ความคืบหน้าเมื่อเวลา 19.00 น. วันนี้ ( 26 ต.ค.) พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร.ในฐานะเลขาฯ ป.ป.ส. พล.ต.ต.กฤษฏ์ เปียแก้ว ผบก.น.5 พ.ต.อ.ไตรเมต อู่ไทย รอง ผบก.น.5 พร้อมด้วยข้าราชการตำรวจระดับผู้บังคับบัญชาของ สน.พระโขนง เดินทางมาร่วมฟังสวดพระอภิธรรมศพของ นายดวงเด่น โพธิ์ทอง ที่ศาลาโชติบรรยง วัดมหาบุศย์ โดยเมื่อมาถึงที่วัดนายสุรินทร์ กับนางสมใจ พ่อแม่ของนายดวงเด่น ได้นำพวงมาลัยมามอบให้ พล.ต.อ.พงศพัศ พร้อมกล่าวขอบคุณที่ช่วยเหลือเรื่องคดีความของลูกชาย ซึ่งทาง พล.ต.อ.พงศพัศ พร้อมด้วย พล.ต.ต.กฤษฏิ์ ก็ได้มอบเงินช่วยเหลืองานศพจำนวนหนึ่งให้กับนางสมใจไว้ด้วย
พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า หลังจากสวดพระอภิธรรมศพนายดวงเด่นในคืนนี้เป็นคืนสุดท้ายแล้วนั้น ในวันพรุ่งนี้ (27 ต.ค.) พ่อแม่ของนายดวงเด่นจะนำศพของลูกชายไปฝากไว้ที่สถาบันนิติเวช เนื่องจากอาจจะมีการเปลี่ยนพนักงานสอบสวนใหม่ ซึ่งอาจจะต้องการหลักฐานบางอย่างเพิ่มเติม จึงต้องการนำศพไปฝากไว้ก่อนเพื่อความสบายใจ ทั้งนี้ที่ผ่านมา ยืนยันว่าตำรวจทำงานเต็มที่ ตรงไปตรงมา แต่อาจจะขาดความใส่ใจลงไปดูแลหรือประสานให้ทางพ่อแม่ของผู้ตายทราบ จนทำให้ติดใจคิดว่าไม่มีตำรวจใส่ใจ ซึ่งตนก็เข้าใจความรู้สึกของพ่อแม่ที่สูญเสียลูกชายที่เป็นกำลังหลักของครอบครัวไป อย่างไรก็ตาม หลังจากเปลี่ยนพนักงานสอบสวนจากระดับโรงพักเป็นระดับกองบัญชาการแล้วก็น่าจะดีขึ้น
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับผู้ต้องหาที่ก่อเหตุรุมทำร้ายนายดวงเด่นจนเสียชีวิตนั้น มีด้วยกัน 3 คน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง สามารถจับกุมไปได้แล้ว 2 คน ตั้งแต่วันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา คือนายวิเชษ สุขแจ่ม อายุ 33 ปี และนายอรรถพล หรือเหมียว หนุนงาม อายุ 31 ปี ซึ่งทั้งสองคนให้การรับสารภาพ เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเสียชีวิต และถูกนำตัวส่งฝากขังศาลจังหวัดพระโขนงไปแล้ว ส่วนผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอยู่อีก 1 คนและเป็นคนลงมือปาดคอนายดวงเด่นจนเสียชีวิตนั้น คือนายดนัย หรือเดียร์ ทองดี อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19/504 หมู่ที่ 6 ต.บางเมืองใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดพระโขนงอยู่ ขณะเดียวกันทางพนักงานสอบสวนกำลังประสานขอความเห็นจากแพทย์ในเรื่องของบาดแผลที่คอของนายดวงเด่นอีกครั้งว่าเกิดจากของมีคมหรืออาวุธชนิดใด เพื่อพิจารณาเสนอผู้บังคับบัญชาแจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นเพิ่มเติมต่อไป.
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น