วันนี้ ( 15 ต.ค. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง
ประเทศจีนว่า สมเด็จพระนโรดม สีหนุ อดีตพระมหากษัตริย์กัมพูชา
เสด็จสวรรคตแล้วด้วยพระอาการประชวรเรื้อรังจากโรคมะเร็งลำไส้ โรเบาหวาน
โรคหัวใจ และโรคเครียด ขณะทรงมีพระชนมายุ 89 พรรษา
เมื่อช่วงรุ่งสางวันนี้
ระหว่างทรงเข้ารับการถวายการรักษาโดยคณะแพทย์ของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุง
ปักกิ่ง
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สมเด็จพระนโรดม สีหนุ เสด็จสวรรคต เมื่อเวลา 02.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ( 03.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย ) ก่อนถึงวันครบรอบวันคล้ายวันพระราชสมภพ 90 พรรษา ในวันที่ 31 ต.ค.
ด้านนายนิก บันเจย รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชา แถลงว่า ถือเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของกัมพูชา พสกนิกรทุกคนรู้สึกตกตะลึง และเศร้าโศกอย่างมากทันทีที่ทราบข่าว แม้พระองค์จะทรงสละราชสมบัติ ก่อนเสด็จพระราชดำเนินไปประทับรักษาพระอาการประชวรอยู่ที่ประเทศจีน แต่ชาวกัมพูชาทุกคนยังมีความเคารพรักต่อพระองค์เสมอมา
ทั้งนี้ สมเด็จพระบรมนาถนโรดม สีหมุนี พระมหากษัตริย์องค์ปัจจุบัน ซึ่งทรงเป็นพระราชโอรสของสมเด็จพระนโรดม สีหนุ เสด็จฯพร้อมด้วยนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ไปยังกรุงปักกิ่ง ด้วยเที่ยวบินพิเศษแล้ว เพื่อทรงรับพระบรมศพของสมเด็จพระราชบิดากลับมาประกอบพระราชพิธี ณ กรุงพนมเปญ
สมเด็จพระนโรดม สีหนุ เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 31 ต.ค. 2465 ทรงเป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระนโรดม สุรามฤต และสมเด็จพระมหากษัตริยานีสีสุวัตถิ์ กุสุมะ นารีรัตน์ สิริวัฒนา เสด็จขึ้นครองราชสมบัติครั้งแรกเมื่อเดือนก.ย. 2484 หลังจากพระบาทสมเด็จพระสีสุวัตถิ์ มุนีวงศ์ ซึ่งเป็นพระอัยกา เสด็จสวรรคต ต่อมาทรงสละราชสมบัติเมื่อวันที่ 2 ก.ย. 2498 ให้แก่สมเด็จพระราชบิดา เพื่อทรงดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็น นายกรัฐมนตรีแห่งกัมพูชา
อย่างไรก็ตาม พระองค์ทรงขึ้นดำรงตำแหน่งประมุขของกัมพูชาควบคู่กับการเป็นนายกรัฐมนตรี หลังสมเด็จพระราชบิดาเสด็จสวรรคต เมื่อปี 2503 ทว่าทรงเป็นการเสด็จสู่พระราชสมบัติโดยปราศจากพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ส่งผลให้พระองค์ถูกนายพลลอน นอล ก่อการรัฐประหารเพื่อล้มอำนาจของพระองค์
หลังสิ้นสุดเหตุการณ์วุ่นวายทางการเมืองในประเทศ สมเด็จพระนโรดม สีหนุ ทรงได้รับการสถาปนาเป็นพระมหากษัตริย์อีกครั้ง เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 2536 ก่อนจะทรงสละราชสมบัติให้แก่สมเด็จพระบรมนาถนโรดม สีหมุนี พระราชโอรส เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2547 โดยทรงดำรงพระราชอิสริยยศ "พระกรุณา พระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ พระมหาวีรกษัตริย์ พระวรราชบิดา เอกราช บูรณภาพดินแดน และความเป็นเอกภาพแห่งชาติเขมร"
เมื่อราว 3 ปีก่อน สมเด็จพระนโรดม สีหนุ ทรงมีพระราชสาส์นดำรัสว่า พระองค์ทรงปรารถนาที่จะสวรรคตในอนาคตอันใกล้นี้ โดยทรงมีพระประสงค์ให้ทางการกัมพูชาจัดพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพของ พระองค์ ตามขนบะรรมเนียมประเพณีของกัมพูชา ก่อนนำพระอัฐิของพระองค์ไปบรรจุไว้ในพระโกฏิทองคำ เพื่อนำไปประดิษฐานไว้ภายในพระเจดีย์คันธบุปผา ที่อยู่ในพระวิหารแก้วมรกต ของพระบรมมหาราชวัง กรุงพนมเปญ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สมเด็จพระนโรดม สีหนุ เสด็จสวรรคต เมื่อเวลา 02.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ( 03.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย ) ก่อนถึงวันครบรอบวันคล้ายวันพระราชสมภพ 90 พรรษา ในวันที่ 31 ต.ค.
ด้านนายนิก บันเจย รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชา แถลงว่า ถือเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของกัมพูชา พสกนิกรทุกคนรู้สึกตกตะลึง และเศร้าโศกอย่างมากทันทีที่ทราบข่าว แม้พระองค์จะทรงสละราชสมบัติ ก่อนเสด็จพระราชดำเนินไปประทับรักษาพระอาการประชวรอยู่ที่ประเทศจีน แต่ชาวกัมพูชาทุกคนยังมีความเคารพรักต่อพระองค์เสมอมา
ทั้งนี้ สมเด็จพระบรมนาถนโรดม สีหมุนี พระมหากษัตริย์องค์ปัจจุบัน ซึ่งทรงเป็นพระราชโอรสของสมเด็จพระนโรดม สีหนุ เสด็จฯพร้อมด้วยนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ไปยังกรุงปักกิ่ง ด้วยเที่ยวบินพิเศษแล้ว เพื่อทรงรับพระบรมศพของสมเด็จพระราชบิดากลับมาประกอบพระราชพิธี ณ กรุงพนมเปญ
สมเด็จพระนโรดม สีหนุ เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 31 ต.ค. 2465 ทรงเป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระนโรดม สุรามฤต และสมเด็จพระมหากษัตริยานีสีสุวัตถิ์ กุสุมะ นารีรัตน์ สิริวัฒนา เสด็จขึ้นครองราชสมบัติครั้งแรกเมื่อเดือนก.ย. 2484 หลังจากพระบาทสมเด็จพระสีสุวัตถิ์ มุนีวงศ์ ซึ่งเป็นพระอัยกา เสด็จสวรรคต ต่อมาทรงสละราชสมบัติเมื่อวันที่ 2 ก.ย. 2498 ให้แก่สมเด็จพระราชบิดา เพื่อทรงดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็น นายกรัฐมนตรีแห่งกัมพูชา
อย่างไรก็ตาม พระองค์ทรงขึ้นดำรงตำแหน่งประมุขของกัมพูชาควบคู่กับการเป็นนายกรัฐมนตรี หลังสมเด็จพระราชบิดาเสด็จสวรรคต เมื่อปี 2503 ทว่าทรงเป็นการเสด็จสู่พระราชสมบัติโดยปราศจากพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ส่งผลให้พระองค์ถูกนายพลลอน นอล ก่อการรัฐประหารเพื่อล้มอำนาจของพระองค์
หลังสิ้นสุดเหตุการณ์วุ่นวายทางการเมืองในประเทศ สมเด็จพระนโรดม สีหนุ ทรงได้รับการสถาปนาเป็นพระมหากษัตริย์อีกครั้ง เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 2536 ก่อนจะทรงสละราชสมบัติให้แก่สมเด็จพระบรมนาถนโรดม สีหมุนี พระราชโอรส เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2547 โดยทรงดำรงพระราชอิสริยยศ "พระกรุณา พระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ พระมหาวีรกษัตริย์ พระวรราชบิดา เอกราช บูรณภาพดินแดน และความเป็นเอกภาพแห่งชาติเขมร"
เมื่อราว 3 ปีก่อน สมเด็จพระนโรดม สีหนุ ทรงมีพระราชสาส์นดำรัสว่า พระองค์ทรงปรารถนาที่จะสวรรคตในอนาคตอันใกล้นี้ โดยทรงมีพระประสงค์ให้ทางการกัมพูชาจัดพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพของ พระองค์ ตามขนบะรรมเนียมประเพณีของกัมพูชา ก่อนนำพระอัฐิของพระองค์ไปบรรจุไว้ในพระโกฏิทองคำ เพื่อนำไปประดิษฐานไว้ภายในพระเจดีย์คันธบุปผา ที่อยู่ในพระวิหารแก้วมรกต ของพระบรมมหาราชวัง กรุงพนมเปญ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น