วันเสาร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2556
โจรใจบาปบุกงัดกุฎิพระนักเทศน์ดัง
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 24 พ.ค. พ.ต.ท.อุบล กันทะเขียว สารวัตรเวร สภ.อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก รับแจ้งจากชาวบ้านตำบลวังอิทก ว่ามีคนร้ายบุกงัดกุฎิพระภายในวัดหนองเต่าดำ ต.วังอิทก อ.บางระกำ โดยคนร้ายได้ทรัพย์สินเงินสดพร้อมพระเครื่องไปเป็นจำนวนมาก ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเดินทางไปทำการตรวจสอบพร้อมกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ กลุ่มงานตรวจสถานที่เกิดเหตุ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 6 จ.พิษณุโลก ซึ่งภายในวัดซึ่งกำลังมีการจัดงานทำบุญเนื่องในวันวิสาขบูชา จึงมีชาวบ้านเป็นจำนวนมากมายืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมกับ พระอธิการมานพ รักขิตะวังโส ( พระอาจารย์นพ พระนักเทศแหล่ชื่อดัง ) และนำพาเจ้าหน้าที่ไปชี้จุดเกิดเหตุซึ่งเป็นกุฏิของเจ้าอาวาสที่คนร้ายงัดบุกงัดหน้าต่าง โดยมีรอยเท้าคนร้ายปีนเข้าทางบริเวณหน้าต่างซึ่งมีรอยเปลื้อนคราบดินโคน ติดอยู่ที่ฝาผนังเป็นทางยาว
โดยจุดเกิดเหตุเป็นกุฏิแฝดติดกัน 2 หลัง โดยหลังแรกที่คนร้ายบุกงัดหน้าต่างปีนเข้ามาเป็นกุฏิของ พระสุทัด ปะสันโน อายุ 62 ปี เป็นพระลูกวัดหนองเต่าดำ ตรวจสอบภายในห้อง ข้าวของถูกรื้อค้นกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ และพบว่ามีเงินสดที่เก็บไว้ในย่าม หายไปจำนวน 5,400 บาท หลังจากนั้นกุฏิที่อยู่ติดกันซึ่งเป็นกุฏิของ พระอธิการมานพ รักขิตะวังโส อายุ 50 ปี เจ้าอาวาสวัดหนองเต่าดำ และยังเป็นพระนักเทศนักแหล่ชื่อดังของจังหวัดพิษณุโลก ที่บริเวณประตูหน้ากุฏิ พบมีดปลายแหลมตกอยู่จำนวน 1 เล่ม และตรวจพบว่าที่ประตูมีร่องรอยถูกงัดจนประตูเปิดอ้าออก ข้าวของภายในห้องถูกรื้อค้นกระจัดกระจาย ไปทั่ว
ตรวจสอบภายในห้องพบว่าเงินสดจำนวน 5 หมื่นบาท ที่เก็บไว้ภายในย่ามห้อยไว้ที่บริเวณหัวเตียงนอน หายไป และยังพบว่า พระเครื่องที่ทางพระอธิการมานพ เก็บสะสมไว้ได้หายไปทั้งหมด ซึ่งประกอบด้วย พระผงพรายกุมารหลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ จ.ระยอง สูญหายไปกว่า 10 องค์ หลวงพ่อเงินวัดบางคลาน รุ่นต่างๆ ที่เก็บสะสมไว้ ก็สูญหายไปทั้งหมด โดยตีเป็นมูลค่าทั้งหมด น่าจะกว่า 5 แสน บาท
จากการสอบสวนพระอธิการมานพ ให้การว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาทางวัดได้จัดงานทำบุญเนื่องในวันวิสาขบูชา ตั้งแต่ ช่วง 06.00 น. โดยพระทุกรูปต่างก็ขึ้นไปประกอบกิจบนศาลาการเปรียญ สวดมนต์ จนกระทั่งช่วงเวลา 08.30 น. อาตมาก็ได้ลงจากศาลาเพื่อกลับมาที่กุฏิ ก็พบว่ากุฏิถูกงัดเปิดอ้าอยู่ จึงได้ไปตามชาวบ้านมาช่วยกันดู โดยพบว่าสิ่งของภายในห้องหายไปจำนวนมาก จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ โดยมีชาวบ้านพบเห็นรถยนต์ปิกอัพรุ่นเก่าตอนเดียวไม่ทราบยี่ห้อ สีดำขับเข้ามาจอดและเลี้ยวกลับรถที่บริเวณหน้ากุฏิช่วงเวลา 07.00 น. ซึ่งต่างก็ไม่ได้เอะใจสงสัย เพราะคิดว่าเป็นรถที่ขับมาทำบุญ ประกอบกับเสียงเครื่องไฟนั้นดังมาก จนกระทั่งมาพบว่ากุฏิพระถูกงัดจึงเชื่อว่าน่าจะเป็นรถของคนร้ายที่ขับมาโจรกรรมทรัพย์สินในครั้งนี้ไป โดยชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างเดินทางมายืนมุงดูเหตุการณ์ พร้อมกับรุมประณามการกระทำของโจรใจบาปที่ลงมืออุกอาจในช่วงที่พระกำลังสวดมนต์ในวันวิสาขบูชาอยู่บนศาลากาเปรียญ ท่ามกลางญาติโยมที่มาทำบุญกันอย่างหนาแน่น โดยมีชาวบ้านต่างกล่าวสาบแช่งคนร้ายรายนี้ให้ตกนรก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เชิญตัวพระอธิการมานพ พร้อมกับชาวบ้านที่พบเห็นรถคันดังกล่าวไปทำการสอบสวนเพื่อติดตามคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป...
แก็งเงินกู้เหิมยิงปืนขู่ปากระจกบ้านลูกหนี้
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ภูเพียง จ.น่าน เข้าตรวจสอบที่บ้านของนายสินชัย คุณนำผล อายุ 56 ปี หลังเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมามีคนร้ายประมาณ 3 คน ใช้รถยนต์ไม่ทราบยี่ห้อ สีดำเป็นพาหนะขว้างก้อนหิน และกระถางต้นไม้ใส่บ้านของตน เลขที่ 94 หมู่ 2 บ้านแสงดาว ต.ฝายแก้ว อ.ภูเพียง จ.น่าน จนได้รับความเสียหาย และยิงปืนขู่ หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ภูเพียง เดินทางไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ
ซึ่งที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูน 2 ชั้น ติดถนนไม่มีรั้ว หน้าบ้านพบกระถางต้นไม้ 3 ใบแตกกระจายเกลื่อน และกระจกถูกทุบแตกเป็นกระจายกระเด็นเข้าไปในตัวบ้าน ตรวจสอบไม่พบมีผู้ได้รับบาดเจ็บ
นายสินชัย คุณนำผล เจ้าของบ้านที่เสียหาย เล่าว่า ขณะนอนอยู่ในบ้านได้ยินเสียงรถยนต์มาจอดที่หน้าบ้าน โดยมีชาย 3 คนลงมาจากรถแล้วเข้าทุบกระถางต้นไม้ และกระจกบ้านแตกเสียหาย พร้อมกับตะโกนเรียกหาคนชื่อต้อม ก่อนยิงปืนขึ้นฟ้า 2 นัด ซึ่งตนอยู่กับลูกเมียในบ้านบนชั้น 2 ไม่กล้าออกไป ได้แต่ตะโกนตอบกลับไปว่าบ้านหลังนี้ไม่มีคนชื่อต้อม มาผิดหลังแล้ว แต่ชายดังกล่าวไม่ฟัง ยิงปืนขึ้นฟ้าขู่อีก 2 นัด พร้อมตะโกนให้นำเงินไปใช้คืน และบอกว่าตนเองชื่ออ๋า บ้านสวนตาล ไปเรียกตำรวจมาจับได้เลย ไม่กลัว ก่อนยิงปืนขึ้นฟ้าอีก 1 นัด แล้วพากันขึ้นรถขับออกไป ตนและคนในครอบครัวกลัวมาก ไม่เคยไปกู้หนี้ยืมสินใคร ซึ่งคาดว่าน่าจะมาทวงผิดหลัง เพราะถัดบ้านตนเองไป 3 หลัง มีคนชื่อเหมือนกับที่แก็งเงินกู้มาเรียกหา และชาวบ้านระแวกนี้ก็เคยเห็นว่ามีคนมาทวงหนี้ ซึ่งได้ยินว่ามีการขู่อาฆาตกันไว้ คาดว่าสาเหตุ อาจจะมาจากเรื่องนี้
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ.ภูเพียง โดย พ.ต.ท..สุวัฒน์ จินดาวรรณ รองผกก.ฝ่ายสืบสวน สภ.ภูเพียง เปิดเผยว่า ขณะนี้ทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้ว ซึ่งได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวมาสอบสวนถึงที่มาของการก่อเหตุครั้งนี้ และดำเนินคดีตามกฎหมาย
สาวเต้นเปลือยสำนึกปล่อยคลิปขอโทษจริง ๆ
วันนี้ (26 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีคลิปของ 2 สาวสวยเปลือยกายเต้นเพลง "รักต้องเปิด (แน่นอก)" ของนักร้องค่ายดัง ชื่อดัง ซึ่งถูกแพร่เผยอย่างกว้างขวาง จนถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมกันอย่างเผ็ดร้อน ว่า ล่าสุด ได้มีคลิปของทั้งคู่ปรากฎผ่านโลกออนไลน์ชื่อ "ขอโทษจริง ๆ" ความยาว 1.47 นาที เป็นภาพ 2 สาวอยู่ในชุดลำลองกล่าวขอโทษพร้อมยกมือไหว้ ยอมรับว่าทำไปเพราะความเมาจนขาดสติ พร้อมฝากขอโทษสาวประเภทสองทุกคนด้วย
ขณะที่หญิงสาวอีกคนที่ระบุบว่าตัวเองชื่อ "ไอซ์" กล่าวขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น สิ่งที่ทำลงไปเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ พร้อมวอนขอให้หยุดแชร์คลิปดังกล่าวด้วย เนื่องจากจุดประสงค์ที่ถ่ายไว้ เพียงเพราะนึกสนุกเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาจะเผยแพร่หรืออยากดังแต่อย่างใดเลย.
โปลิศสองพี่น้อง จับวัยโจ๋พกปืนปากกา
วันนี้ (24 พ.ค.) พ.ต.ท.สุภาพ วัยนิพิฐพงษ์ รอง ผกก.ป.สภ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้พร้อมด้วย พ.ต.ท.สุกฤษฏิ์ วิศิษฐ์ชนะชัย สวป. ร.ต.ท.สัญญา วิจิตธำรงศักดิ์ รอง สวป. ด.ต.สมเจต แสงเพ็ญอ่อน สายตรวจรถจักรยานยนต์ นำหมายค้นศาลจังหวัดสุพรรณบุรี ที่ 666/2556 เข้าตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 67/1 ถนนโพธิ์อ้น-หวายสอ เขตเทศบาลเมืองสองพี่น้อง อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี บ้านเป้าหมายยาเสพติด และอาวุธสงคราม ร่วมกันจับกุมตัว นายเอกชัย ดวงเนตรงาม หรือเอก อายุ 20 ปี หลังตรวจพบอาวุธปืนปากกา ขนาด .38 แบบไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก ซุกซ่อนอยู่ใต้โต๊ะเครื่องแป้ง สอบสวนให้การว่า เป็นของเพื่อนชื่อ นายแบงค์ ได้นำมาฝากไว้ จึงแจ้งข้อหามีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต นำตัวพร้อมของกลางส่ง ร.ต.ท.สมบัติ สำเรียนรัมย์ พนักงานสอบสวน สภ.สองพี่น้อง ดำเนินคดีต่อไป