วันนี้ ( 7 ต.ค.) เมื่อเวลา 14.50 น.พ.ต.อ.พิชัย. ปกป้อง ผกก.สภ.ท่าไม้รวก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่วิทยาการตำรวจ เขต 16 เพชรบุรี กองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดเพชรบุรี พร้อมรถแบ๊กโฮ นำหมายค้น จากศาล จ.เพชรบุรี เลขที่ มค 694 ตั้งแต่วันที่6-10 ต.ค.55 ระหว่าง 07.00-18.00 น. เข้าตรวจพื้นที่ไร่ของ พ.ต.อ.นายแพทย์สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ เพื่อค้นหาศพผู้สูญหายเป็นครั้งที่ 11 หลังผลตรวจจากสำนักงานนิติเวช กรมตำรวจ แจ้งว่าผล DNA โครงกระดูกมนุษย์ที่ขุดค้นพบในไร่จำนวน 3 โครงไม่ตรงกับของนายสามารถ และนางอุษา ผู้สูญหาย ต่อมาญาติจึงขอให้ตำรวจนำกระดูกทั้งหมดส่งสถาบันนิติเวช รพ.จุฬา เพื่อตรวจผลดีเอ็นเออีกครั้ง อยู่ระหว่างรอผลตรวจ ขณะเดียวกันในการค้นหาครั้งล่าสุดที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่พบท่อปูนลึกลับอยู่ในสระน้ำข้างจุดที่พบโครงกระดูก2ร่าง ประกอบกับสุนัขตำรวจ เค9 ที่มาร่วมค้นหามีอาการกระวนกระวายจุดที่พบท่อปูนด้วย เมื่อมีการเข้าสูบน้ำตรวจสอบท่อปูนแต่ไม่พบหลักฐานเพิ่ม ขณะที่ตำรวจได้จับกุมนางวิลสา จันทรบัญชร ได้แล้วและนำฝากขังศาล จ.เพชรบุรี
โดยการค้นหาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้รถแบ๊กโฮขุดซ้ำบริเวณที่ชาวบ้านช่วยกันขุดเมื่อวานนี้แต่ลึกกว่าเดิมประมาณ 3 เมตร และเคลื่อนที่ขุดตามแนวต้นมะม่วง จากนั้นหากยังไม่พบก็จะเคลื่อนแนวการขุดค้นหาไปที่จุดที่พบศพแรกและ2ศพต่อมา หากยังไม่เจอก็จะขุดไล่ต่อไปเรื่อย ๆ
พ.ต.อ.พิชัย. ปกป้องผกก.สภ.ท่าไม้รวก กล่าวว่า การค้นหาตลอด 5 วันนี้ตำรวจทำอย่างสุดความสามารถอยากให้ญาติพี่น้องของคนที่หายไปได้เจอกัน เพราะพวกเขาก็รอคอยมานานแล้ว ถึงตอนนั้นถ้าใครมีดีอะไรอยากมีช่วยก็มาได้เลย ไม่ว่าจะเป็นเซียนล้างป่าช้า หรือหมอดู หมอไสยศาสตร์ เอามาได้เลย ถ้าวันที่10 ต.ค.นี้ ยังค้นหาไม่พบเราคงต้องยุติไว้เพียงเท่านั้นก่อน
ส่วนกรณีที่นางวิลสา ได้เขียนจดหมายร้องเดลินิวส์กล่าวหาว่าตำรวจข่มขู่ระหว่างสอบสวน ยืนยันทางตำรวจไม่ได้กระทำอย่างนั้น ระหว่างสอบมีตำรวจชั้นผู้ใหญ่ร่วมสอบนับ 10 นาย การสอบสวนก็เหมือนการพูดคุยโต้ตอบตามปกติ ไม่มีการข่มขู่หรือกระทำที่รุนแรงแต่อย่างใด ที่สำคัญระหว่างการสอบปากคำมีการบันทึกวีดิโอไว้เป็นหลักฐาน ดังนั้นใครจะกล่าวหรือพูดใดๆก็สามารถทำได้แต่ข้อเท็จจริงมันมีหลักฐานอยู่ และคดีนี้อยู่ในความสนใจของประชาชน เป็นไปไม่ได้เด็ดขาดที่ตำรวจจะทำในสิ่งที่เป็นภาพลบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนที่รถแบ๊กโฮจะเริ่มขุดได้มีหมอผีชาวกระเหรี่ยงมาทำพิธีเปิดหน้าดินเพื่อช่วยให้การค้นหาประสบความสำเร็จด้วย
ล่าสุด นายเอก เลาหะวัฒนะ อายุ 30 ปี บุตรชายของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ ได้แจ้งทีมข่าวเดลินิวส์ว่า วันก่อนเข้าไปเยี่ยมและนำยารักษาโรคเบาหวานไปมอบให้บิดาที่เรือนจำเพชรบุรีแล้วนั้น บิดามีสภาพอิดโรย สีหน้าหมองคล้ำ เนื่องจากไม่ค่อยได้พักผ่อน โดยยังได้บอกกับตนว่า ขณะนี้มีความรู้สึกอัดอั้นตันใจมาก เพราะตั้งแต่ถูกควบคุมตัวมายังไม่มีโอกาสได้เปิดเผยความในใจเลยว่ามีที่มาไปอย่างไร สาเหตุใดเป็นต้นเรื่องของเหตุการณ์ อยากจะสื่อสารเป็นคำพูดหรือลายลักษณ์อักษรชี้แจงให้บุคคลภายนอกได้ทราบเกี่ยวกับเรื่องราวทั้งหมด เชื่อว่ายังมีสิ่งต่าง ๆ อีกมากที่หลายคนอยากจะทราบ ซึ่งในวันที่ 8 ต.ค. ตนจะเข้าไปเยี่ยมบิดาอีกครั้งในเรือนจำและจะนำถ้อยคำหรือข้อความที่บิดาต้องการจะเปิดใจออกมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชน
ขณะที่ พล.ต.ต.วิทยา ประยงค์พันธ์ รอง ผบช.ภ.7 กล่าวถึงกรณีมีจดหมายปริศนาของ น.ส.วิลสา ที่เขียนด้วยลายมือออกมาจากคุกมีใจความระบุว่า เจ้าหน้าที่กดดันและข่มขู่ให้ยอมรับสารภาพไปในแนวทางที่ตำรวจต้องการว่า ในฐานะที่เป้นผู้ดูแลในคดีนี้ ขอยืนยันว่าไม่ได้เป็นไปตามจดหมายแน่ เนื่องจากวันที่นำตัว น.ส.วิลสา มาสอบปากคำนั้น พล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผบช.ภาค 7 และตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายนายร่วมสอบปากคำด้วย จึงเป็นไปไม่ได้ว่าจะมีการข่มขู่ ทุกคำถามเป็นเพียงการซักถามข้อสงสัยตามปกติเท่านั้น คาดว่าน่าจะเป็นการเข้าใจผิดมากกว่า เพราะหลังจากสอบถามเสร็จ เจ้าตัวยังลงลายมือชื่อด้วยตัวเองว่า การให้การในวันนี้ไม่ได้มีการข่มขู่ รวมทั้งยังปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาด้วยซ้ำไป.
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น