กรณีที่มีตำรวจร่วมมือกับชาวอุซเบกิสถาน อุ้มสถาปนิก และวิศวกรชาวอิตาลีไปรีดไถเงิน 2 ล้านบาท โดยยัดข้อหาว่าชาวอิตาลีทั้ง 2 คนใช้บัตรปลอมกดเงิน เบื้องต้นทราบว่าเป็นตำรวจสังกัด บก.น.5 ยศร.ต.ท. 2 นายสังกัด สน.ลุมพินี และอีก 2 นายเป็นชั้นประทวน สังกัด สน.ทองหล่อนั้น
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 23 ส.ค. ที่สน.ลุมพินี พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รองผบช.น. พล.ต.ต.สืบศักดิ์ พันธุ์สุระ ผบก.น.5 พ.ต.อ.ไชยา คงทรัพย์ ผกก.สน.ลุมพินี พร้อมฝ่ายสืบสวนร่วมกันประชุมความคืบหน้าและติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุ โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชม.
ต่อมาพล.ต.ต.ปริญญา เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้ออกหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ กับผู้ก่อเหตุแล้วทั้ง 5 ราย คือ1.ร.ต.ท.วิรัตน์ อินทร์ยอด รองสวป.สน.ลุมพินี หมายจับเลขที่ จ.588/2556 2.ร.ต.ท.อัครเนตร มุฑาวัน รองสวป.สน.ลุมพินี หมายจับเลขที่ จ.589/2556 3.ด.ต.สถิตย์ จันทร์โสม ผบ.หมู่.งานปป.สน.ทองหล่อ หมายจับเลขที่ จ.590/2556 4.จ.ส.ต.ภูริพัศ ชื่นจำปา ผบ.หมู่งานปป. สน.ทองหล่อ หมายจับเลขที่ จ.591/2556 และ 5.นาย MUHIDDIN SHARIPOV ชาวอุซเบกิสถาน หมายจับเลขที่ จ.592/2556
โดยขณะนี้จับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุได้แล้ว 2 นาย คือ ด.ต.สถิตย์ และ จ.ส.ต.ภูริพัศ จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การภาคเสธ ยอมรับเพียงว่าอยู่ในที่เกิดเหตุตามที่ภาพกล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้ แต่ไม่ได้ร่วมลงมือก่อเหตุ เหลือผู้ก่อเหตุอีก 3 คน ที่ยังหลบหนีอยู่ คาดว่ายังกบดานอยู่ในประเทศ
อย่างไรก็ตามได้มีคำสั่งให้ตำรวจที่ก่อเหตุออกจากราชการไว้ก่อน และแจ้งข้อหาร่วมปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธ และร่วมกันเรียกค่าไถ่ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้นำหลักฐานที่เป็นกล้องวงจรปิดที่จับภาพคนร้ายได้ภายในโรงแรมสวัสดี สุขุมวิทอินน์ ซอยสุขุวิท 57 ซึ่งเป็นภาพที่คนร้ายกำลังควบคุมตัวผู้เสียหายทั้ง 2 คน มาขังไว้ในโรงแรมดังกล่าว ในช่วงเวลา02.53 น. วันที่ 20 ส.ค. ทั้งนี้ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาที่จับกุมได้ไปฝากขังที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ และคัดค้านประกันตัว เนื่องจากเกรงจะไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน พร้อมทั้งจะประสานไปยังกองบัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) เพื่อติดตามคนร้ายที่เป็นชาวต่างชาติ เพราะเกรงว่าจะหลบหนีออกนอกประเท
ต่อมาเวลา 12.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พล.ต.ต.ปริญญา รองผบช.น. เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ทุกบก.เร่งรัดติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากทำให้ชื่อเสียงของตำรวจเสื่อมเสียมาก เบื้องต้นมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน โดยพยานหลักฐานที่มีอยู่ขณะนี้เชื่อได้ว่าร่วมกันก่อเหตุจริง และหลักฐานก็เพียงพอที่จะเอาผิดกับผู้ต้องหาทั้งหมดได้ ส่วนจะเคยก่อเหตุในลักษณะนี้มาก่อนหรือไม่นั้นยังตอบไม่ได้ เพราะไม่มีผู้เสียหายมาแจ้งความเพิ่มเติม ทั้งนี้ผู้ต้องหา 2 คนที่จับกุมได้ ยังให้การภาคเสธ รับสารภาพไม่หมด ส่วนตำรวจอีก 2 คนที่หลบหนีคาดว่ายังอยู่ในพื้นที่ ยังไปได้ไม่ไกล แต่ยังไม่มีการติดต่อขอเข้ามอบตัว อย่างไรก็ตามหากรู้ตัวว่ากระทำความผิดจริงและเป็นลูกผู้ชายพอ ก็ขอให้เข้ามามอบตัว
ด้าน พล.ต.ต.สืบศักดิ์ ผบก.น. 5 กล่าวว่า เบื้องต้นได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะให้รองผบก.น.5 คนใด เป็นหัวหน้าคณะทำงาน ยังอยู่ระหว่างการร่างคำสั่ง คาดว่าในช่วงเย็นวันนี้น่าจะแล้วเสร็จ.