วันนี้ (15 พ.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พล.ต.ต.วรัญวัส การุณยธัช พล.ต.ต.มานิต วงศ์สมบูรณ์ รอง ผบช.น. พ.ต.อ.พจน์ บุญมาภาคย์ พ.ต.อ.ไกรเลิศ บัวแก้ว รอง ผบก.น.1 พ.ต.อ.คณิศร์ชัย มหินทรเทพ ผกก.สส.บก.น.1 พ.ต.ท.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รองผกก.สส.บก.น.1 ที่ ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมตัวนายจ่อ สัญชาติพม่า อายุ 25 ปี พร้อมของกลางกุญแจมือและมีดพับที่ใช้ก่อเหตุข่มขืนหญิงสาวและชิงทรัพย์เหยื่อชาติเดียวกัน
พ.ต.อ.พจน์ เปิดเผยว่า กก.สส.บก.น.1 ได้รับแจ้งจากหญิงสาวชาวพม่า ชื่อ น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 29 ปี อาชีพพนักงานขายตรงอาหารเสริมชนิดหนึ่ง ผู้เสียหายรายที่ 1 ว่า ถูกผู้ต้องหาหลอกลวงไปข่มขืนกระทำชำเราที่โรงแรมม่านรูด ย่านจรัญสนิทวงศ์ เมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา จึงได้ทำการสืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาทำทีเป็นลูกค้าโทรศัพท์มาติดต่อกับผู้เสียหายเพื่อขอดูสินค้า เมื่อผู้เสียหายลงเชื่อจึงทำตีสนิทและใช้อุบายหลอกพาเข้าโรงแรมดังกล่าว จากนั้นใช้กำลังและกุญแจมือล็อคมือผู้เสียหาย กระทำการข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ ก่อนเอาทรัพย์สินของผู้เสียหายหลบหนีไป
พ.ต.อ.พจน์ กล่าวอีกว่า ต่อมาวันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา น.ส.หน่อย (นามสมมุติ) ผู้เสียหายรายที่ 2 ได้โทรศัพท์ไปหา น.ส.เอ ซึ่งเป็นเพื่อนกัน แต่ปรากฏว่านายจ่อ เป็นคนรับสายและอ้างว่าเป็นแฟนของ น.ส.เอ พร้อมกับออกอุบายหลอกลวง น.ส.หน่อย ให้มาเจอเพื่อจะพาไปพบ น.ส.เอ แต่เมื่อนัดเจอกันผู้ต้องหาได้พา น.ส.หน่อย เข้าโรงแรมม่านรูดที่เดิม แล้วใช้อาวุธมีดจี้บังคับข่มขืน น.ส.หน่อย จนสำเร็จความใคร่ ก่อนจะขโมยเอาทรัพย์สินของผู้เสียหายไปด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.1 ได้ทำการสืบสวนติดตามพฤติการณ์ของผู้ต้องหาทราบว่า นายจ่อ ชอบตระเวนหาเหยื่อ ย่านประตูน้ำ และอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 14 พ.ย. ชุดสืบสวนพบนายจ่อ อยู่บริเวณประตูน้ำและไม่มีเอกสารหลักฐานยืนยันการเข้าเมืองจึงเชิญตัวมาสอบสวน ซึ่งผู้ต้องหาให้การว่า ทำการข่มขืนกระทำชำเราหญิงสาวทั้ง 2 คนจริง โดยเน้นผู้หญิงที่เป็นชาวพม่า เนื่องจากเป็นคนชาติเดียวกัน สามารถใช้คำพูดหลอกลวงได้ง่ายและไม่กล้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” ส่วนคดี ข่มขืนกระทำชำเราฯ ผู้เสียหายได้มีการร้องทุกข์ไว้ที่สน.บางยี่ขัน แล้ว พร้อมได้ประสานพนักงานสอบสวน สน.บางยี่ขัน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พ.ต.อ.พจน์ เปิดเผยว่า กก.สส.บก.น.1 ได้รับแจ้งจากหญิงสาวชาวพม่า ชื่อ น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 29 ปี อาชีพพนักงานขายตรงอาหารเสริมชนิดหนึ่ง ผู้เสียหายรายที่ 1 ว่า ถูกผู้ต้องหาหลอกลวงไปข่มขืนกระทำชำเราที่โรงแรมม่านรูด ย่านจรัญสนิทวงศ์ เมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา จึงได้ทำการสืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาทำทีเป็นลูกค้าโทรศัพท์มาติดต่อกับผู้เสียหายเพื่อขอดูสินค้า เมื่อผู้เสียหายลงเชื่อจึงทำตีสนิทและใช้อุบายหลอกพาเข้าโรงแรมดังกล่าว จากนั้นใช้กำลังและกุญแจมือล็อคมือผู้เสียหาย กระทำการข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ ก่อนเอาทรัพย์สินของผู้เสียหายหลบหนีไป
พ.ต.อ.พจน์ กล่าวอีกว่า ต่อมาวันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา น.ส.หน่อย (นามสมมุติ) ผู้เสียหายรายที่ 2 ได้โทรศัพท์ไปหา น.ส.เอ ซึ่งเป็นเพื่อนกัน แต่ปรากฏว่านายจ่อ เป็นคนรับสายและอ้างว่าเป็นแฟนของ น.ส.เอ พร้อมกับออกอุบายหลอกลวง น.ส.หน่อย ให้มาเจอเพื่อจะพาไปพบ น.ส.เอ แต่เมื่อนัดเจอกันผู้ต้องหาได้พา น.ส.หน่อย เข้าโรงแรมม่านรูดที่เดิม แล้วใช้อาวุธมีดจี้บังคับข่มขืน น.ส.หน่อย จนสำเร็จความใคร่ ก่อนจะขโมยเอาทรัพย์สินของผู้เสียหายไปด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.1 ได้ทำการสืบสวนติดตามพฤติการณ์ของผู้ต้องหาทราบว่า นายจ่อ ชอบตระเวนหาเหยื่อ ย่านประตูน้ำ และอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 14 พ.ย. ชุดสืบสวนพบนายจ่อ อยู่บริเวณประตูน้ำและไม่มีเอกสารหลักฐานยืนยันการเข้าเมืองจึงเชิญตัวมาสอบสวน ซึ่งผู้ต้องหาให้การว่า ทำการข่มขืนกระทำชำเราหญิงสาวทั้ง 2 คนจริง โดยเน้นผู้หญิงที่เป็นชาวพม่า เนื่องจากเป็นคนชาติเดียวกัน สามารถใช้คำพูดหลอกลวงได้ง่ายและไม่กล้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” ส่วนคดี ข่มขืนกระทำชำเราฯ ผู้เสียหายได้มีการร้องทุกข์ไว้ที่สน.บางยี่ขัน แล้ว พร้อมได้ประสานพนักงานสอบสวน สน.บางยี่ขัน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น