วันนี้ ( 8 พ.ย. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐเมริกาว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐ เดินทางกลับเข้าทำงานยังทำเนียบขาวต่อทันที เมื่อวันพุธ หลังสามารถคว้าชัยชนะถล่มทลายในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 6 พ.ย. ที่ทำให้เขาครองเก้าอี้ผู้นำสหรัฐได้อีกหนึ่งสมัย โดยเรียกร้องขอความร่วมมือจากพรรครีพับลิกันในการทำงานเพื่อแก้ไขวิกฤต เศรษฐกิจที่เรื้อรังมานาน
โอบามา ซึ่งเดินทางกลับเข้าทำเนียบขาวพร้อมครอบครัว เมื่อช่วงดึกของวันพุธ ต่อโทรศัพท์สายตรงไปยังนายจอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร หลังพรรครีพับลิกันซึ่งโบห์เนอร์เป็นสมาชิก ครองเสียงข้างมากในสภาฯได้อีกหนึ่งสมัย เพื่อหารือเกี่ยวกับความร่วมมือในการหาแนวทางแก้ไขปัญหามาตรการ “ฟิสคอล คลิฟฟ์” หรือ “หน้าผาทางการคลัง” ที่หมายถึงการปรับขึ้นภาษี และปรับลดงบประมาณรายจ่ายภาครัฐครั้งใหญ่ เพื่อเพิ่มเพดานหนี้สาธารณะ ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ทันที ตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค. ปีหน้า หากรัฐบาลสหรัฐ และสภาคองเกรสไม่สามารถบรรลุข้อตกลงลดรายจ่ายภาครัฐให้ได้ตามเป้า ซึ่งอาจทำให้สหรัฐต้องเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยอีกครั้ง
โอบามายังต่อสายตรงเพื่อร่วมหารือกับนายมิตช์ แม็คคอนเนล ผู้นำพรรครีพับลิกัน ซึ่งยังคงถือเสียงข้างน้อยในวุฒิสภา ตลอดจนนายแฮรี ไรด์ ประธานวุฒิสภา สังกัดพรรคเดโมแครต และนางแนนซี เปโลซี ผู้นำเสียงข้างน้อยของพรรคเดโมแครตในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อหารือในเรื่องเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม โบห์เนอร์ กล่าวว่า อาจใช้มาตรการ “ชั่วคราว” เพื่อจัดการปัญหาดังกล่าว ก่อนวันทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 21 ม.ค. 2556 ซึ่งเป็นแนวทางที่โอบามาไม่เห็นด้วยมาตลอด 4 ปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ โอบามาสร้างสถิติเป็นผู้นำสหรัฐคนแรก ในรอบ 70 ปี หลังอดีตประธานาธิบดีแฟรงคลิน ดี. รูสเวลต์ ที่ได้รับการเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งสมัยที่ 2 ขณะที่อัตราว่างงานในประเทศสูงกว่า 7.4% และเป็นผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตคนที่ 2 ถัดจากอดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน ที่ครองเก้าอี้ผู้นำสหรัฐ 2 สมัย นับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2
ขณะที่คณะกรรมการจัดการเลือกตั้งรัฐฟลอริดา ซึ่งมีคะแนนคณะผู้เลือกตั้ง 29 เสียง เป็นรัฐสุดท้ายที่ยังไม่ประกาศผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการ โดยโอบามามีคะแนนคณะผู้เลือกตั้งอยู่ที่ 303 เสียง ชนะนายมิตต์ รอมนีย์ ผู้ท้าชิงจากพรรครีพับลิกันขาดลอย ทั้งนี้คะแนนคณะผู้เลือกตั้งของรอมนีย์อยู่ที่ 206 เสียง.
โอบามา ซึ่งเดินทางกลับเข้าทำเนียบขาวพร้อมครอบครัว เมื่อช่วงดึกของวันพุธ ต่อโทรศัพท์สายตรงไปยังนายจอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร หลังพรรครีพับลิกันซึ่งโบห์เนอร์เป็นสมาชิก ครองเสียงข้างมากในสภาฯได้อีกหนึ่งสมัย เพื่อหารือเกี่ยวกับความร่วมมือในการหาแนวทางแก้ไขปัญหามาตรการ “ฟิสคอล คลิฟฟ์” หรือ “หน้าผาทางการคลัง” ที่หมายถึงการปรับขึ้นภาษี และปรับลดงบประมาณรายจ่ายภาครัฐครั้งใหญ่ เพื่อเพิ่มเพดานหนี้สาธารณะ ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ทันที ตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค. ปีหน้า หากรัฐบาลสหรัฐ และสภาคองเกรสไม่สามารถบรรลุข้อตกลงลดรายจ่ายภาครัฐให้ได้ตามเป้า ซึ่งอาจทำให้สหรัฐต้องเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยอีกครั้ง
โอบามายังต่อสายตรงเพื่อร่วมหารือกับนายมิตช์ แม็คคอนเนล ผู้นำพรรครีพับลิกัน ซึ่งยังคงถือเสียงข้างน้อยในวุฒิสภา ตลอดจนนายแฮรี ไรด์ ประธานวุฒิสภา สังกัดพรรคเดโมแครต และนางแนนซี เปโลซี ผู้นำเสียงข้างน้อยของพรรคเดโมแครตในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อหารือในเรื่องเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม โบห์เนอร์ กล่าวว่า อาจใช้มาตรการ “ชั่วคราว” เพื่อจัดการปัญหาดังกล่าว ก่อนวันทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 21 ม.ค. 2556 ซึ่งเป็นแนวทางที่โอบามาไม่เห็นด้วยมาตลอด 4 ปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ โอบามาสร้างสถิติเป็นผู้นำสหรัฐคนแรก ในรอบ 70 ปี หลังอดีตประธานาธิบดีแฟรงคลิน ดี. รูสเวลต์ ที่ได้รับการเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งสมัยที่ 2 ขณะที่อัตราว่างงานในประเทศสูงกว่า 7.4% และเป็นผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตคนที่ 2 ถัดจากอดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน ที่ครองเก้าอี้ผู้นำสหรัฐ 2 สมัย นับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2
ขณะที่คณะกรรมการจัดการเลือกตั้งรัฐฟลอริดา ซึ่งมีคะแนนคณะผู้เลือกตั้ง 29 เสียง เป็นรัฐสุดท้ายที่ยังไม่ประกาศผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการ โดยโอบามามีคะแนนคณะผู้เลือกตั้งอยู่ที่ 303 เสียง ชนะนายมิตต์ รอมนีย์ ผู้ท้าชิงจากพรรครีพับลิกันขาดลอย ทั้งนี้คะแนนคณะผู้เลือกตั้งของรอมนีย์อยู่ที่ 206 เสียง.
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น