ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ
www.becomz.com

  • ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ รามคำแหง

    ซ่อมคอมถึงบ้าน,ซ่อมคอมพิวเตอร์ถึงบ้าน,ซ่อมคอมนอกสถานที่,ซ่อมคอมพิวเตอร์ นอกสถานที่,วางระบบอินเตอร์เน็ต,วางระบบแลน,ระบบเน็คเวิร์ค,เขียนโปรแกรมเว็บไซด์,ดูแลคอมพิวเตอร์แบบรายเดือน-รายปี,พร้อมบริการด้านไอทีจ่าย. สนใจติดต่อ 095-954-4524

  • หากคุณกำลังมองหาสถานที่ รับซ่อมคอมถึงที่

    ราคือหน่วยรับซ่อมคอมพิวเตอร์ถึงที่ ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน ที่ทำงาน บริษัท ห้าง ร้าน สถานสงเคราะห์ โรงเรียน โรงพยาบาล ฯลฯ เราจะไปบริการซ่อมให้ในราคาสุดประหยัด ถูกกว่ายกไปซ่อมที่ห้างหรือร้านซ่อมแน่นอน เนื่องจากทางร้านของเราไม่ต้องเสียค่าเช่าพื้นที่ จึงสามารถลดต้นทุนในส่วนนี้ได้. สนใจติดต่อ 095-954-4524

  • www.becomz.com ให้บริการถึงที่

    บริการซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ โดยไม่ต้องยก เครื่องคอมให้เหนื่อย หรือ เสียเวลา การทำงานของคุณ เรา คือ ทางออกสำหรับคุณ ที่จะไป บริการถึงบ้าน ที่บ้าน หรือ อ๊อฟฟิต ( office ) และ คอนโด อาพาทเม้น ทุกสถานที่ พร้อม ทั้ง ให้ บริการซ่อมคอมพิวเตอร์ 24 ชั่วโมง สำหรับ ลูกค้าบางท่านที่สะดวก. สนใจติดต่อ 095-954-4524

  • ค่าบริการ

    – ซ่อมโปรแกรม แก้ปัญหาด้านโปรแกรมทั่วไป เครื่องละ 500 บาท – เเละลง Driver 300 บาท รวมกับ ซ่อมปกติเป็น 700 บาท – อะไหล่เสีย จะแจ้งราคาอะไหล่ก่อนซ่อม (ลูกค้าสามารถจัดหาอะไหล่เองได้) เพื่อความมั่นใจ ซ่อมเสร็จเรารับประกันซอฟเเวร์ 7วัน พร้อมให้คำแนะนำ และบริการหลังซ่อม ตลอดการรับประกันน ติดตั้งให้ถึงที่ .สนใจติดต่อ 095-954-4524

  • รับซ่อมทุกปัญหา โทรมาคุยกันก่อนได้ครับ

    – บริการอัพเกรดเครื่อง แก้ปัญหาเครื่องช้า รวนบ่อย ค้างบ่อย – บริการติดตั้ง แก้ปัญหา ระบบคอมพิวเตอร์ ระบบแลน-อินเตอร์เน็ต – บริการลงวินโดว์, ลงโปรแกรม, แก้ไวรัส, แก้ปัญหาต่างๆ – บริการฝากซ่อม-เคลม อะไหล่คอมฯ และสินค้าไอที ทุกชนิด – บริการจัดสเป๊คเครื่อง จัดชุดคอมมือ1-2 พร้อมใช้งาน ติดตั้งให้ถึงที่ .สนใจติดต่อ 095-954-4524

วันเสาร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

โจรใจบาปบุกงัดกุฎิพระนักเทศน์ดัง


เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 24 พ.ค.  พ.ต.ท.อุบล กันทะเขียว สารวัตรเวร สภ.อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก รับแจ้งจากชาวบ้านตำบลวังอิทก ว่ามีคนร้ายบุกงัดกุฎิพระภายในวัดหนองเต่าดำ ต.วังอิทก อ.บางระกำ โดยคนร้ายได้ทรัพย์สินเงินสดพร้อมพระเครื่องไปเป็นจำนวนมาก ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเดินทางไปทำการตรวจสอบพร้อมกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ กลุ่มงานตรวจสถานที่เกิดเหตุ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 6 จ.พิษณุโลก ซึ่งภายในวัดซึ่งกำลังมีการจัดงานทำบุญเนื่องในวันวิสาขบูชา จึงมีชาวบ้านเป็นจำนวนมากมายืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมกับ พระอธิการมานพ รักขิตะวังโส ( พระอาจารย์นพ พระนักเทศแหล่ชื่อดัง ) และนำพาเจ้าหน้าที่ไปชี้จุดเกิดเหตุซึ่งเป็นกุฏิของเจ้าอาวาสที่คนร้ายงัดบุกงัดหน้าต่าง โดยมีรอยเท้าคนร้ายปีนเข้าทางบริเวณหน้าต่างซึ่งมีรอยเปลื้อนคราบดินโคน ติดอยู่ที่ฝาผนังเป็นทางยาว
โดยจุดเกิดเหตุเป็นกุฏิแฝดติดกัน 2 หลัง โดยหลังแรกที่คนร้ายบุกงัดหน้าต่างปีนเข้ามาเป็นกุฏิของ พระสุทัด ปะสันโน อายุ 62 ปี เป็นพระลูกวัดหนองเต่าดำ ตรวจสอบภายในห้อง ข้าวของถูกรื้อค้นกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ และพบว่ามีเงินสดที่เก็บไว้ในย่าม หายไปจำนวน 5,400 บาท หลังจากนั้นกุฏิที่อยู่ติดกันซึ่งเป็นกุฏิของ พระอธิการมานพ รักขิตะวังโส อายุ 50 ปี เจ้าอาวาสวัดหนองเต่าดำ และยังเป็นพระนักเทศนักแหล่ชื่อดังของจังหวัดพิษณุโลก ที่บริเวณประตูหน้ากุฏิ พบมีดปลายแหลมตกอยู่จำนวน 1 เล่ม และตรวจพบว่าที่ประตูมีร่องรอยถูกงัดจนประตูเปิดอ้าออก ข้าวของภายในห้องถูกรื้อค้นกระจัดกระจาย ไปทั่ว
ตรวจสอบภายในห้องพบว่าเงินสดจำนวน 5 หมื่นบาท ที่เก็บไว้ภายในย่ามห้อยไว้ที่บริเวณหัวเตียงนอน หายไป และยังพบว่า พระเครื่องที่ทางพระอธิการมานพ เก็บสะสมไว้ได้หายไปทั้งหมด ซึ่งประกอบด้วย พระผงพรายกุมารหลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ จ.ระยอง สูญหายไปกว่า 10 องค์ หลวงพ่อเงินวัดบางคลาน รุ่นต่างๆ ที่เก็บสะสมไว้ ก็สูญหายไปทั้งหมด โดยตีเป็นมูลค่าทั้งหมด น่าจะกว่า 5 แสน บาท
จากการสอบสวนพระอธิการมานพ ให้การว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาทางวัดได้จัดงานทำบุญเนื่องในวันวิสาขบูชา ตั้งแต่ ช่วง 06.00 น. โดยพระทุกรูปต่างก็ขึ้นไปประกอบกิจบนศาลาการเปรียญ สวดมนต์ จนกระทั่งช่วงเวลา 08.30 น. อาตมาก็ได้ลงจากศาลาเพื่อกลับมาที่กุฏิ ก็พบว่ากุฏิถูกงัดเปิดอ้าอยู่ จึงได้ไปตามชาวบ้านมาช่วยกันดู โดยพบว่าสิ่งของภายในห้องหายไปจำนวนมาก จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ โดยมีชาวบ้านพบเห็นรถยนต์ปิกอัพรุ่นเก่าตอนเดียวไม่ทราบยี่ห้อ สีดำขับเข้ามาจอดและเลี้ยวกลับรถที่บริเวณหน้ากุฏิช่วงเวลา 07.00 น. ซึ่งต่างก็ไม่ได้เอะใจสงสัย เพราะคิดว่าเป็นรถที่ขับมาทำบุญ ประกอบกับเสียงเครื่องไฟนั้นดังมาก จนกระทั่งมาพบว่ากุฏิพระถูกงัดจึงเชื่อว่าน่าจะเป็นรถของคนร้ายที่ขับมาโจรกรรมทรัพย์สินในครั้งนี้ไป โดยชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างเดินทางมายืนมุงดูเหตุการณ์ พร้อมกับรุมประณามการกระทำของโจรใจบาปที่ลงมืออุกอาจในช่วงที่พระกำลังสวดมนต์ในวันวิสาขบูชาอยู่บนศาลากาเปรียญ ท่ามกลางญาติโยมที่มาทำบุญกันอย่างหนาแน่น โดยมีชาวบ้านต่างกล่าวสาบแช่งคนร้ายรายนี้ให้ตกนรก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เชิญตัวพระอธิการมานพ พร้อมกับชาวบ้านที่พบเห็นรถคันดังกล่าวไปทำการสอบสวนเพื่อติดตามคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป...
Share:

แก็งเงินกู้เหิมยิงปืนขู่ปากระจกบ้านลูกหนี้


เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ภูเพียง จ.น่าน เข้าตรวจสอบที่บ้านของนายสินชัย  คุณนำผล อายุ 56 ปี   หลังเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมามีคนร้ายประมาณ 3 คน ใช้รถยนต์ไม่ทราบยี่ห้อ สีดำเป็นพาหนะขว้างก้อนหิน และกระถางต้นไม้ใส่บ้านของตน เลขที่ 94 หมู่ 2 บ้านแสงดาว ต.ฝายแก้ว อ.ภูเพียง จ.น่าน จนได้รับความเสียหาย และยิงปืนขู่   หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ภูเพียง เดินทางไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ
ซึ่งที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูน 2 ชั้น ติดถนนไม่มีรั้ว  หน้าบ้านพบกระถางต้นไม้ 3 ใบแตกกระจายเกลื่อน และกระจกถูกทุบแตกเป็นกระจายกระเด็นเข้าไปในตัวบ้าน  ตรวจสอบไม่พบมีผู้ได้รับบาดเจ็บ
นายสินชัย  คุณนำผล เจ้าของบ้านที่เสียหาย  เล่าว่า ขณะนอนอยู่ในบ้านได้ยินเสียงรถยนต์มาจอดที่หน้าบ้าน  โดยมีชาย 3 คนลงมาจากรถแล้วเข้าทุบกระถางต้นไม้ และกระจกบ้านแตกเสียหาย  พร้อมกับตะโกนเรียกหาคนชื่อต้อม ก่อนยิงปืนขึ้นฟ้า 2 นัด  ซึ่งตนอยู่กับลูกเมียในบ้านบนชั้น 2 ไม่กล้าออกไป ได้แต่ตะโกนตอบกลับไปว่าบ้านหลังนี้ไม่มีคนชื่อต้อม มาผิดหลังแล้ว แต่ชายดังกล่าวไม่ฟัง ยิงปืนขึ้นฟ้าขู่อีก 2 นัด พร้อมตะโกนให้นำเงินไปใช้คืน  และบอกว่าตนเองชื่ออ๋า บ้านสวนตาล ไปเรียกตำรวจมาจับได้เลย ไม่กลัว ก่อนยิงปืนขึ้นฟ้าอีก 1 นัด แล้วพากันขึ้นรถขับออกไป ตนและคนในครอบครัวกลัวมาก ไม่เคยไปกู้หนี้ยืมสินใคร  ซึ่งคาดว่าน่าจะมาทวงผิดหลัง เพราะถัดบ้านตนเองไป 3 หลัง มีคนชื่อเหมือนกับที่แก็งเงินกู้มาเรียกหา  และชาวบ้านระแวกนี้ก็เคยเห็นว่ามีคนมาทวงหนี้   ซึ่งได้ยินว่ามีการขู่อาฆาตกันไว้ คาดว่าสาเหตุ อาจจะมาจากเรื่องนี้
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ.ภูเพียง โดย พ.ต.ท..สุวัฒน์ จินดาวรรณ รองผกก.ฝ่ายสืบสวน สภ.ภูเพียง เปิดเผยว่า ขณะนี้ทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้ว    ซึ่งได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวมาสอบสวนถึงที่มาของการก่อเหตุครั้งนี้ และดำเนินคดีตามกฎหมาย
Share:

สาวเต้นเปลือยสำนึกปล่อยคลิปขอโทษจริง ๆ


วันนี้ (26 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีคลิปของ 2 สาวสวยเปลือยกายเต้นเพลง "รักต้องเปิด (แน่นอก)" ของนักร้องค่ายดัง ชื่อดัง ซึ่งถูกแพร่เผยอย่างกว้างขวาง จนถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมกันอย่างเผ็ดร้อน ว่า ล่าสุด ได้มีคลิปของทั้งคู่ปรากฎผ่านโลกออนไลน์ชื่อ "ขอโทษจริง ๆ" ความยาว 1.47 นาที เป็นภาพ 2 สาวอยู่ในชุดลำลองกล่าวขอโทษพร้อมยกมือไหว้ ยอมรับว่าทำไปเพราะความเมาจนขาดสติ พร้อมฝากขอโทษสาวประเภทสองทุกคนด้วย
ขณะที่หญิงสาวอีกคนที่ระบุบว่าตัวเองชื่อ "ไอซ์" กล่าวขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น สิ่งที่ทำลงไปเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ พร้อมวอนขอให้หยุดแชร์คลิปดังกล่าวด้วย เนื่องจากจุดประสงค์ที่ถ่ายไว้ เพียงเพราะนึกสนุกเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาจะเผยแพร่หรืออยากดังแต่อย่างใดเลย.
Share:

โปลิศสองพี่น้อง จับวัยโจ๋พกปืนปากกา


วันนี้ (24 พ.ค.) พ.ต.ท.สุภาพ วัยนิพิฐพงษ์ รอง ผกก.ป.สภ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้พร้อมด้วย พ.ต.ท.สุกฤษฏิ์ วิศิษฐ์ชนะชัย สวป. ร.ต.ท.สัญญา วิจิตธำรงศักดิ์ รอง สวป. ด.ต.สมเจต แสงเพ็ญอ่อน สายตรวจรถจักรยานยนต์ นำหมายค้นศาลจังหวัดสุพรรณบุรี ที่ 666/2556  เข้าตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 67/1 ถนนโพธิ์อ้น-หวายสอ  เขตเทศบาลเมืองสองพี่น้อง อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี บ้านเป้าหมายยาเสพติด และอาวุธสงคราม ร่วมกันจับกุมตัว นายเอกชัย ดวงเนตรงาม หรือเอก อายุ 20 ปี หลังตรวจพบอาวุธปืนปากกา ขนาด .38 แบบไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก ซุกซ่อนอยู่ใต้โต๊ะเครื่องแป้ง สอบสวนให้การว่า เป็นของเพื่อนชื่อ นายแบงค์ ได้นำมาฝากไว้  จึงแจ้งข้อหามีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต นำตัวพร้อมของกลางส่ง ร.ต.ท.สมบัติ สำเรียนรัมย์ พนักงานสอบสวน สภ.สองพี่น้อง ดำเนินคดีต่อไป
Share:

วันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ตั้งค่าหัว 5 หมื่น โจรชิงเงินแบงก์รวงข้าว

กรณีคนร้ายควงปืนบุกเดี่ยวชิงเงิน 2.1 แสนบาท จากธนาคารกสิกรไทย สาขาย่อยบิ๊กซีรังสิตคลองสาม จ.ปทุมธานี หลบหนีลอยนวลเมื่อวันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 5 พ.ค. พ.ต.ท.วิศิษฐ์ มะอักษร พ.ต.ต.จิรวัฒน์ เปี่ยมปิ่นเศษ สว.สส.สภ.คลองหลวง นำชุดคลี่คลายคดีลงพื้นที่จุดเกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อสอบปากคำพยานแวดล้อมเพิ่มเติม โดยเจ้าหน้าที่ตั้งข้อสังเกตถึงเส้นทางที่คนร้ายใช้เดินเข้าออกก่อนและหลังก่อเหตุ เนื่องจากจะพบกับธนาคารกรุงเทพที่อยู่ใกล้ประตูทางออกมากกว่า จึงต้องสอบผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดอย่างละเอียด

ด้าน พ.ต.อ.เพิ่มเกียรติ สุริยวงศ์ ผกก.สภ.คลองหลวง กล่าวว่า ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนนำภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิดที่สามารถจับภาพรูปพรรณสัณฐานของคนร้ายไว้ได้แจกจ่ายให้กับประชาชนที่มาใช้บริการ และพนักงานของห้าง เพราะหวังว่าอาจจะได้เบาะแสเพิ่มเติม พร้อมตั้งรางวัลนำจับ 50,000 บาท หากมีผู้แจ้งข้อมูลจนสามารถนำไปใช้จับกุมโจรรายนี้ต่อไป.
Share:

"พริตตี้" แจ้งความ "ส.ส.สาธิต" อ้างอัพรูป-โพสต์ไม่เหมาะสม

กรณีนายสาธิต ปิตุเดชะ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ นำรูป "2พริตตี้สาว" ในชุดสีแดงมาประกอบเป็นภาพในเฟซบุ๊กส่วนตัว  พร้อมโพสต์ข้อความว่า  "ชัย ราชวัตรเขียนการ์ตูนล้อเลียนเลียนว่า"...แค่ขายตัว แต่...เร่ขายชาติ" แล้วเกี่ยวอะไรกับคนเสื้อแดงที่ล้อมศาลอยู่จะเคลื่อนไปปิด... (หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง) เขาไม่ได้ว่าญาติคุณนี่ หรือจะรับกันก็ดีนะ” ทำให้พริตตี้สาวหนึ่งในสองเข้าแจ้งความที่ สน.สายไหม โดยเห็นว่าเป็นข้อความที่ไม่เหมาะสม และทำให้อาจถูกเข้าใจผิดได้ กระทั่งมีผู้นำหลักฐานการเข้าแจ้งความไปโพสต์ลงในโลกออนไลน์นั้น
เมื่อวันที่ 5 พ.ค. พ.ต.ท.จิธณัท ชนะนนทกานต์ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ ฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน สน.สายไหม เปิดเผยถึงเรื่องดังกล่าวว่า เบื้องต้นได้รับรายงานว่า ผู้เสียหายคือ น.ส.กิ๊บ (นามสมมุติ)   อายุ 27 ปี ประกอบอาชีพพริตตี้ ได้เข้ามาแจ้งความจริง เพราะเพื่อนได้เห็นรูปของเธออยู่บนข้อความดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้ให้พนักงานสอบสวนที่รับแจ้งความรายงานไปยัง พ.ต.อ.เชวงศักดิ์ สินสูงสุด ผกก.สน.สายไหม เพื่อนำเรื่องรายงานผู้บังคับบัญชาต่อไป
ด้าน ร.ต.ท.สาธิต เพ่งแก้ว พงส.สน.สายไหม กล่าวว่า  ผู้เสียหายได้เข้ามาแจ้งความพร้อมกับเพื่อน โดยไม่ได้มีการพูดจาหรือสอบถามอะไรมาก เบื้องต้นทราบว่า ผู้เสียหายทราบข้อมูลจากเพื่อนว่ามีการนำรูปไปโพสต์ไว้บนข้อความ โดยมีนายสาธิต ปิตุเดชะ เป็นผู้โพสต์ข้อผ่านเว็บไซต์ทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งผู้เสียหายมองว่าเขียนบรรยายใต้ภาพด้วยข้อความไม่เหมาะสม เกรงว่าจะทำให้เสียหายจึงเกิดความกลัวและจึงได้เข้ามาแจ้งความไว้เท่านั้น ทั้งนี้ จะนำเรื่องดังกล่าวรายงานให้ผู้บังคับบัญชารับทราบต่อไป
 
Share:

แย้มเจอหลักฐานเด็ด ไขคดีฆ่าปลัดอบจ.ขอนแก่น

จากเหตุอุกอาจมือปืนเหิมลอบยิงนายสุชาติ โคตรทุม อายุ 53 ปี ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น (อบจ.) เสียชีวิตอยู่ข้างรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียน กพ 9219 ขอนแก่น บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 198/45 หมู่บ้านคุ้มจอมพล ถนนกสิกรทุ่งสร้าง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งจากการสืบสวนและตรวจสอบภาพวงจรปิดพบคนร้ายเป็นชายฉกรรจ์ 3 คน ใช้รถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีดำ ไม่ทราบทะเบียน เป็นพาหนะ ส่วนสาเหตุการสังหารตั้งไว้กว้าง ๆ หลายประเด็นทั้งเรื่องความขัดแย้งในการทำงาน ปัญหาความไม่พอใจของบุคคลบางกลุ่ม หรือเรื่องชู้สาว ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 5 พ.ค. นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผวจ.ขอนแก่น ได้เรียกนายเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องเข้าสอบถามถึงความคืบหน้าของคดี โดยพ่อเมืองขอนแก่น กล่าวว่า ยังรู้สึกเสียดายกับการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของผู้ใต้บังคับบัญชารายนี้มาก เพราะผู้ตายเป็นคนตั้งใจทำงาน มีความรับผิดชอบงานสูงมาก ทั้งยังมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีกับทุกคนด้วย จึงไม่น่าจะมาถูกยิงแบบนี้ สำหรับเรื่องประเด็นการสังหารตนไม่รู้อะไรมากนัก ขอให้เป็นเรื่องของทางตำรวจจะดีกว่า

ด้าน พ.ต.อ.จรูญ นวมทอง ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวว่า คดีนี้เจ้าหน้าที่ระดมฝ่ายสืบสวนมาร่วมกันทำงานอย่างเต็มที่ ขณะนี้พอได้เบาะแสบางอย่างแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ อย่างไรก็ตามมั่นในว่าจะสามารถจับกุมมือปืนและผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีได้อย่างแน่นอน บ่ายวันเดียวกัน พล.ต.ต.ศักดา เตชะเกรียงไกร รอง ผบช.ภ.4 ได้เรียกชุดคลี่คลายเข้าประชุมปรึกษาหารืออย่างเคร่งเครียด

อย่างไรก็ตาม ในการประชุมครั้งนี้มีการรายงานความคืบหน้าของคดี ซึ่งทางชุดสืบสวนเริ่มให้น้ำหนักไปยังเรื่องชู้สาว เนื่องจากได้ข้อมูลว่าผู้ตายมีปัญหากับหญิงสาวรายหนึ่งที่อยู่ในกรุงเทพฯ มาอย่างต่อเนื่องหลายปีแล้ว หลังพบหลักฐานสำคัญจากโทรศัพท์มือถือของผู้ตายที่เชื่อมโยงเรื่องความสัมพันธ์กันก่อนจะเสียชีวิต แต่ยังขาดพยานหลักฐานบางอย่างจึงยังไม่สามารถออกหมายจับหรือเผยแพร่ภาพสเก็ตช์ของมือปืนได้ในทันที.
Share:

วันเสาร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

หมัดหนัก!ยัวะเพื่อนเถียงต่อยเปรี้ยงเดียวจอด


.

เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 4 พ.ค. ร.ต.ท.ตรีเนตร นันทกรพิทักษ์  ร้อยเวร สภ.เมืองสมุทรปราการ รับแจ้งมีชายเสียชีวิต ในห้องพักคนงานภายในห้างหุ้นส่วนมงคลชัยธุรกิจ  จำกัด เลขที่ 56 / 335 หมู่ 1 ซอยวัดไตรมิตร 7 ต.บางเมืองใหม่ จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.พัลลภ  แอร่มหล้า ผกก. พ.ตอ.ปรีชา เอี่ยมนุ้ย หัวหน้าพนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ และกำลังสายตรวจสายสืบจำนวนหนึ่ง
ที่เกิดเหตุเปิดเป็นร้านจำหน่ายเหล็กและอะลูมิเนียม ด้านข้างดัดแปลงเป็นห้องพักคนงาน ภายในห้องพบศพนายสุนทรา พิมมะเสน อายุ 29 ปี นอนหงายจมกองเลือด สภาพใบหน้าเขียวช้ำบวม กะโหลกศีรษะบวม จึงมอบศพให้มูลนิธินำส่งสถาบันนิติเวช เพื่อชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง
    
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายพร้อมพวกประมาณ 4-5 คน ชักชวนกันนั่งดื่มสุรา แล้วเกิดมีปากโต้เถียงกับเพื่อนร่วมงานกันเรื่องใครทำงานมากใครทำงานน้อย จนถึงขั้นลงไม่ลงมือกัน และขณะที่ผู้ตายลุกขึ้นยืน ถูกนายฉัตรมงคล โพธิพงษ์ อายุ 30 ปี เพื่อนคนงานใช้กำปั้นชกที่ใบหน้าไป 1 ครั้ง จนเสียหลักเซถลาไปกระแทกประตูเหล็กม้วน และล้มศีรษะกระแทกพื้นปูนหมดสติ จากนั้นมีเพื่อน ๆ คนงานช่วยปฐมพยาบาล และนำตัวเข้าไปนอนในห้องพัก แต่ปรากฏว่าพอถึงรุ่งเช้าผู้บาดเจ็บนอนจมกองเลือดเสียชีวิตแล้ว ส่วนนายฉัตรมงคล อาศัยช่วงชุนละมุนหลบหนีไป อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะได้เร่งติดตามตัวมาสอบสวนดำเนินคดีต่อไป.
Share:

โจรซ่าควงปืนบุกเดี่ยวชิงเงินแสนแบงก์รวงข้าว


เมื่อเวลา 13.15 น. วันที่ 4 พ.ค. พ.ต.ท.ชวลิต แสงพงษ์พิทยา พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี รับแจ้งมีคนร้ายใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์เงินสดธนาคารกสิกรไทย สาขาบิ๊กซีรังสิตคลองสาม ซึ่งตั้งอยู่ภายในห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ซุปเปอร์เซ็นเตอร์ ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จึงรีบไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.เพิ่มเกียรติ  สุริยวงศ์ ผกก.สภ.คลองหลวง พ.ต.ท.ฐานันท์   ทิมวัฒน์ รองผกก.ป.สภ.คลองหลวง  พ.ต.ท.พิพัฒน์  มาลาธรรมรัตน์ สวป.สภ.คลองหลวง  พ.ต.ต. จิรวัฒน์ เปี่ยมปิ่นเศษ  พ.ต.ท. จิรโชติ ศรีภัทรภา สว.สส.สภ.คลองหลวง พร้อมกำลังชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐานเขต 1 ที่เกิดเหตุเป็นสถาบันการเงินสาขาย่อยซึ่งตั้งอยู่ด้านในห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ซึ่งอยู่ติดกับลานจอดรถยนต์และรถจักรยานยนต์ด้านหน้าห้างสรรพสินค้าพบพนักงานธนาคารชายหญิง 6 คน ยืนรอหน้าตาตื่น
จากการสอบสวน น.ส.สุภาวดี วงษ์ตีบ อายุ 23 ปี พนักงานประจำเคาร์เตอร์ ให้การว่า ขณะให้บริการลูกค้า จู่ ๆ มีคนร้ายแต่งกายคล้ายพนักงานส่งเอกสาร สวมชุดยูนิฟอร์มสีน้ำเงิน สวมสมวกกันน็อกแบบเต็มใบสีดำคาดขาวปิดบังใบหน้า สูงประมาณ 170 เซนติเมตร เข้ามาทางประตูของธนาคารแล้วใช้อาวุธปืนจี้ตนเองพร้อมรีบหยิบเงินสดซึ่งเป็นธนบัตรชนิดต่างๆที่อยู่ในตระกร้าพลาสติกจำนวน 212,900บาท ใส่ถุงพลาสติกสีเทาลายเขียว ที่คนร้ายเตรียมมาหลังก่อเหตุได้วิ่งหลบหนีออกไปอย่างรวดเร็วหลังเกิดเหตุตนจึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ด้าน พ.ต.อ.เพิ่มเกียรติ กล่าวว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า คนร้ายได้เข้ามาลงมือบุกเดี่ยวก่อเหตุเวลา 13.06 น.โดยใช้เวลาลงมือก่อเหตุเพียง 5 วินาทีก่อนหลบหนีไป ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดว่าคนร้ายน่าจะเคยเข้ามาดูลาดเลาไว้ก่อนหน้าจึงรู้ตำแหน่งของเงินที่รอนำเข้าตู้เซฟ และจากการสอบสวนผู้เห็นเหตุการณ์รายหนึ่งเปิดเผยว่า ขณะกำลังนั่งรับประทานอาหารภายในร้านไก่เคเอฟซีซึ่งอยู่ติดกัน พบชายคนหนึ่งลักษณะการแต่งกายเหมือนพนักงานส่งเอกสารเดินเข้ามาทางประตูสำรองของร้านเคเอฟซี ซึ่งสามารถเปิดประตูถึงลานจอดรถโดยคนร้ายเดินเข้ามาพร้อมทั้งสวมหมวกกันน็อกแบบเต็มใบสีดำลายขาว ตนจึงเอะใจทันทีเนื่องจากชายคนดังกล่าวไม่ยอมถอดหมวกกันน๊อคออก ทันใดนั้นเวลาผ่านไปไม่ถึงนาที ชายคนเดิมได้วิ่งออกจากห้างอย่างรวดเร็วโดยใช้ประตูทางลัดของร้านไก่เคเอฟซี ออกไปที่ลานจอดรถก่อนที่จะหายตัวไปและมาทราบภายหลังว่าคนร้ายได้ก่อเหตุจี้ทรัพย์ธนาคารซึ่งอยู่ติดกัน
  
เบื้องต้นได้ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิดของห้างสรรพสินค้าและร้านไก่เคเอฟซี และตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนีมาใช้ในการสืบสวน พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเขต1เก็บลายนิ้วมือแฝงของคนร้ายเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป.

Share:

Disqus Shortname

Comments system

ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 095-954-4524

ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

Blog Archive

Post Top Ad

คลังบทความของบล็อก

Author Details

Menu - Pages

Business

Random Posts

Recent

Popular

Blog Archive