เมื่อเวลา 13.15 น. วันที่ 4 พ.ค. พ.ต.ท.ชวลิต แสงพงษ์พิทยา พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี รับแจ้งมีคนร้ายใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์เงินสดธนาคารกสิกรไทย สาขาบิ๊กซีรังสิตคลองสาม ซึ่งตั้งอยู่ภายในห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ซุปเปอร์เซ็นเตอร์ ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จึงรีบไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.เพิ่มเกียรติ สุริยวงศ์ ผกก.สภ.คลองหลวง พ.ต.ท.ฐานันท์ ทิมวัฒน์ รองผกก.ป.สภ.คลองหลวง พ.ต.ท.พิพัฒน์ มาลาธรรมรัตน์ สวป.สภ.คลองหลวง พ.ต.ต. จิรวัฒน์ เปี่ยมปิ่นเศษ พ.ต.ท. จิรโชติ ศรีภัทรภา สว.สส.สภ.คลองหลวง พร้อมกำลังชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐานเขต 1 ที่เกิดเหตุเป็นสถาบันการเงินสาขาย่อยซึ่งตั้งอยู่ด้านในห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ซึ่งอยู่ติดกับลานจอดรถยนต์และรถจักรยานยนต์ด้านหน้าห้างสรรพสินค้าพบพนักงานธนาคารชายหญิง 6 คน ยืนรอหน้าตาตื่น
จากการสอบสวน น.ส.สุภาวดี วงษ์ตีบ อายุ 23 ปี พนักงานประจำเคาร์เตอร์ ให้การว่า ขณะให้บริการลูกค้า จู่ ๆ มีคนร้ายแต่งกายคล้ายพนักงานส่งเอกสาร สวมชุดยูนิฟอร์มสีน้ำเงิน สวมสมวกกันน็อกแบบเต็มใบสีดำคาดขาวปิดบังใบหน้า สูงประมาณ 170 เซนติเมตร เข้ามาทางประตูของธนาคารแล้วใช้อาวุธปืนจี้ตนเองพร้อมรีบหยิบเงินสดซึ่งเป็นธนบัตรชนิดต่างๆที่อยู่ในตระกร้าพลาสติกจำนวน 212,900บาท ใส่ถุงพลาสติกสีเทาลายเขียว ที่คนร้ายเตรียมมาหลังก่อเหตุได้วิ่งหลบหนีออกไปอย่างรวดเร็วหลังเกิดเหตุตนจึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ด้าน พ.ต.อ.เพิ่มเกียรติ กล่าวว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า คนร้ายได้เข้ามาลงมือบุกเดี่ยวก่อเหตุเวลา 13.06 น.โดยใช้เวลาลงมือก่อเหตุเพียง 5 วินาทีก่อนหลบหนีไป ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดว่าคนร้ายน่าจะเคยเข้ามาดูลาดเลาไว้ก่อนหน้าจึงรู้ตำแหน่งของเงินที่รอนำเข้าตู้เซฟ และจากการสอบสวนผู้เห็นเหตุการณ์รายหนึ่งเปิดเผยว่า ขณะกำลังนั่งรับประทานอาหารภายในร้านไก่เคเอฟซีซึ่งอยู่ติดกัน พบชายคนหนึ่งลักษณะการแต่งกายเหมือนพนักงานส่งเอกสารเดินเข้ามาทางประตูสำรองของร้านเคเอฟซี ซึ่งสามารถเปิดประตูถึงลานจอดรถโดยคนร้ายเดินเข้ามาพร้อมทั้งสวมหมวกกันน็อกแบบเต็มใบสีดำลายขาว ตนจึงเอะใจทันทีเนื่องจากชายคนดังกล่าวไม่ยอมถอดหมวกกันน๊อคออก ทันใดนั้นเวลาผ่านไปไม่ถึงนาที ชายคนเดิมได้วิ่งออกจากห้างอย่างรวดเร็วโดยใช้ประตูทางลัดของร้านไก่เคเอฟซี ออกไปที่ลานจอดรถก่อนที่จะหายตัวไปและมาทราบภายหลังว่าคนร้ายได้ก่อเหตุจี้ทรัพย์ธนาคารซึ่งอยู่ติดกัน
เบื้องต้นได้ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิดของห้างสรรพสินค้าและร้านไก่เคเอฟซี และตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนีมาใช้ในการสืบสวน พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเขต1เก็บลายนิ้วมือแฝงของคนร้ายเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป.
เบื้องต้นได้ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิดของห้างสรรพสินค้าและร้านไก่เคเอฟซี และตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนีมาใช้ในการสืบสวน พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเขต1เก็บลายนิ้วมือแฝงของคนร้ายเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป.
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น