หนูน้อยชาวกระเหรี่ยงวัย 12 ปี ถูกผัวเมียอำมหิตพรากจากอกพ่อแม่ ลักพาตัวบังคับให้เป็นทาสรับใช้ในบ้านนานกว่า 5 ปี เผยพฤติกรรมสุดโหดทารุณกรรมเหยื่อต่าง ๆ นานา ตำรวจเข้าจับกุมแจ้ง 5 ข้อหาหนัก แต่ยังปากแข็งปฏิเสธ ก่อนได้ประกันตัวในชั้นศาล
วันนี้ (11 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดกำแพงเพชร ถนนเทศา 2 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.กำแพงเพชร หลังได้รับแจ้งว่าทางบ้านพักฯ ได้รับตัว ด.ญ.แอ (นามสมมุติ) อายุ 12 ปี ชาวกระเหรี่ยง ที่ถูกสามีภรรยาชาวไทยคู่หนึ่ง ลักพาตัวมาบังคับให้เป็นคนรับใช้ กักขังหน่วงเหนี่ยวไว้ในบ้านพักใน อ.เมือง จ.กำแพงเพชร นานกว่า 5 ปี โดยหากเหยื่อสาวรายนี้ขัดคำสั่งก็จะถูกสามีภรรยาใช้วิธีทารุณกรรมต่าง ๆ อาทิ จับขังในกรงสุนัข ใช้น้ำร้อนราดตัวจนเป็นแผลเป็นทั่วร่างกาย
เมื่อไปถึงพบนายธนวัฒน์ สถิตย์ หัวหน้าบ้านพักฯ กำลังนั่งสอบถามเรื่องราวจาก ด.ญ.แอ ที่อยู่ในสภาพเป็นแผลเป็นจากการถูกน้ำร้อนลวกทั่วร่างกาย ที่บริเวณหน้าอก หน้าท้อง ต้นขา หัวเข่า และส้นเท้าทั้ง 2 ข้าง มีแต่รอยแผลเป็นที่เป็นก้อนเนื้อนูนขึ้นมาแทนที่ผิวหนังเดิม อีกทั้งแขนทั้ง 2 ข้าง ถูกน้ำร้อนลวกจนเนื้อเชื่อมติดกับลำตัว จนไม่สามารถยกแขนหรือขยับได้ เป็นที่น่าเวทนาและสลดหดหู่ใจของผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก
จากการสอบถามด.ญ.แอ ให้รายละเอียดว่า พ่อแม่ตนเป็นคนงานชาวกระเหรี่ยงทำงานอยู่ในไร่อ้อยแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.กำแพงเพชร เมื่อช่วงปี 51 ขณะนั้นตนอายุ 7 ขวบ มีสามีภรรยาคู่หนึ่งที่เป็นเจ้าของไร่ที่อยู่ติดกับไร่ที่พ่อแม่ตนทำงานอยู่ ได้เดินเข้ามากวักมือเรียกตนให้เข้าไปหา ด้วยความที่เป็นเด็กยังไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร จึงเดินตามไป และถูกสามีภรรยาคู่นั้นพาตัวมาที่บ้านพัก ก่อนบังคับให้ทำงานบ้านมาจนถึงขณะนี้เป็นเวลานานกว่า 5 ปีแล้ว ส่วนบาดแผลเกิดจากถูกน้ำร้อนราดตัว และถูกจับขังในกรงสุนัขจนถึงเช้า ก่อนที่เจ้าของบ้านจะใช้น้ำเกลือมาล้างแผลและหายามาทาให้โดยไม่ได้พาตนส่งโรงพยาบาล
“ตลอดเวลา 5 ปี ที่ผ่านมา หนูถูกเจ้าของบ้านทรมานต่าง ๆ นานา ใช้งานบ้านทุกอย่าง และหากเขาไม่พอใจก็จะเฆี่ยนตีไปทั้งตัวจนได้รับบาดเจ็บ บางครั้งก็จะลงไม้ลงมือทั้งตบหน้า ทุบตี ถ้าหนูร้องไห้ก็จะโดนหนักขึ้นจนไม่กล้าร้องตะโกนให้ใครช่วย 5 ปีมานี้หนูเหมือนตกนรกทั้งเป็น มีอยู่ครั้งหนึ่งเมื่อ 3 ปีก่อน หนูเคยหนีออกมาจากบ้าน มีคนพาหนูส่งตำรวจ แต่ตำรวจก็พาหนูส่งกลับมาให้เจ้าของบ้านอีกครั้ง ทำให้พวกเขาโมโหมาก เขาจับหัวหนูโขกกับผนังบ้าน ใช้รองเท้าตบหน้า และยังใช้กรรไกรตัดติ่งหู เพื่อเป็นการทำโทษ” เด็กสาวผู้น่าสงสาร ระบุ
เหยื่อสามีภรรยาโหด กล่าวต่อว่า ทุกวันจะได้ทานข้าววันละ 2 มื้อ และไม่เคยได้ออกไปไหน จนกระทั่งวันที่ 31 ม.ค. ที่ผ่านมา แมวที่เจ้าของบ้านเลี้ยงไว้หลุดออกมาจากบ้าน ด้วยความกลัวว่าจะถูกเจ้าของบ้านทำโทษอีก จึงปีนรั้วออกมาเพื่อตามจับแมว แต่ระหว่างนั้นฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าเป็นโอกาสดีที่จะหนีอีกครั้ง จึงไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านช่วยพาตัวไปส่งที่บ้านพักเด็กฯ ดังกล่าว
ด้านนายธนวัฒน์ สถิตย์ หัวหน้าบ้านพักฯ กล่าวว่า ขณะนี้เด็กยังอยู่ในความดูแลอย่างปลอดภัย มีอาหาร ที่นอน เสื้อผ้า และมีเจ้าหน้าที่เข้าเวรยามดูแลความปลอดภัยอย่างเต็มที่ อีกทั้งให้นักจิตวิทยาช่วยดูแลฟื้นฟูสภาพจิตใจ โดยหลังจากที่ได้รับตัวเด็กเข้ามายังบ้านพักฯ ในวันที่ 31 ม.ค. แล้ว ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ต.สุวิชา เตชะวรรณวุฒิ พนักงานสอบสวน สภ.เมือง จ.กำแพงเพชร ในวันที่ 2 ก.พ. ให้ดำเนินคดีกับสองสามีภรรยา
จนกระทั่งต่อมาในวันที่ 6 ก.พ. ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับสองสามีภรรยาเจ้าของบ้าน ในข้อหา ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส โดยการทรมานหรือการกระทำทารุณโหดร้าย ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้หน่วงเหนี่ยวกักขังได้รับอันตรายสาหัส ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น และให้ผู้อื่นนั้นกระทำการใดให้แก่ผู้กระทำหรือบุคคลอื่น ร่วมกันเอาคนลงเป็นทาสหรือมีฐานะคล้ายทาส ร่วมกันพามาจากที่ใดหรือหน่วงเหนี่ยวกักขังบุคคลหนึ่งบุคคลใด ถ้าการกระทำนั้นเป็นการกระทำต่อเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี จนเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำได้รับอันตรายสาหัส, ร่วมกันพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี และร่วมกันค้ามนุษย์ รวม 5 ข้อหา และเข้าจับกุมในวันที่ 7 ก.พ. โดยผู้ต้องหาทั้งสองคนได้ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น ซึ่งทั้งคู่ได้ทำเรื่องประกันตัวในชั้นศาลขอประกันตัวออกไป
วันเดียวกัน พ.ต.อ.อัครสรศ์ ศรีสุพัฒน์ ผกก.สภ.เมือง จ.กำแพงเพชร กล่าวว่า คดีนี้เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดกำแพงเพชร ได้พาด.ญ.แอเข้าร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับนายนที แตงอ่อน อายุ 35 ปี อาชีพวิศวกรโรงงานแห่งหนึ่งใน จ.กำแพงเพชร และน.ส.รัตนากร ปิยะวรธรรม อายุ 33 ปี เจ้าของร้านตัดแต่งขนสุนัข ในเขต อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ส่วนเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ไร่เลขที่ 193 หมู่ 8 ต.มหาชัย อ.ไทรงาม จ.กำแพงเพชร ต่อเนื่องไปถึงที่บ้านเลขที่ 7/7 ซอย 25 ถนนราชดำเนิน 1 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.กำแพงเพชร เมื่อวันที่ 20 พ.ค. 51 ถึงวันที่ 31 ม.ค.56 ในเวลาต่อเนื่องกัน
ทั้งนี้ในคดีนี้ตำรวจไม่ได้มีการปกปิดแต่อย่างใด แต่เนื่องจากผู้เสียหายเป็นเยาวชนและเป็นผู้มีสัญชาติต่างด้าว ซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อนทั้งในด้านการคุ้มครองเด็กและความมั่นคง จึงจำเป็นต้องมีการรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจน โดยหากผู้ต้องหามีความผิดตามที่เด็กกล่าวอ้างจริง จะมีโทษสูงสุดคือจำคุกตลอดชีวิต
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบที่บ้านพักที่เกิดเหตุพบว่าถูกปิดเงียบ และมีรายงานว่าสามีภรรยาคู่นี้ได้เดินทางออกไปอยู่ที่อื่นแล้ว.