เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 22 ก.พ. ที่กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว พล.ต.ต.รอย อิงคไพโรจน์ ผบก.ทท. พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท. พ.ต.ท.เกื้อกมล ดวงประทีป รอง ผกก.3 บก.ทท. พ.ต.ต.บวรภพ สุนทรเลขา สว.ส.ทท.2 กก.1 บก.ทท. ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายอารี เวคโค จูฮานี ฮาวลิโคเน่น อายุ 52 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของประเทศสวีเดน
พล.ต.ต.รอยเปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวกับตำรวจของสวีเดนได้ร่วมกันสืบสวนจนทราบว่าเมื่อปี 53 ที่ผ่านมา นายอารีได้ทำการเปิดบริษัทนายหน้าจัดหาแรงงานไทยเพื่อไปทำงานต่างประเทศ ซึ่งต่อมาเจ้าตัวได้ส่งแรงงานไทยจำนวน 168 คน ไปทำงานด้านการเกษตรยังประเทศสวีเดนเพื่อทำงานด้านเกษตร ซึ่งแรงงานชุดดังกล่าวได้ทำการกู้เงินจากธนาคาร และเงินนอกระบบรวมทั้งหมด 13 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทาง แต่เมื่อแรงงานชุดนี้เดินทางไปทำงานที่ประเทศสวีเดนแล้วปรากฏว่านายอารียังฉ้อโกงเงินค่าจ้างไปอีก คิดเป็นเงินไทยจำนวน 24.8 ล้านบาท ทำให้แรงงานทั้งหมดไม่ได้รับเงินค่าจ้างและถูกปล่อยลอยแพ ทั้งหมดจึงเข้าร้องเรียนขอความช่วยเหลือกับทางการสวีเดน ก่อนจะได้รับการส่งตัวกลับประเทศไทยในเวลาต่อมา
พล.ต.ต.รอย กล่าวต่อว่า หลังเกิดเหตุนายอารีได้นำเงินทั้งหมดที่ได้จากการหลอกลวงแรงงานหลบหนีมากบดานที่ประเทศไทยตั้งแต่ปี 54 โดยจะเปลี่ยนที่กบดานอยู่เสมอทำให้ยากต่อการจับกุม ต่อมารัฐบาลสวีเดนจึงทำการออกหมายจับและยกเลิกหนังสือเดินทางของนายอารีไว้ ก่อนประสานมายังประเทศไทยเพื่อให้ติดตามจับกุมตัว จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีผ่านทางระบบ Touriat Buddy Applications ว่าพบนายอารีหลบช่อนตัวอยู่ใน จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่จึงได้ขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดชลบุรี ก่อนเข้าจับกุมนายอารีขณะกบดานอยู่ภายในบ้านเลขที่ 127/759 หมู่ที่ 3 ต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี ก่อนควบคุมตัวมาสอบปากคำ
พล.ต.ต.รอย กล่าวด้วยว่า จากการสอบสวนนายอารี ให้การรับสารภาพโดยอ้างว่าเพิ่งเปิดบริษัทหลอกลวงแรงงานไทยชุดดังกล่าวเพียงชุดเดียว เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้หากมีแรงงานไทยคนใดเคยถูกนายอารี หลอกลวงในลักษณะนี้ก็สามารถเข้ามาแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมได้
พล.ต.ต.รอยเปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวกับตำรวจของสวีเดนได้ร่วมกันสืบสวนจนทราบว่าเมื่อปี 53 ที่ผ่านมา นายอารีได้ทำการเปิดบริษัทนายหน้าจัดหาแรงงานไทยเพื่อไปทำงานต่างประเทศ ซึ่งต่อมาเจ้าตัวได้ส่งแรงงานไทยจำนวน 168 คน ไปทำงานด้านการเกษตรยังประเทศสวีเดนเพื่อทำงานด้านเกษตร ซึ่งแรงงานชุดดังกล่าวได้ทำการกู้เงินจากธนาคาร และเงินนอกระบบรวมทั้งหมด 13 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทาง แต่เมื่อแรงงานชุดนี้เดินทางไปทำงานที่ประเทศสวีเดนแล้วปรากฏว่านายอารียังฉ้อโกงเงินค่าจ้างไปอีก คิดเป็นเงินไทยจำนวน 24.8 ล้านบาท ทำให้แรงงานทั้งหมดไม่ได้รับเงินค่าจ้างและถูกปล่อยลอยแพ ทั้งหมดจึงเข้าร้องเรียนขอความช่วยเหลือกับทางการสวีเดน ก่อนจะได้รับการส่งตัวกลับประเทศไทยในเวลาต่อมา
พล.ต.ต.รอย กล่าวต่อว่า หลังเกิดเหตุนายอารีได้นำเงินทั้งหมดที่ได้จากการหลอกลวงแรงงานหลบหนีมากบดานที่ประเทศไทยตั้งแต่ปี 54 โดยจะเปลี่ยนที่กบดานอยู่เสมอทำให้ยากต่อการจับกุม ต่อมารัฐบาลสวีเดนจึงทำการออกหมายจับและยกเลิกหนังสือเดินทางของนายอารีไว้ ก่อนประสานมายังประเทศไทยเพื่อให้ติดตามจับกุมตัว จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีผ่านทางระบบ Touriat Buddy Applications ว่าพบนายอารีหลบช่อนตัวอยู่ใน จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่จึงได้ขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดชลบุรี ก่อนเข้าจับกุมนายอารีขณะกบดานอยู่ภายในบ้านเลขที่ 127/759 หมู่ที่ 3 ต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี ก่อนควบคุมตัวมาสอบปากคำ
พล.ต.ต.รอย กล่าวด้วยว่า จากการสอบสวนนายอารี ให้การรับสารภาพโดยอ้างว่าเพิ่งเปิดบริษัทหลอกลวงแรงงานไทยชุดดังกล่าวเพียงชุดเดียว เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้หากมีแรงงานไทยคนใดเคยถูกนายอารี หลอกลวงในลักษณะนี้ก็สามารถเข้ามาแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมได้
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น