฉะนั้นจะถูกดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด
Share:

ชาวบ้านโวยร้องขอปล่อยน้ำทำนาปรัง


เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ ( 26 ต.ค.) นางพูนประภา เหล่าสิทธิ์  ประธานผู้ใช้น้ำโซน 1 ต.ท่าตูม อ.เมือง จ.มหาสารคาม เปิดเผยว่า ชาวบ้านจาก 9 หมู่บ้านประกอบด้วยบ้านกุดเวียน บ้านคันฮุง  บ้านหนองข่า  บ้านโปโล บ้านไข่นุ่น  บ้านโนนเชียงบัง บ้านบาก บ้านสะดำศรี   บ้านหนองแค   ซึ่งมีพื้นที่ทำนากว่า 2 พันไร่ แต่อยู่ในพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากในแต่ละปีจะถูกน้ำในลำชีเอ่อท่วมติดต่อกันมา 10 ปี ไม่เคยได้ข้าว แต่ทุกปีจะทำนาปรังในช่วงเดือนมกราคม เพราะไม่มีน้ำมาอีกแล้ว  แม้ปีนี้น้ำไม่ท่วมแต่ชาวบ้านทั้ง 9 หมู่บ้าน ไม่มีใครทำนาได้เพราะเกรงว่าจะถูกน้ำท่วมอีกและหวังว่าจะทำนาปรังได้มีเงินจากการขายข้าวมาใช้จ่ายในครัวเรือนโดยเฉพาะใช้ส่งลูกเรียน  ใช้หนี้ ธ.ก.ส . แต่ถ้าทำนาปรังก็ขายข้าวได้ไม่ตำก่า 1 แสนบาท  แต่ทราบว่าทางฝายวังยาง จะไม่ปล่อยน้ำออกมาให้ทำนาปรัง โดยอ้างว่าปีนี้น้ำในลำชีมีน้อย ชาวบ้าน 9 หมู่บ้าน จึงทำหนังสือร้องขอความเห็นใจจากเจ้าหน้าที่ฝายวังยาง เพื่อขอให้เปิดน้ำให้ชาวบ้านได้ทำนาปรังด้วยเพราะหากปีนี้ไม่ได้ทำนาปรังชาวบ้านก็จะได้รับความเดือดร้อนไม่มีข้าวขายและเก็บไว้กิน และขาดรายได้ในครัวเรือนด้วย
ด้านนายพัฒนะ  พลศรี  หน.ฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 3  เขื่อนระบายน้ำฝายวังยาง  โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพัฒนาลุ่มน้ำชีตอนกลาง  เปิดเผยว่า  ทางฝายมีคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำ  ซึ่งจะมีกลุ่มผู้ใช้น้ำสถานีสูบน้ำเขื่อนระบายน้ำฝายวังยาง  3 โซน  คือ  โซนต้นคลอง  กลางคลอง  และปลายคลอง  ยาว 21 กิโลเมตร  มีพื้นที่นาที่ใช้ประโยชน์จำนวน 21,230  ไร่  รองรับการปลูกข้าวนาปีเต็ม 100%  แต่ข้าวนาปรังจะมีผู้ปลูกราว 12,000 ไร่  ซึ่งในปีนี้ต้องยอมรับปริมาณน้ำเก็บกักมีน้อยมาก  เกรงว่าจะไม่เพียงพอต่อการทำนาปรัง  ซึ่งเกษตรกรได้ทำนาปีโดยใช้พันธุ์ข้าวนาปรังไปแล้ว  ซึ่งหากจะทำนาปรังอีกรอบ  เกรงว่าข้าวจะได้รับความเสียหายจากภัยแล้ง  แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทางฝายไม่ได้ห้ามเกษตรกรไม่ให้ปลูกข้าว  แต่ทางฝายจำเป็นต้องกักเก็บน้ำไว้เพื่ออุปโภคบริโภค  และบริหารจัดการในช่วงนาปีฤดูกาลถัดไปจึงไม่สามารถส่งน้ำให้ผู้ทำนาปรังได้.
Share:

อุตุฯเตือนภาคเหนืออากาศเย็นแม่จันพบแผ่นดินไหว


นองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศาเซลเซียส สำหรับยอดดอยมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9 - 15 องศาเซลเซียส  ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อุณหภูมิต่ำสุดเช้านี้วัดได้ 8.6 องศาเซลเซียส ที่ยอดดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ จากนั้นในช่วงวันที่ 23-25 ต.ค. บริเวณความกดอากาศสูงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ทำให้ภาคเหนือมีฝนในระยะแรกหลังจากนั้นจะมีอุณหภูมิลดลง 1-2 องศาเซลเซียส สำหรับผลกระทบต่อการเกษตรนั้น เกษตรกรควรซ่อมแซมโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ให้อยู่ในสภาพดีสามารถให้ความอบอุ่นแก่สัตว์เลี้ยงในช่วงฤดูหนาว ระยะต่อไปปริมาณฝนจะลดลง เกษตรกรควรใช้น้าที่เก็บกักไว้อย่างประหยัด เพื่อจะได้มีน้าใช้ตลอดช่วงแล้ง

ด้านสำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ช่วงเวลา 06.59 น.ในวันนี้ ได้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 2.7 ริกเตอร์ ละติจูด 20.17 ลองติจูด 99.94 ศูนย์กลางอยู่ ต.จอมสวรรค์ อ.แม่จัน จ.เชียงราย ซึ่งเบื้องต้นเป็นเพียงแผ่นดินไหวที่รู้สึกได้เท่านั้น และไม่ได้รับรายงานเรื่องของความเสียหายในพื้นที่แต่อย่างใด นายคมสัน สุวรรณอัมพา หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า สำหรับสภาพอากาศที่เริ่มหนาวเย็นขณะนี้ทางด้าน ปภ.เชียงใหม่ ได้เตรียมความพร้อมไว้แล้ว เบื้องต้นได้ประสานไปยังอำเภอต่าง ๆ ให้รายงานเกี่ยวกับเรื่องความต้องการเครื่องนุ่งห่มกันหนาว รวมถึงข้อมูลของบริษัท หน่วยงานเอกชน ที่จะเข้าไปแจกจ่ายในพื้นที่ด้วย ว่ามีหน่วยงานไหนบ้างที่จะเข้าไป โดยทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ ได้เตรียมเสื้อกันหนาว ผ้าห่ม เวชภัณฑ์ต่างๆ พร้อมทำบัญชีกลุ่มเปราะบาง เช่น เด็ก สตรี คนชรา และคนพิการ เพื่อให้การช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที ควบคู่การเฝ้าระวังอัคคีภัยจากอากาศแห้ง ตลอดจนเตรียมพร้อมรับภัยแล้งในช่วงต่อไป ทั้งนี้ หากประชาชนในพื้นที่ใดประสบภัยและต้องการความช่วยเหลือ สามารถแจ้งได้ทางสายด่วน 1784 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ตลอด 24 ชั่วโมง

น.ส.เมธินี อะคะโรจน์ อายุ  23 ปี แม่ค้าจำหน่ายดอกไม้บูชา บริเวณหน้าลานอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย เปิดเผยว่า ตนได้ขายดอกไม้บูชาที่ร้านแห่งนี้มานานแล้ว ซึ่งหากเทียบในช่วงเวลาเดียวกันของปีนี้ กับปีที่ผ่านมา ก็จะเห็นว่าปีนี้นักท่องเที่ยวมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ส่วนหนึ่งอาจจะมาจากเรื่องของน้ำที่ไม่ท่วมหนักเหมือนปีที่ผ่านมา ประกอบกับสภาพอากาศที่หนาวเย็นเร็ว ทำให้นักท่องเที่ยวมาเร็วขึ้น สำหรับดอกไม้ที่จำหน่ายนั้นก็มีราคาแพงขึ้น แต่ทางกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าในย่านนี้ ไม่สามารถขึ้นค่าดอกไม้ ธูปเทียน และเครื่องสักการะบูชาได้ เพราะต้องเห็นใจนักท่องเที่ยวด้วย จึงจำเป็นต้องใช้ราคาเดิมคือชุดละ 20 บาท มีดอกบัว ดอกดาวเรือง ธูปและเทียน ซึ่งคาดว่าในปีนี้ถึงแม้ดอกไม้จะมีราคาสูงขึ้นกว่าเดิม 10 - 20 บาท แต่หากนักท่องเที่ยวเดินทางมาเร็วขึ้นแบบนี้ก็มั่นใจว่าจะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นได้และปีนี้การท่องเที่ยวน่าจะคักคักมากกว่าปีที่ผ่านมาแน่นอน.
Share:

รถทัวร์พุ่งชนท้ายรถบรรทุกผู้โดยสารเจ็บระนาว


เมื่อเวลา 05.00 น. วันนี้ ( 24 ต.ค.)   ร.ต.ท.ณัฐวุฒิ เพ็ชรตา พนักงานสอบสวน สภ.ห้างฉัตรจ.ลำปาง รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถโดยสารประจำทางพุ่งชนท้ายรถบรรทุก 10 ล้อ บริเวณถนนสายลำปาง – เชียงใหม่ ขาออก ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 37 – 38 ต.เวียงตาล  มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก  จึงไปตรวจสอบพร้อม เจ้าหน้าที่กู้ชีพ โรงพยาบาลศูนย์ลำปาง ตลอดจนเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยนครลำปาง ที่เกิดเหตุเป็นทางขึ้นเขาขุนตาลห่างจากศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จ.ลำปาง 300 เมตร พบรถทัวร์ สีฟ้าขาวชมพู อีสารทัวร์ วีไอพี 24 ที่นั่ง ของ บริษัท ขนส่ง จำกัด สายเชียงใหม่ – ขอนแก่นทะเบียน 10 – 8006 ขอนแก่น  พุ่งชนอัดก็อปปี้ท้ายรถบรรทุก 10 ล้อ สีขาว ทะเบียน 82 – 3989 เชียงใหม่ ซึ่งเป็นรถขนซอสหอยนางรม ตรานกดำสภาพพังยับเยิน ขวดซอสตกกระจายเกลื่อนถนน ทำให้การจราจรติดขัดเกือบ 1 กม. เจ้าหน้าที่ต้องเร่งระบายรถออกอย่างเร่งด่วน  ก่อนใช้เครื่องตัดถ่างซากรถลำเลียงผู้ได้รับบาดเจ็บ  15 ราย  ส่งรพ.ศูนย์ลำปาง  ส่วนผู้โดยสารที่เหลือต่างช่วยกันเก็บสิ่งของ และกระเป๋าสัมภาระออกมาอย่างชุลมุน
สอบสวนเบื้องต้น นายชำนาญกิจ ภู่เหล็ก  คนขับรถบรรทุก 10 ให้การอ้างว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถชิดข้างทางอย่างช้าๆ เพราะเป็นทางขึ้นเขา ประกอบกับบรรทุกสินค้าจำนวนมาก จึงวิ่งได้ไม่เร็ว จึงถูกรถโดยสารประจำทางคันดังกล่าว ซึ่งพยายามเร่งเครื่องวิ่งขึ้นเขา พุ่งชนท้ายอย่างแรง แล้วอาศัยจังหวะชุลมุนหลบหนีไป ในชั้นนี้ตำรวจคาดว่า คนขับน่าจะเกิดอาการวูบหลับใน ทำให้เท้าเหยียบคันเร่งจนพุ่งชนรถบรรทุก อย่างไรก็ตามตำรวจ จะได้ประสานบริษัทขนส่งรถ เพื่อนำตัวคนขับมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป.
Share:

ระทึก!ประเดิมครบ 8 ปีตากใบ โจรใต้ซัดเอ็ม 79 ถล่มจุดตรวจ



เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 25 ต.ค. พ.ต.อ.กฤษฎา แก้วจันทร์ดี รอง ผบก.ภ.จว.นราธิวาส พ.ต.อ.เสน่ห์ จรรยาสถิต ผกก.สภ.ตากใบ ร.ท.วินิชย์ ศรีโยธี หน.ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิดอโณทัย และ ร.ต.ท.นัฐวิทย์ วันเพ็ญศรี รอง หน.กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส เดินทางไปตรวจสอบเหตุคนร้ายใช้เครื่องยิงลูกระเบิดเอ็ม 79 จำนวน 2 ลูก ยิงถล่มใส่ป้อมจุดตรวจไพรวัน ตั้งอยู่ริมถนนสายตากใบ-นราธิวาส ช่วงบริเวณบ้านศาลาเชือก หมู่ 6 ต.ศาลาใหม่ อ.ตากใบ แต่พลาดเป้าไปตกที่บริเวณหน้าประตูทางเข้าของอาคารระบบประปาหมู่บ้าน และบริเวณใต้ต้นมะม่วงห่างจากจุดแรกประมาณ 30 เมตร เหตุเกิดในช่วงกลางดึกที่ผ่านมา    
 
โดยจุดแรกเจ้าหน้าที่พบว่าบริเวณถนนประตูทางเข้าอาคารระบบประปาหมู่บ้าน มีหลุมลึก 4 นิ้ว กว้าง 8 นิ้ว และมีเศษซากชิ้นส่วนกระสุนเครื่องยิงลูกระเบิดปืนเอ็ม 79 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง ทำให้ต้นไม้ที่อยู่บริเวณรายรอบทางเข้าของตัวอาคารระบบประปาหมู่บ้าน มีร่องรอยถูกสะเก็ดระเบิดฉีดขาดจำนวนหลายจุด
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบจุดที่ 2 ซึ่งมีหลุมขนาดเดียวกัน และมีเศษซากชิ้นส่วนกระสุนเอ็ม 79 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีคนร้าย 2 คน ขี่รถจยย.เป็นพาหนะ วิ่งสวนทางบนถนนฝั่งตรงข้ามเยื้องจุดตรวจไพรวัน แล้วได้จอดรถจยย.ใต้พุ่มไม้ใหญ่ที่มีเงามืด ห่างจากจุดตรวจประมาณ 300 เมตร จากนั้นคนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายได้ใช้เอ็ 79 ยิงใส่ 2 นัด เพื่อถล่มจุดตรวจไพรวัน แต่กระสุนพลาดเป้าไปตกบริเวณถนนหน้าประตูทางเข้าของอาคารระบบประปาหมู่บ้าน และตกที่ข้างบ้านพักของชาวบ้านในละแวกดังกล่าว แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ คาดว่าเป็นฝีมือของกลุ่มผู้ไม่หวังดีเพื่อสร้างสถานการณ์ร้าย ในวันครบรอบ 8 ปี เหตุจลาจลหน้า สภ.ตากใบ
Share:

จับหนุ่มลอบขนลาวลาวเข้าเมือง


วันนี้ ( 26 ต.ค.) พ.ต.อพัลลภ  สุริยกุล ณ อยุธยา ผกก.ตม.มุกดาหาร พ.ต.ท.วิเชียร  ลี้ไพโรจน์กุล รองผกก.ตม.พร้อมพวกจับกุมนายสมชาย  จั่นสนิท  ขณะกำลังขับรถปิกอัพโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์ ทะเะบียน ฒฌ 5343 กทม. ผ่านด่านตรวจของตำรวจที่หน้าสภ.หนองสูงใต้ ด้วยท่าที่มีพิรุธ ตรวจสอบภายในรถพบแรงงานชาวลาวทั้งชาย-หญิง รวม 8 คน  จึงควบคุมตัว
สอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งหมดสารภาพว่าลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ด้วยการจ่ายค่าจ้างให้กับนายสมชาย ตั้งแต่ 1,500 – 3,000 บาท เพื่อพาไปส่งที่กทม.  ด้านพ.ต.ท.วิเชียร  ลี้ไพโรจน์กุล รองผกก.ตม. กล่าวว่า ชุดสืบสวนได้เฝ้าติดตามขบวนการขนคนลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายนานนับเดือน จนทราบแน่ชัดว่านายสมชาย จะลักลอบขนชาวลาวข้ามชายแดนทีละคน แล้วพามาพักที่บ้านพักในจ.มุกดาหาร จนครบจำนวนที่ต้องการก็จะพาเข้าไปส่งมอบให้นายจ้างในกรุงเทพฯ จึงสวางแผนสกัดจับกุม ซึ่งจะได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนสภ.หนองสูงใต้เพื่อดำเนินคดีและผลักดันแรงงานชาวลาวเหล่านี้ออกไปจากราชอณาจักรต่อไป.
Share:

แห่แจ้งจับบริษัททัวร์ญี่ปุ่น-เกาหลี อ้างหลอกซื้อทัวร์เสียหายนับแสน


เมื่อวันที่ 25 ต.ค. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากการใช้บริการทัวร์ท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ของบริษัทแห่งหนึ่ง ประมาณ 70 คน เดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน บก.ปคบ.ภายหลังซื้อบริการทัวร์ท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นและเกาหลี แล้วไม่ได้เดินทางไปท่องเที่ยวตามที่ตกลงกันไว้และถูกบ่ายเบี่ยงที่จะชดใช้ค่าเสียหาย
 
นางผกาวัลย์ โพธิ์แก้ว รองผู้อำนวยการโรงเรียนวัดนิมมานรดี ย่านบางแค หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า มีคนรู้จักที่เคยไปท่องเที่ยวกับบริษัทแห่งนี้ และต่อมาได้เป็นหุ้นส่วนบริษัทร่วมลงทุนจัดทัวร์ท่องเที่ยวมาชักชวนให้ใช้บริการท่องเที่ยวเกาหลี 5 วัน 3 คืน ในราคาคนละ 13,900 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ถูกมาก จึงหลงเชื่อไปชวนคนรู้จักรวมตัวกันไปเที่ยวด้วยกันอีก 25 คน เป็นเงินกว่า 3 แสนบาท แต่มีการแบ่งจ่ายกันเป็นสองกลุ่ม โดยกลุ่มตนจ่ายให้กับบริษัทเป็นเงิน 1.8 แสนบาท ส่วนอีกกลุ่มจ่ายให้กับพนักงานขายคนที่มาติดต่อเป็นเงิน 1.9 แสนบาท กำหนดเดินทางกันในวันที่ 19-23 ต.ค. ที่ผ่านมา แต่เมื่อถึงกำหนดก็ไม่ได้เดินทาง
 
ทั้งนี้ ได้มีการนำกรณีของสายการบินพี.ซี.แอร์ ที่เกิดปัญหามาอ้างด้วย ทั้งที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกันแต่อย่างใด ซึ่งทางบริษัท แจ้งว่าหากต้องการยกเลิกก็ยินดีจะคืนเงินให้ภายใน 15 วัน ซึ่งกลุ่มของตนไม่ต้องการเงินคืน แต่ต้องการเดินทางไปเที่ยวตามที่ตกลงกันไว้และจ่ายเงินไปแล้ว กระทั่งตั้งแต่วันที่ 18 ต.ค. ก่อนกำหนดเดินทางก็ติดต่อไม่ได้อีกเลย
 
ขณะที่หญิงสาวผู้เสียหายอีกราย กล่าวว่า มีเพื่อนแนะนำทัวร์บริษัทนี้ เมื่อเห็นว่าราคาถูก จึงชวนเพื่อนอีก 4 คน ซื้อแพคเกจทัวร์ไปท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น เป็นเวลา 6 วัน ในราคาคนละ 25,900 บาท รวมเป็นเงิน 1.3 แสนบาท โดยทางบริษัทจะรับทำเอกสารต่างๆให้ทั้งหมด แต่ก่อนถึงกำหนดวันเดินทางก็ยังไม่ได้วีซ่า จึงเชื่อว่าถูกหลอกจึงเริ่มหาข้อมูลจากหน่วยงานราชการ ก็ไม่พบว่าชื่อบริษัทนี้ในระบบ ส่วนในอินเตอร์เน็ตก็พบข้อมูลที่เกี่ยวข้องในเครือข่ายสังคมออนไลน์ชื่อดัง ซึ่งมีผู้เสียหายเปิดหน้าเพจเอาไว้จึงเข้าไปดูข้อมูล พบว่ามีผู้เสียหายถูกหลอกเป็นจำนวนมาก
 
ทางด้าน พล.ต.ต.นิพนธ์ เจริญผล ผบก.ปคบ.ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปคบ. เร่งสอบปากคำผู้เสียหายทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน ก่อนรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง หลังจากก่อนหน้านี้มีผู้เสียหายที่ถูกหลอกขายบริการทัวร์ท่องเที่ยวส่วนหนึ่งเข้าแจ้งความไว้แล้ว จึงนำมาประมวลเรื่องเข้าด้วยกัน และหากสอบสวนพบการกระทำผิดก็จะพิจารณาดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป
Share:

ตำรวจรถไฟรวบสาวใหญ่ขนยาบ้า



ที่สน.นพวงศ์ เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 25 ต.ค. พ.ต.อ.กฤศ โบสุวรรณ รอง ผบก.รฟ. พร้อมด้วย พ.ต.อ.วัฒนา แก้วดวงเทียน ผกก.2 บก.รฟ. พ.ต.ต.พันษา อมราพิทักษ์ สว.ส.รฟ. แถลงผลการจับกุม นางปาลี อำนวยผล อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 114 หมู่7 ต.โคกสำโรง อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี ผู้ต้องหาค้ายาเสพติด พร้อมของกลาง ยาบ้า 12,000 เม็ด ถุงพลาสติก 1 ใบ โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ตั๋วรถไฟ 1 ใบ และเงินสด 2,000 บาท
โดยจับกุมตัวได้บนรถไฟชั้นที่ 2  ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 2 (เชียงใหม่-กทม.) คันที่ 3 เลขที่นั่ง 34 ขณะวิ่งระหว่างสถานีรถไฟป่าเส้า-สถานีรถไฟลำพูน ต.อุโมงค์ อ.เมือง จังหวัดลำพูน
 
พ.ต.อ.วัฒนา เปิดเผยว่าได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีหญิงลักลอบส่งยาบ้าไปส่งที่กทม. บนขบวนรถดังกล่าว ก่อนลงพื้นที่จนพบตัวรูปพรรณตามที่สายลับแจ้ง จึงแสดงตัวขอตรวจค้นปรากฎว่าพบยาบ้าจำนวนดังกล่าวอยู่ในถุงพลาสติกสีเหลืองจริง จึงทำการควบคุมตัวมาสอบสวนที่สน.นพวงศ์
 
จากการสอบสวน นางปาลี ให้การรับสารภาพว่าได้รับการว่าจ้างจากคนชื่อตี๋ ให้ไปรับยาจำนวนดังกล่าวที่สถานีบขส.เชียงใหม่ ให้มาส่งที่สถานีรถไฟหัวลำโพง กทม. โดยได้รับค่าจ้างจำนวน 1 แสนบาท อีกทั้งยอมรับว่าเคยก่อเหตุลักษณะดังกล่าวมาแล้ว 3 ครั้ง โดย 2 ครั้งแรกโดยสารมาทางรถยนต์โดยตลอด แต่ครั้งนี้โดยสารผ่านทางรถไฟก็ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้
จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหา เคยถูกดำเนินคดีจำหน่ายแล้วเพิ่งออกมาจากเรือนจำไม่นานมา และได้กลับมาทำอาชีพดังกล่าวเนื่องจากตกงานและเป็นหนี้ในการต่อสู้คดีอีกด้วย
Share:

รวบนักเรียนซ่าตีกันที่สี่แยกบางโพ



เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 25 ต.ค. พ.ต.ท.มนตรี โตสมจิตต์ รอง ผกก.ป.สน.เตาปูน ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีกลุ่มนักเรียนก่อเหตุตีกันบริเวณสี่แยกบางโพ แขวงและเขตบางซื่อ กทม. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรุดไประงับเหตุ
 
ในที่เกิดเหตุพบ รถประจำทางสาย 33 จอดอยู่บริเวณดังกล่าว สภาพกระจกประตูทางขึ้นด้านหน้าและหลังแตก ใกล้เคียงกันพบนักเรียนชั้นปีที่ 1 แผนกช่างยนต์โรงเรียนดัง 7 คน และนักเรียนวิทยาลัยอาชีวะแห่งหนึ่ง 11 คน ใช้อาวุธมีดก่อเหตุยกพวกตีกัน ตำรวจจึงนำกำลังเข้าจับกุมมาสอบสวนที่โรงพัก
 
จากการสอบถาม นางทองพูล ศรีสวัสดิ์ พนักงานกระเป๋ารถให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้รับนักเเรียนโรงเรียนดัง วิ่งมาถึงที่เกิดเหตุ แล้วมีรถจยย.ขี่ตามประกบใช้อาวุธมีดฟันบริเวณประตูรถด้านหน้าและหลัง หลังจากนั้นกลุ่มนักเรียนที่อยู่บนรถได้ขอให้รถจอด ก่อนจะลงไปก่อเหตุตีกัน  เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจมาถึง นักเรียนทั้งสองกลุ่มจึงแยกย้ายกันหลบหนี ส่วนที่หลบหนีไม่ทันก็ถูกจับกุม
 
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา ร่วมกันก่อเหตุให้มีอันตรายต่อบุคคลหรือทรัพย์สิน ก่อนจะเรียกผู้ปกครองมารับตัวกลับบ้าน แล้ววันรุ่งขึ้นจะนำนักเรียนที่ถูกจับกุมไปส่งฟ้องศาลอาญา ถนนรัชดาฯ ต่อไป
Share:

จับเจ้าคณะตำบลขนพระ-เณรขุดศพฉกกะโหลกทำเสน่ห์ส่งขายเมืองนอก


จากกรณีชาวบ้านหนองซา ร้องเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยสืบสวนจับกุมแก๊งคนร้าย ลักลอบขุดศพเป็นกะโหลก ศีรษะของผู้ตายที่ชื่อว่า นายสุวิชา โสบรรเทา ที่ทำปืนลั่นใส่ตนเองเสียชีวิตแล้วญาติได้นำศพไปฝังไว้ที่ป่าช้า วัดป่าเทพนิมิต บ้านหนองซา ต.น้ำอ้อม อ.กระนวน จ.ขอนแก่น โดยชาวบ้านเชื่อว่า กระดูกของผู้ตายได้ถูกแก๊งคนร้ายเอาไปทำพิธีทางไสยศาสตร์ตามความเชื่อด้านเวทย์มนต์คาถา เพื่อทำ “โหงพราย” ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
 
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 25 ต.ค. พ.ต.อ.ชาตรี ปรีชากุล ผกก.สภ.กระนวน จ.ขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.ท.ทองสุข นารีจันทร์ รอง ผกก.สส. , พ.ต.ท.วิชิต ชุมแวงวาปี สว.สส. , พ.ต.ท.วิชาญ สุธรรมแปลง พงส.(สบ3) ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาคดีลักกะโหลกศีรษะ ของ นายสุวิชา โสบรรเทา ผู้เสียชีวิตในป่าช้า วัดป่าเทพนิมิต โดยมีผู้ต้องหาคือ 1.พระครูบุญฐากร วิมล  หรือที่ชาวบ้านเรียกอาจารย์ เปิ่ม อายุ 47 ปี เจ้าคณะตำบลน้ำอ้อม อ.กระนวน และ เจ้าอาวาสวัดป่าเทพนิมตร บ้านหนองซา 2. พระดำ หรือ ชาย มุริจันทร์ อายุ 39 ปี พระลูกวัด  3. นายสหัสวรรษ หรือ โต้ง มูลแอด อยู่บ้านเลขที่ 248 หมู่ 13 ต.หนองโก อ.กระนวน จ.ขอนแก่น 4. นายเรืองโรจน์ หรือ เอ๊าะ โพธิสวัสดิ์ อายุ 28 ปี ลูกน้องคนสนิทของนาย สหัสวรรษ อยู่บ้านเลขที่ 184 หมู่ 18 ต.หนองโก อ.กระนวน จ.ขอนแก่น และ สามเณรเอ (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี พร้อมของกลางชิ้นส่วนกะโหลกศีรษะมนุษย์ ถูกหั่นเป็นชิ้นจำนวน 47 ชิ้น และ ชิ้นกะโหลกบรรจุในกรอบพลาสติก จำนวน 297 ชิ้น ตะไบเหล็กขนาด 3 นิ้ว 1 อัน
 
สอบสวนพระครูบุญญากร หรือ อาจารย์เปิ่ม ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันกับ พระดำ และ เณรเอ ทำการขุดเอากะโหลกศีรษะของ นายสุวิชา ขึ้นมาจากหลุมฝังศพ ในคืนวันที่ 2 ต.ค. ที่ผ่านมา เพื่อนำไปจำหน่ายให้กับ นายสหัสวรรษ ในราคา 7,000 บาท ซึ่งครั้งนี้ทำเป็นครั้งที่ 3 หลังจากได้เงินมาก็จะนำไปซื้อยาบ้ามาเสพร่วมกับพระลูกวัด โดยขณะที่ทำการขุด จะทำการสะกดวิญญาณผู้ตายด้วยธูปจำนวน 5 ดอก ปักไว้ 4 ทิศ ขณะที่รอให้ธูปที่จุดไว้หมดควัน ระหว่างนั้นจะทำการร่วมกันเสพยาบ้าเพื่อเรียกความกล้าก่อนลงมือขุด ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 02.00 น. ถึง เวลา 04.00 น. ก่อนที่จะเอากะโหลกศีรษะไปล้างทำความสะอาด และเก็บไว้ในห้องใต้ดินภายในกุฎีของพระดำ เพื่อรอเวลาให้ นายสหัสวรรษ มารับไปทำเครื่องรางของขลัง
 
ด้าน นายสหัสวรรษ ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนว่าจ้างให้พระทำการขุดกะโหลกศีรษะคนตายโหงจริง เนื่องจากมีออร์เดอร์จากฮ่องกงให้นำกะโหลกแยกเป็นชิ้นทำการลงอักขระ ชิ้นส่วนไหนดูสวยงามก็จะลงยันต์ และเขียนรูปผู้หญิงเปลือยลงบนกะโหลกนำไปเสนอขายให้กับลูกค้าที่ฮ่องกงในราคาชิ้นละ 1,000 ถึง 3,000 บาท ถ้าชิ้นไหนเริ่มมีกลิ่นก็จะนำน้ำมันจันท์มาผสมแล้วอัดกรอบพลาสติก เสนอราคาที่ต่ำลง
โดยสินค้าทั้งหมดถ้าส่งไปขายที่ฮ่องกง จะถูกพ่อค้านำไปขายต่อในราคาที่สูงขึ้น ซึ่งคนฮ่องกงนิยมนำไปแขวนคอเพราะเชื่อว่า จะเป็นเครื่องรางของขลังให้คุณเหมือนเสน่ห์ยาแฝด ทำให้สาวรักสาวหลง และเรียกเงินเรียกทองได้ โดยรับซื้อมาชำแหละแล้วจำนวน 3 หัว ส่งขายไปให้กับคนฮ่องกงทางพัสดุในชุดแรก และ ชุดที่สองก็จะตามไปในเร็ววันนี้แต่ถูกจับกุมตัวได้เสียก่อน
 
ทั้งนี้พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาพระและสามเณร ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ส่วนนายสหัสวรรษ และ นายเรืองโรจน์ ถูกแจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน และ รับซื้อของโจร ส่วนข้อหายาเสพติดนั้น ต้องรอผลตรวจปัสสาวะของผู้ต้องหาทั้งหมดก่อนจึงจะสามารถดำเนินการต่อไปได้
Share:

ศาลฎีกาพิพากษาประหาร “สุขุม เชิดชื่น” อดีต ส.ว.


วันนี้ (25 ต.ค.) ที่ห้องพิจารณา 905 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาคดีจ้างวานฆ่า พญ.นิชรี มะกรสาร อดีตวิสัญญีแพทย์ รพ.จุฬาฯ หมายเลขดำ ด.2166/40 หมายเลขแดง ด.2039/47พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 2 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายธนศักดิ์ หรือใหม่ ยิ้มดี อายุ 35 ปี, นายสราวุธ หรือตั๊ก ไชยสิงห์ อายุ 34 ปี, นายชัชพัฒน์ หรือเซ้ง กิตตธนากร (เสียชีวิตศาลสั่งจำหน่ายคดี) นายวิเชียร หรือม่อน กิตติธนากร อายุ 47 ปี และนายสุขุม เชิดชื่น อดีต สมาชิกวุฒิสภา อายุ 50 ปี เป็นจำเลยที่ 1 - 5 ตามลำดับในความผิดฐานจ้าง วาน ใช้ และร่วมกันฆ่า พญ.นิชรี มะกรสาร อดีตวิสัญญีแพทย์ รพ.จุฬาฯ โดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน , กระทำผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม ฟ้องโจทก์เมื่อวันที่ 25 มี.ค. 40  ระบุความผิดสรุปว่า
เมื่อระหว่างวันที่ 15–25 ต.ค. 39 ต่อเนื่องกัน จำเลยที่ 3 และ 5 ร่วมกันจ้างวานใช้ให้จำเลยที่ 1 , 2 และ4 ร่วมกันฆ่าผู้ตาย ด้วยเงินค่าจ้างจำนวน 500,000 บาท กระทั่งวันที่ 25 ต.ค. 39 เวลา 05.30 น. จำเลยที่ 1 , 2 และ 4 ร่วมกันใช้อาวุธปืนสั้นออโตเมติกไม่มีทะเบียน ขนาด 11 ม.ม. พร้อมเครื่องกระสุนจำนวน 18 นัดของจำเลยที่ 3 ไปใช้ยิง พญ.นิชรี จำนวน 5 นัด จนถึงแก่ความตายขณะขับรถยนต์ออกจากบ้านพักย่านห้วยขวาง สาเหตุมาจากนายสุขุม จำเลยที่ 5 มีความขัดแย้งกับผู้ตายเกี่ยวกับเรื่องการบริหารโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง เนื่องจากผู้ตาย สั่งปลดจำเลยที่ 5 ออกจากตำแหน่งผู้จัดการโรงเรียน กระทั่งเกิดเป็นคดีความฟ้องร้องกันทั้งในทางแพ่งและทางอาญาหลายคดี นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่แม่ผู้ตายถูกจำเลยที่ 5 หลอกลวงให้มอบเงินจำนวน 200 ล้านบาท ไปซื้อที่ดิน อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เนื้อที่ 100 ไร่ เพื่อทำสนามกอล์ฟทั้งที่ผู้ตายและบิดาคัดค้าน รวมทั้งเรื่องการขัดธุรกิจบริษัทค้าขายรถยนต์และรถจักรยานยนต์มือสอง และรับทวงหนี้  จำเลยที่ 1 , 2 และ 4 ให้การรับสารภาพชั้นสอบสวนแต่กลับให้การปฏิเสธในชั้นศาล ส่วนจำเลยที่ 5 ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 7 ก.ค. 47 ว่า จำเลยที่ 1 , 2 และ 4 กระทำผิดหลายกรรม ให้ลงโทษทุกกรรมฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน และ พ.ร.บ.อาวุธปืน พิพากษาให้ประหารชีวิตจำเลยที่ 1 , 2 และ 4 แต่คำให้การ ในชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยที่ 1 , 2 และ4 ไว้ตลอดชีวิต ส่วนจำเลยที่ 5 มีความผิดฐานจ้างวานใช้ให้ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ตามมาตรา 289 อนุ 4 ประกอบมาตรา 84 เสมือนเป็นตัวการในการฆ่า ให้ลงโทษประหารชีวิตสถานเดียว ต่อมาจำเลยที่ 1 , 2 , 4 และ 5 อุทธรณ์ โดยศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน จำเลยที่ 2 , 4 และ 5 ยื่นฎีกา ขอให้ศาลฎีกาพิพากษายกฟ้อง
ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันโดยละเอียดแล้วข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า นายสุขุม จำเลยที่ 5 ได้จ้างวานให้ จ.ส.อ.เมตตา เต็มชำนาญ (ยศขณะนั้น) และนายมงคล หรือหมง นกทอง ไปฆ่าผู้ตายถึง 2 ครั้ง โดยครั้งแรกที่โรงแรมเอเซีย ในงานครบรอบ 50 ปี โรงเรียน และครั้งที่ 2 ที่โรงเรียนเอกชนที่ผู้ตายเป็นเจ้าของ แต่ทั้งสองคนไม่รับงาน จำเลยที่ 5 จึงไปจ้างให้จำเลยที่ 3 จ้างจำเลยที่  1 , 2 และ 4 ฆ่าผู้ตาย ส่วนเหตุที่จำเลยที่ 5 จ้างวานฆ่าผู้ตาย เนื่องมาจากความขัดแย้งในการทำธุรกิจร่วมกัน รวมทั้งการบริหารโรงเรียน และการที่จำเลยที่ 5 ได้ฉ้อฉลนางฉลวย มะกรสาร เกี่ยวกับการซื้อขายที่ดิน ที่ อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี จำนวน 100 ไร่ ราคาประมาณ 200 ล้านบาท นับเป็นสาเหตุร้ายแรงที่จำเลยที่ 5 จ้างฆ่าผู้ตาย 
นอกจากนี้คำรับสารภาพของจำเลยอื่น ๆ ในชั้นจับกุมที่ให้การรับสารภาพต่อหน้านายเสนาะ เทียนทอง รมว.มหาดไทยขณะนั้น และนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ล้วนมีน้ำหนักน่าเชื่อถือ  ให้รับฟังได้โดยปราศจากข้อสงสัย ส่วนที่นายมงคล หรือ หมง นกทอง กลับคำให้การ มาเบิกความว่า จำเลยที่ 5 ไม่เคยติดต่อให้ฆ่าผู้ตายนั้น ก็เป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อช่วยเหลือให้จำเลยที่ 5 พ้นจากความผิด จึงไม่มีน้ำหนักมาหักล้างพยานหลักฐานโจทก์ได้ฎีกาจำเลยที่ 2 , 4 และ 5 ฟังไม่ขึ้น คำพิพากษาที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาลงโทษมานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย พิพากษายืน 
ภายหลังฟังคำพิพากษาศาลฎีกา นายสุขุม เชิดชื่น จำเลยคนสำคัญในคดีนี้ กล่าว สั้น ๆ ยืนยันว่า ไม่ได้กระทำผิด เพราะหากกระทำจริงก็คงจะหลบหนีไปต่างประเทศแล้ว โดยไม่ต้องเสียเวลาต่อสู้คดีนาน หลังจากนี้จะปรึกษากับทนายความขอพระทานอภัยโทษภายใน 60 วันด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้นายสุขุม ถูกเบิกตัวจากเรือนจำกลางบางขวาง   โดยมีบุตรชาย2คน  และญาติสนิทมิตรสหายประมาณ 20 คน มาให้กำลังใจ  และเมื่อฟังคำพิพากษาของศาลแล้วต่างก็มีอาการซึมเศร้า สำหรับนายธนศักดิ์ หรือใหม่ ยิ้มดี จำเลยที่ 1 ยอมรับโทษจำคุกตลอดชีวิต คดีจึงถึงที่สุดแล้วตั้งแต่ชั้นศาลอุทธรณ์  โดยไม่ยื่นฎีกาแต่อย่างใ
Share:

"เฉลิม"แถลงตามยึดทรัพย์เครือข่ายดาบฉาว


เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 24 ต.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผบ.ตร. และพล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการป.ป.ส. ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมแก็งค์ค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ภาคเหนือ โดยขยายผลได้จากการจับกุมนายฐิติ เพ็งสุข พร้อมยึดยาบ้า จำนวน 1,280,000 เม็ด และ ยาไอซ์ 5 กิโลกรัม ในพื้นที่ จ.ลำปาง โดยคดีนี้เกี่ยวพันกับ ด.ต.มนัส เสือโพธิ์ ผบ.หมู่ งานจราจร สน.ประชาชื่น เมื่อวันที่ 21 ต.ค.ที่ผ่านมา
ล่าสุดสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส. ได้ติดตามยึดทรัพย์และอายัดทรัพย์สินเครือข่ายค้ายาดังกล่าว มูลค่า 77.77  ล้านบาท โดยแบ่งเป็น ทรัพย์สินของนายธิติ เพ็งสุข รวม 4.8 ล้านบาท ได้แก่ รถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ ทะเบียน ญฏ 2706 กทม.1 คัน บัญชีเงินฝาก 5 บัญชี นาฬิกา 9 เรือน รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮาเลย์วิสัน 1 คัน ที่ดิน 1 แปลง ทรัพย์สินของด.ต.มนัส เสือโพธิ์ รวม 20.61 ล้านบาท ได้แก่ บ้านพร้อมที่ดิน1 หลัง คอนโดซิตี้โฮม 1 ห้อง ทองคำแท่ง 20 บาท ทองรูปพรรณ14 รายการ อาวุธปืน 1 กระบอก รถยนต์ 4 คัน บัญชีเงินฝาก 3 บัญชี มูลค่า 366,522 บาท
โฉนดที่ดิน 8 แปลง รถจักรยานยนต์ 2 คัน ทรัพย์สินของนายสถิตและนางบัวไข แสงหล้า รวม 26.1 ล้านบาท ได้แก่ ทองรูปพรรณ และพระพร้อมกรอบทอง 7 รายการ รถไถ 1 คัน รถแท็กเตอร์ 2 คัน รถหกล้อ 1 คัน รถตักดิน 1 คัน ที่ดิน 40 ไร่ รถจักรยานยนต์ 1 คัน ทรัพย์สินของนายประทินและนางสุชาดา ทวยภา รวม 26.2 ล้านบาท ได้แก่รุยนต์ 1คัน รถไถ 1 คัน รถจักรยานยนต์ 1 คัน อาวุธปืน 2 กระบอก ที่ดิน 44 ไร่ พร้อมบ้าน 2 หลัง และทรัพย์สินของนายระพิณ คำแฝงและนายสุเทพ คำแฝง อยู่ระหว่างการตรวจสอบทรัพย์สินในเขต อ.เมือง จ.กำแพงเพชร
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ขณะนี้ ด.ต.มนัส ได้ขอมอบตัวแล้ว อยู่ระหว่างการนำตัวมาสอบสวน จากการสอบสวนเบื้องต้นยังไม่พบมีตำรวจรายอื่นเข้าไปเกี่ยวข้อง แต่ตำรวจทำผิดก็ต้องมีมาตรการเด็ดขาด ไม่ปกป้อง ไม่ช่วยเหลือ ต้องดำเนินคดีไปตามข้อเท็จจริง ไม่มีการกลั่นแกล้ง โดย ผบ.ตร.จะรุกคืบไปสอบผู้บังคับบัญชาว่าดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างไร เพราะกรณีนี้ผู้ต้องหาขนยาหลายครั้ง และหัวหน้าใหญ่คือตำรวจเก่าที่เกษียณราชการ ทั้งนี้ การจับกุมครั้งนี้ถือเป็นเครือข่ายแรกที่ไม่มีคนในภาคเหนือร่วมขบวนการ
“ยอมรับว่าที่ผ่านมามีตำรวจแอบขายยาบ้างเป็นรายเล็ก ๆ แต่ครั้งนี้ถือเป็นขบวนการใหญ่ ส่วนที่จับแก็งค้ายาได้มาก ๆ เพราะมีการผลิตมาก โดยกองกำลังผ่าเมืองรายงานว่ามียาตกค้างที่พม่าอีก ซึ่งทางการพม่าก็พยายามกวดขัน โดยมีประเทศจีนให้การช่วยเหลือด้วย เพราะตำรวจไทยเคยให้ความร่วมมือในการการช่วยคดีลูกเรือจีน แต่หากสถานการณ์ยังเป็นแบบนี้ผมจะไปหารือกับพม่า” รอง นายกฯ กล่าว
อีกรายตำรวจปราบปรามยาเสพติด ร่วมกับเจ้าหน้าทีตำรวจภูธรภาค 5 จับกุม นายเกรียงไกร แซ่ลาวื่อ  อายุ 23 ปี นายสุชาติ ชูปิติวงศ์ อายุ 23 ปี นายสมศักดิ์ เลาวะ อายุ 21 ปี นายสามารถ เกียรติไพรสัณฑ์ อายุ 19 ปี นายเกียรติศักดิ์ เกียรติยากุล อายุ 23 ปี และนายทิชานนท์ วัฒนาตระกูลวงศ์ อายุ 29 ปี  พร้อมยึดยาบ้า 400,000 เม็ด โดยจับกุมได้ที่หมู่บ้านทวีโชค อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่
การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากตำรวจได้รับแจ้งว่าจะมีกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด ลักลอบนำยาเสพติดจากชายแดนไทย-พม่า ด้านอำเภอแม่ฟ้าหลวง เพื่อมาส่งให้กับลูกค้าที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยใช้รถกระบะยี่ห้อเซฟโรเลตสีน้ำเงิน ทะเบียน ผฉ 6758 เชียงใหม่ เป็นยานพาหนะ จึงเฝ้าสะกดรอยเส้นทางการลำเลียง กระทั่งรถคันดังกล่าวเข้ามาจอดในบ้านเป้าหมาย จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นพบยาเสพติดซุกซ่อนไว้ท้ายกระบะที่ดัดแปลงเป็นช่องลับ จึงได้ดำเนินการจับกุมพร้อมยึดของกลางดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ภายหลังการแถลงข่าว พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) กล่าวถึงกรณีที่พบตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องเป็นผู้ต้องหาในคดียาเสพติดหลายคดีว่า ทั้งกรณีตำรวจสน.ประชาชื่น และที่ สภ.ไชยปราการ นั้น พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ได้ย้ำในประชุมศปก.ตร. ชมเชยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมที่แม้ทราบว่าเป็นตำรวจก็ไม่ปล่อยยังดำเนินการถึงที่สุด ส่วนกรณีที่ตำรวจและอดีตตำรวจไปเกี่ยวข้องขบวนการยาเสพติดผบ.ตร.สั่งการให้ดำเนินการทางวินัยและปกครองอย่างเต็มที่
“ตำรวจไปทำผิดเสียเอง ผบ.ตร.กำชับให้ดำเนินการทางคดีอย่างถึงที่สุด และย้ำว่าให้ตรวจสอบผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นตามคำสั่งกรมตำรวจที่ 1212/2537 ที่ระบุชัดเจนในการที่ผู้บังคับบัญชาต้องดูแลเอาใจใส่ผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น เช่น ระดับผู้บังคับหมู่ ต้องมีรองสารวัตร สารวัตรดูแลตามลำดับ ทุกกรณีต้องดูว่าผู้บังคับบัญชาสอดส่องต่อเนื่องหรือไม่ ถ้าไม่ดูแลกันเท่าที่ควรผู้บังคับบัญชาต้องรับผิดชอบด้วย อีกทางหนึ่งขณะนี้ พล.ต.อ.อัมรินทร์ อัครวงศ์ จเรตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการจเรตำรวจที่รับผิดชอบทุกหน่วยเข้าไปตรวจสอบการทำงานของตำรวจทุกพื้นที่อย่างเป็นขั้นเป็นตอน อย่างกรณีที่เกิดขึ้นแล้วจะต้องตรวจสอบเอาผิดผู้บังคับบัญชาให้เห็นเป็นแบบอย่าง ซึ่งมีการตั้งกรรมการมาตรวจสอบแล้ว” พล.ต.ต.ปิยะกล่าว
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีจับกุมรองสารวัตรที่ อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่  นั้น ตำรวจรายนี้ก็อยู่ในบัญชีตำรวจต้องสงสัยค้ายาเพียงแต่ยังจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน แต่เมื่อมีหลักฐานก็จับกุมทันที ซึ่งตำรวจมีบัญชีรายชื่อตำรวจที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดอยู่ รายไหนปรากฎหลักฐานชัด หาหลักฐานได้ก็จับกุมทันที รายไหนยังไม่มีหลักฐาน แต่มีข้อมูลก็ใช้วิธีการปรับย้ายออกจากพื้นที่ที่อาจส่งเสริมให้ทำผิดได้.
Share:

รวบด.ต.ประชาชื่น ค้ายา สารภาพค้ายานรกมานานกว่า 2 ปีแล้ว


เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 24 ต.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา พล.ต.ต.อิทธิพล ภิริยะภิญโญ พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สุธีร์ เนรกัณฐี  ผบก.น.2 พ.ต.อ.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รอง ผบก.สปพ. พ.ต.อ.จักร อ่อนนิ่ม ผกก.สน.ประชาชื่น และชุดสืบสวนร่วมกันแถลงข่าวการเข้ามอบตัวของ ด.ต.มนัส เสือโพธิ์ ผบ.หมู่ จร.สน.ประชาชื่น ผู้ต้องหาที่ร่วมกับพวกขนยาเสพติดล็อตใหญ่ พร้อมของกลางทรัพย์สินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติดซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถติดตามยึดทรัพย์มาได้หลายรายการ ประกอบด้วย 1.โฉนดที่ดิน จำนวน 2 ฉบับ 2.แผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ต่าง ๆ 10 แผ่น 3.ทองคำแท่งหนัก 20 บาท 1 แท่ง แหวนประดับอัญมณี 4.พระหลวงปู่ทวด 5.สมุดบัญชีเงินฝาก บัตรเอทีเอ็ม 6.อาวุธปืนกล็อก รุ่น 21 จำนวน 1 กระบอก พร้อมซองกระสุน 1 อัน รถเก๋ง 3 คัน และรถ จยย.อีก 2 คัน รวมมูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากคดีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.งาว จ.ลำปาง จับกุมตัวนายฐิติ หรือเอ๋ เพ็งสุข อายุ 42 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 1,280,000 เม็ด ยาไอซ์ 5 กิโลกรัม ซึ่งภายหลังถูกจับกุมได้ให้การซัดทอดว่า ได้รับการว่าจ้างจาก ด.ต.มนัส เป็นเงิน 1 แสนบาท ให้ขับรถนำทางในให้ ก่อนแหกด่านเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ ซึ่งในส่วนของ บช.น.รู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น โดยผู้กระทำผิดก็เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด หลังเกิดเหตุจึงรีบสั่งการให้จัดชุดติดตามตัว โดยร่วมกับกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) และเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมทั้งให้ญาติและเพื่อนร่วมงานช่วยกันติดต่อ ด.ต.มนัส ให้เข้ามอบตัว กระทั่งเจ้าตัวทนแรงกดดันไม่ไหวติดต่อเข้ามาขอมอบตัวเอง เจ้าหน้าที่จึงเดินทางไปรับตัวจาก จ.ลำปาง

"เครือข่ายนี้อยู่ทางภาคเหนือ ซึ่งคงจะต้องขยายผลอีกเพื่อสาวไปถึงผู้ร่วมขบวนการว่ารับมาจากใคร ไปส่งให้ใคร อย่างไรบ้าง หลังจากนี้จะทำการสืบสวนขยายผลไปจนถึงที่สุด และจะมีการตรวจค้นในอีกหลายจุด เพื่อดำเนินการกับเครือข่ายที่เหลือทั้งหมด ทั้งนี้ผู้บังคับบัญชาทุกคนรู้สึกเสียใจ แต่เมื่อ ด.ต.มนัส กระทำความผิดก็ต้องว่ากันตามกฎหมาย เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า,ยาไอซ์) และมีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.งาว จ.ลำปาง ดำเนินคดีต่อไป" พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าว

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงมาตรการในการกวดขันผู้ใต้บังคับบัญชา พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวว่า ทาง บช.น.มีมาตรการในการกวดขันอยู่แล้ว ยิ่งเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ก็ยิ่งต้องดำเนินการตามคำสั่งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่วนการพิจารณาสอบสวนผู้บังคับบัญชาของ ด.ต.มนัส เกี่ยวกับความบกพร่องในการดูแลลูกน้อง ต้องขอตรวจสอบรายละเอียดก่อน ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา

จากการสอบสวน ด.ต.มนัส ให้การรับสารภาพว่า ไมได้ตั้งใจจะค้ายาเสพติด แต่มีเพื่อนชักจูง เห็นว่ารายได้ดี โดยทำมานานประมาณ 2 ปี โดยเพื่อนที่ชักจูงเป็นตำรวจเก่าที่เคยอยู่ สน.ประชาชื่น ชื่อ จ.ส.ต.ประวิน ทวยภา อดีตสายตรวจ สน.ประชาชื่น  แต่ถูกไล่ออกจากราชการเมื่อประมาณปี 2546 ซึ่งเป็นคนที่ถูกออกหมายจับด้วย ใจจริงก่อนหน้านี้ก็หยุดส่งยามา 3-4 เดือนแล้ว เพราะกลัวว่าสักวันจะถูกจับ และกำลังจะย้ายหน้าที่ไปอยู่ที่อื่น แต่เพราะเพื่อนขอร้องให้ช่วยอีกครั้ง จึงตัดสินในทำ เพราะจะได้เงินไปเคลียร์หนี้สหกรณ์จำนวน 2 ล้านบาท ส่วนยาเสพติดที่รับมาเป็นเครือข่ายทางภาคเหนือ ผ่านทางนางสุชาดา หรือเพ็ญ ทวยพา โดยรับยามาจาก "เฮียใหญ่" ที่อยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน

"ส่วนแบ่งจะหาร 3 คือ พี่เพ็ญ ตัวเองและคนที่ขับนำทางให้ ตกเฉลี่ยจะได้เงินแต่ละครั้งประมาณ 1- 2 ล้าน เคยทำได้สูงสุดถึง 2.2 ล้าน สำหรับยาที่ขนแต่ละครั้งไม่เคยได้นับเลย พอขึ้นรถเสร็จก็ขับออกมาเลย รีบดำเนินการให้เร็วที่สุด ผมมีหน้าที่เอาของใส่รถและขับจากเชียงรายเข้ากรุงเทพฯ เท่านั้น โดยทุกครั้งจะขับเอง หากเจอด่านก็หาทางหลบ หากมาไม่ได้ก็ไม่มา บางครั้งก็นอนค้าง แต่ไม่เคยใช้อาชีพตำรวจช่วยในการส่งยา เพราะมันมองกันออก ผมคิดว่าตำรวจมองกันทัน และผมก็ไม่กล้าเข้าด่าน ส่วนชุดตำรวจผมมีติดไว้ในรถอยู่แล้ว เพราะผมเข้าเวรจราจรด้วย ที่ผ่านมาไม่เคยเปิดปากเรื่องนี้กับใคร แม้กระทั่งเพื่อนร่วมงาน ที่เข้ามาได้เพราะ จ.ส.ต.ประวิน ชักชวน เพราะสนิทกันมาก เคยกินเที่ยวด้วยกัน เมื่อเขาถามว่าสนใจไหมก็เลยทำ ส่วนตัวจำไม่ได้ว่าทำทั้งหมดกี่ครั้ง แต่ไม่น่าจะเกิน 10 ครั้ง เพราะทำทีก็เว้นช่วงไปนาน ผมจะทำช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ บางเวรก็จ้างเพื่อนเข้าเวรแทนกัน" ด.ต.มนัส กล่าว.
Share:

"2 ฝรั่ง" คาดเสพยาเกินขนาดดับคาโรงแรม


วันนี้ (25 ต.ค.) เมื่อเวลา 20.00 น. ร.ต.อ.อดิศักดิ์ เหล่าดี พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.ลุมพินี รับแจ้งเหตุมีชายชาวต่างชาติเสียชีวิตภายในโรงแรมแห่งหนึ่งย่านถนนรัชดาภิเษก แขวงและเขตคลองเตย จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.ท.ปิโยรส กัณหะสิริ สว.สส.สน.ลุมพินี พ.ต.ต.ธเนศ มีทอง สว.สส.สน.ลุมพินี เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวชจากโรงพยาบาลจุฬาฯ เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดอยู่ภายในห้องเลขที่ 504 ชั้น 5 ของโรงแรมดังกล่าว จากการตรวจสอบบริเวณพบศพชายชาวต่างชาติ 2 ราย ศพแรก คือ นาย แองกัส อีริค แคมป์เบลล์ อายุ 27 ปี สัญชาติออสเตรเลีย สภาพศพนอนหงายอยู่บนพื้นห้องข้างเตียงนอน สวมเสื้อยืดสีดำ นุ่งกางเกงขาสั้นสีน้ำตาล ส่วนอีกศพ คือ นายคาซาเมล สตีเฟ่น อายุ 31 ปี สัญชาติแคนาดา สภาพศพนั่งอยู่บนเบาะหลังพิงผนังห้อง สวมเสื้อโปโลสีฟ้า นุ่งกางเกงขาสามส่วนสีน้ำตาลอ่อน ตรวจสอบตามร่างกายทั้งคู่ไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยการถูกทำร้ายแต่อย่างใด เบื้องต้นแพทย์สันนิษฐานว่า เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 12-24 ชั่วโมง จากการตรวจสอบภายในห้องพบกระป๋องเบียร์ยังดื่มไม่หมดวางอยู่บน 2 กระป๋อง ผงสีขาวคล้ายยาเสพติดไม่ทราบกองอยู่บนโต๊ะ และอุปกรณ์การเสพอีกจำนวนหนึ่ง จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนพนักงานทำความสะอาดของโรงแรมดังกล่าวให้การว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 16.15 น.ของวันที่ 24 ต.ค.ได้เข้าไปเคาะห้องของผู้ตายทั้งสองคนเพื่อต้องการทำความสะอาดแต่ผู้ตายบอกว่าไม่ต้องทำ หลังจากนั้นก็ไม่พบผู้ตายทั้งสองคนออกมาจากห้องอีกเลย จนกระทั่งถึงเวลาที่ต้องคืนห้องแต่ผู้ตายก็ยังไม่ออกมา เคาะเรียกก็ไม่ต้อง จึงใช้กุญแจเปิดห้องเข้าไปตรวจสอบก็พบผู้ตายทั้งสองคนนอนเป็นศพอยู่แล้ว
ด้าน พ.ต.ท.ปิโยรส กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบตามร่างกายผู้ตายทั้งสองคนไม่พบว่ามีบาดแผลหรือร่องรอยการถูกทำร้ายแต่อย่างใด เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเสียชีวิตจากการเสพยาเสพติดเกินขนาด อย่างไรก็ตามจะส่งศพผู้ตายทั้งสองคนให้แผนกนิติเวช โรงพยาบาลจุฬาฯ ทำการชันสูตรหาสาเหตุของการเสียชีวิตที่แท้จริงอีกครั้ง พร้อมทั้งส่งผงสีขาวที่พบในห้องพักผู้ตายไปตรวจสอบว่าเป็นยาเสพติดชนิดใด
Share:

วิสามัญฯแก๊งค้ายาบ้าที่นราธิวาส



เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 25 ต.ค. น.อ.สมเกียรติ ผลประยูร ผบ.นย. อ.เมือง จ.นราธิวาส พ.อ.พสิษฐ์ ชาญเลขา คณะทำงานพิเศษ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า และ พ.ต.อ.สะท้านฟ้า วามะสิงห์ ผกก.สส.ภ.จว.นราธิวาส ได้ร่วมสนธิกำลัง 50 นาย ใช้กฎอัยการศึกบุกจู่โจมตรวจค้นบ้านพักต้องสงสัยในหมู่บ้านจะแลเกาะ หมู่ 7 ต.มะนังตายอ อ.เมือง พบวัยรุ่นจำนวน 3 คนเดินอยู่ และเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ต่างพากันวิ่งหลบหนีเข้าป่าสวนยางพารา เจ้าหน้าที่ตะโกนให้หยุดแต่คนร้ายทั้ง 3 คน กลับใช้อาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม. 11 ม.ม.และอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ยิงใส่กลุ่มเจ้าหน้าที่ จนทั้งสองฝ่ายได้เปิดฉากยิงปะทะกัน
 
เมื่อเสียงปืนสงบลงเจ้าหน้าที่ได้เคลียร์พื้นที่ พบศพคนร้ายถูกวิสามัญฆาตกรรม 1 ศพ ทราบชื่อว่า นายอาฟัน ดิง อายุ 23 ปี ซึ่งพิการมือซ้ายด้วนตั้งแต่กำเนิด นอกจากนี้สามารถจับเป็นได้อีก 1 คนคือ นายอิบรอน อาแว พร้อมของกลางยาบ้าซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋ากางเกง จำนวน 300 เม็ด และยึดอาวุธปืนพกสั้นของคนร้ายทั้ง 3 คนไว้ได้ ส่วนคนร้ายอีก 1 รายหลบหนีไปได้ โดยเจ้าหน้าที่กำลังเช็ดประวัติผู้ตายและผู้ต้องหา ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีความมั่นคงหรือไม่ แต่ในเบื้องต้นคาดว่าเป็นแก๊งค้ายาเสพติด
Share:

Disqus Shortname

Comments system

ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 095-954-4524

ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

Blog Archive

Post Top Ad

คลังบทความของบล็อก

Author Details

Menu - Pages

Business

Random Posts

Recent

Popular

Blog Archive