เมื่อวันที่ 30 ต.ค.เวลา 09.00 น.ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ประธานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) และรองประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) พร้อมคณะ ประกอบด้วยนายสุทธิพล ทวีชัยการ นายประเสริฐ ศีลพิพัฒน์ และพล.อ.สุกิจ ขมะสุนทร คณะกรรมการกสทช. เดินทางเข้าพบนางผาณิต นิติทัณฑ์ประภาศ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายศรีราชา เจริญพานิช และนายประวิช รัตนเพียร ผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อขอหารือและยื่นเอกสารเพิ่มเติมชี้แจงอำนาจหน้าที่ในการจัดประมูลคลื่น ความถี่ 3 จี หลังมีผู้ร้องให้ตรวจสอบ จำนวน 3 ราย และเมื่อทราบข่าวจากโฆษกผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่ระบุว่า ข้อมูลที่เลขาธิการกสทช.เคยมายื่นชี้แจงครบถ้วนแล้ว แต่ทางนายสุทธิพล ทวีชัยการ คณะกรรมการกสทช. เห็นว่าน่าจะยังไม่ครบถ้วนทุกประเด็น จึงมีความเป็นห่วง ดังนั้น จึงต้องการนำข้อมูลและมาชี้แจงด้วยตัวเองในวันนี้
ทั้งนี้ ยืนยันว่าการปฏิบัติหน้าที่ของ กทค.มีอำนาจในการดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ซึ่งเคยเป็นกังวลอยู่เช่นกันในประเด็นข้อกฎหมายในเรื่องของอำนาจในการดำเนิน การ จึงได้ศึกษาและสอบถามนักวิชาการต่างๆ ในประเด็นที่คิดว่ามีปัญหา เช่น ในมาตรา 27 (4) ,(6) ซึ่งก็เห็นว่าเราสามารดำเนินการได้ จึงเดินหน้าดำเนินการ
“ขอยืนยันว่าการดำเนินการประมูลคลื่นความถี่ 3 จี ตลอดเวลาที่ผ่านมา ได้พยายามชี้แจงว่าการดำเนินการเป็นไปอย่างถูกต้องตามกระบวนการทุกขั้นตอน แต่เมื่อมีผู้มาร้องเรียนถึงการปฏิบัติหน้าที่ จึงจำเป็ต้องมาชี้แจงข้อเท็จจริงให้สังคมได้รับทราบว่าการประมูลคลื่นความ ถี่ 3 จี เป็นไปอย่างโปร่งใส และมีกฎหมายรองรับไว้ชัดเจน ดังนั้น กทค.จึงต้องการนำขอมูลอีกด้านหนึ่ง เพื่อยืนยันว่ามีอำนาจในการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว” นายสุทธิพล กล่าว
ขณะที่นางผาณิต กล่าวภายหลังการหารือร่วมกับคณะกรรมการกทค.ว่า หลังจากนี้ทางผู้ตรวจการฯ จะเร่งพิจารณาตรวจสอบเรื่องดังกล่าว หลังทางกทค.ได้ยื่นข้อมูลเพิ่มเติมเข้ามาให้ผู้ตรวจการแผ่นดินได้นำมาประกอบ การพิจารณา โดยขณะนี้มีจำนวน 3 คำร้องที่ยื่นเข้ามาให้ผู้ตรวจการแผ่นดินตรวจสอบ ซึ่งทางผู้ตรวจการฯจะพิจารณาว่า ทั้ง 3 คำร้องมีประเด็นที่เกี่ยวข้องหรือแตกต่างกันอย่างไร
นางผาณิต กล่าวต่อว่า ส่วนทางกสทช.จะชะลอการดำเนินออกใบรับรองการอนุญาตการประมูล 3 จี หรือไม่นั้น เป็นดุลยพินิจของกสทช.ที่จะต้องเป็นผู้พิจารณาเอง อย่างไรก็ตาม ทางผู้ตรวจการฯจะเร่งพิจารณาเรื่องดังกล่าวให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เนื่องจากมีข้อจำกัดเรื่องระยะเวลา จึงคาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะทราบความชัดเจนว่าผู้ตรวจการฯจะส่งเรื่องให้ศาล ปกครองพิจารณาหรือไม่ ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า แม้ระยะเวลาการพิจารณาเรื่องดังกล่าวของผู้ตรวจการฯจะมีข้อจำกัด แต่ก็ไม่มีความกดดัน เนื่องจากผู้ตรวจการฯปฎิบัติหน้าที่ตามอำนาจหน้าที่ตามมาตรา 14 ของพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ. 2552
ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายศรีราชา เจริญพานิช ผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยว่า การพิจารณาของผู้ตรวจฯกรณีคำร้องต่างๆ ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นว่าเรื่องนั้น เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายแล้ว จึงส่งให้ศาลปกครองพิจารณา แต่แค่เพียงเห็นว่ามีปัญหาเรื่องความชอบด้วยกฎหมายก็สามารถที่ยื่นคำร้องต่อ ศาลปกครองได้แล้ว อีกทั้งตามหน้าที่กฎหมายกำหนดให้ผู้ตรวจฯเป็นเหมือนช่องทางที่ให้ประชาชน สามารถยื่นคำร้องผ่านไปยังศาลได้ ซึ่งการประมูล 3 จี มีประเด็นมาก ทางผู้ตรวจกำลังพิจารณาอยู่ว่า โดยนอกจากประเด็นการจัดประมูลเป็นไปตามกฎหมาย มีการฮั้วประมูลที่ต้องส่งศาลปกครองพิจารณาหรือไม่แล้ว ยังมีการพิจารณาว่า ที่ร้องว่ากทค.มีอำนาจที่จะจัดหรือรับรองการประมูลหรือไม่ ผู้ตรวจจะต้องยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยด้วยหรือไม่
ทั้งนี้ ยืนยันว่าการปฏิบัติหน้าที่ของ กทค.มีอำนาจในการดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ซึ่งเคยเป็นกังวลอยู่เช่นกันในประเด็นข้อกฎหมายในเรื่องของอำนาจในการดำเนิน การ จึงได้ศึกษาและสอบถามนักวิชาการต่างๆ ในประเด็นที่คิดว่ามีปัญหา เช่น ในมาตรา 27 (4) ,(6) ซึ่งก็เห็นว่าเราสามารดำเนินการได้ จึงเดินหน้าดำเนินการ
“ขอยืนยันว่าการดำเนินการประมูลคลื่นความถี่ 3 จี ตลอดเวลาที่ผ่านมา ได้พยายามชี้แจงว่าการดำเนินการเป็นไปอย่างถูกต้องตามกระบวนการทุกขั้นตอน แต่เมื่อมีผู้มาร้องเรียนถึงการปฏิบัติหน้าที่ จึงจำเป็ต้องมาชี้แจงข้อเท็จจริงให้สังคมได้รับทราบว่าการประมูลคลื่นความ ถี่ 3 จี เป็นไปอย่างโปร่งใส และมีกฎหมายรองรับไว้ชัดเจน ดังนั้น กทค.จึงต้องการนำขอมูลอีกด้านหนึ่ง เพื่อยืนยันว่ามีอำนาจในการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว” นายสุทธิพล กล่าว
ขณะที่นางผาณิต กล่าวภายหลังการหารือร่วมกับคณะกรรมการกทค.ว่า หลังจากนี้ทางผู้ตรวจการฯ จะเร่งพิจารณาตรวจสอบเรื่องดังกล่าว หลังทางกทค.ได้ยื่นข้อมูลเพิ่มเติมเข้ามาให้ผู้ตรวจการแผ่นดินได้นำมาประกอบ การพิจารณา โดยขณะนี้มีจำนวน 3 คำร้องที่ยื่นเข้ามาให้ผู้ตรวจการแผ่นดินตรวจสอบ ซึ่งทางผู้ตรวจการฯจะพิจารณาว่า ทั้ง 3 คำร้องมีประเด็นที่เกี่ยวข้องหรือแตกต่างกันอย่างไร
นางผาณิต กล่าวต่อว่า ส่วนทางกสทช.จะชะลอการดำเนินออกใบรับรองการอนุญาตการประมูล 3 จี หรือไม่นั้น เป็นดุลยพินิจของกสทช.ที่จะต้องเป็นผู้พิจารณาเอง อย่างไรก็ตาม ทางผู้ตรวจการฯจะเร่งพิจารณาเรื่องดังกล่าวให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เนื่องจากมีข้อจำกัดเรื่องระยะเวลา จึงคาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะทราบความชัดเจนว่าผู้ตรวจการฯจะส่งเรื่องให้ศาล ปกครองพิจารณาหรือไม่ ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า แม้ระยะเวลาการพิจารณาเรื่องดังกล่าวของผู้ตรวจการฯจะมีข้อจำกัด แต่ก็ไม่มีความกดดัน เนื่องจากผู้ตรวจการฯปฎิบัติหน้าที่ตามอำนาจหน้าที่ตามมาตรา 14 ของพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ. 2552
ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายศรีราชา เจริญพานิช ผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยว่า การพิจารณาของผู้ตรวจฯกรณีคำร้องต่างๆ ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นว่าเรื่องนั้น เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายแล้ว จึงส่งให้ศาลปกครองพิจารณา แต่แค่เพียงเห็นว่ามีปัญหาเรื่องความชอบด้วยกฎหมายก็สามารถที่ยื่นคำร้องต่อ ศาลปกครองได้แล้ว อีกทั้งตามหน้าที่กฎหมายกำหนดให้ผู้ตรวจฯเป็นเหมือนช่องทางที่ให้ประชาชน สามารถยื่นคำร้องผ่านไปยังศาลได้ ซึ่งการประมูล 3 จี มีประเด็นมาก ทางผู้ตรวจกำลังพิจารณาอยู่ว่า โดยนอกจากประเด็นการจัดประมูลเป็นไปตามกฎหมาย มีการฮั้วประมูลที่ต้องส่งศาลปกครองพิจารณาหรือไม่แล้ว ยังมีการพิจารณาว่า ที่ร้องว่ากทค.มีอำนาจที่จะจัดหรือรับรองการประมูลหรือไม่ ผู้ตรวจจะต้องยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยด้วยหรือไม่
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น