เมื่อเวลา 12.45 น.วันนี้ (7 มิ.ย.) ร.ต.ท.ฤทธิไกร ยอมประโคม พนักงานสอบสวน สน.ลาดกระบัง ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายบุกเดี่ยวใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์ ภายในธนาคารกรุงไทย สาขาถนนร่มเกล้า ตั้งอยู่เลขที่ 123/1 ปากซอยร่มเกล้า 21/3 ถนนร่มเกล้า แขวงคลองสามประเวศ เขตลาดกระบัง กทม.จึงรายงานผู้ยังคับบัญชาก่อนรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง พล.ต.ต.มานิตย์ วงศ์สมบูรณ์ รอง ผบช.น. พ.ต.อ.คมสัน แตงจุ้ย ผกก.สน.ลาดกระบัง พ.ต.อ.ภิรมย์ สวนทอง ผกก.สส.บก.น.3 เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสน.ลาดกระบัง เจ้าหน้าที่กก.สส.บก.น.3 และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.)
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารสูง 2 ชั้น บริเวณชั้นล่างเจ้าหน้าที่พบ น.ส.ปิยนุช พละเยี่ยม อายุ 26 ปี เจ้าหน้าที่แผนกบริการลูกค้า ประจำเคาร์เตอร์ หมายเลข 4 ยืนตื่นตระหนกอยู่ กล่าวว่า โดยก่อนเกิดเหตุพนักงานภายในธนาคามี 3 คน แม่บ้าน 1 คน และมีลูกค้าที่นั่งอยู่เคาน์เตอร์ของตนที่มาขอแลกเงิน อีกทั้งขณะเกิดเหตุเป็นช่วงเวลากลางวัน ส่วนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้ออกไปรับประทานอาหารข้างนอก ซึ่งขณะกำลังนั่งให้บริการลูกค้าอยู่นั้น มีชายทำทีเดินคุยโทรศัพท์อยู่ด้านหน้าธนาคาร และดูท่าทีมีพิรุธ ต่อมาไม่นานลูกค้ารายนี้ทำธุรกรรมทางธนาคารเสร็จก็ได้เดินออกไป
น.ส.ปิยนุช เล่าอีกว่า จากนั้นชายที่ยืนอยู่ด้านหน้าธนาคาร ซึ่งจดจำรูปพรรณได้เป็นชายรูปร่างท้วม สันทัด อายุประมาณ 30-35 ปี สวมหมวกกันน็อกแบบเต็มใบสีขาว ใส่เสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีครีม กางเกงยีนขายาวสีน้ำเงินปลายพับขึ้นมา สวมรองเท้าหนัง มีร่องรอยการเปราะเปื้อนดินโคลน สะพายกระเป๋าสีดำ เดินสวนกับลูกค้าแล้วเดินปรี่ตรงเข้ามาหา จึงบอกให้ถอดหมวกกันน็อกก่อน แต่ชายหนุ่มคนดังกล่าวกลับแสดงตัวเป็นคนร้ายทันที่ โดยปิดกระจกหมวกกันน็อกเพื่อบดบังหน้าตัวเอง แล้วชักอาวุธปืนแบบออโตเมติก สีดำ ไม่ทราบขนาด ออกมาจากเอว ส่องปากกระบอกปืนแล้วพูดว่าเอาเงินมา ด้วยความตกใจจึงหยิบเงินให้ไป 1 ปึก เป็นเงินจำนวน 120,000 บาท แต่คนร้ายยังไม่พอใจบอกให้ส่งเงินที่เหลือมาให้หมด จึงกวาดเงินในลิ้นชักส่งไปให้อีกจำนวนหนึ่ง รวมเงินที่คนร้ายได้ไปจำนวนทั้งหมด 130,180 บาท คนร้ายเอาเงินใส่กระเป๋าสะพายสีดำ จากนั้นก็วิ่งไปขับขี่รถ จยย.ฮออด้า รุ่นเวฟ สีเขียว จำทะเบียนได้แค่ตัวเลขคือ 432 ที่จอดอยู่ด้านข้างธนาคารหลบหนีไปทางถนนร่มเกล้าขาออก มุ่งหน้าไปทางลาดกระบัง
ด้าน พล.ต.ต.อนุชัย เปิดเผยว่า คนร้ายคาดว่าเป็นมืออาชีพ โดยอาศัยช่วงจังหวะโอกาสที่พนักงานธนาคารอยู่น้อยและลูกค้าก็มีน้อย เพราะเป็นช่วงเวลาพักเที่ยง รปภ.ไปรับประทานข้าว ทำที่มายืนโทรศัพท์ดูลาดเลาแล้วลงมือก่อเหตุอย่างง่ายดาย โดยใช้เวลาเพียง 25 วินาที นอกจากนี้จากการตรวจสอบธนาคารที่เกิดเหตุนี้เพิ่งเปิดทำการเมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา ระบบการรักษาความปลอดภัยยังไม่เข้าที่ ซึ่งการสืบสวนจับกุมคนร้ายคงจะตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่เกิดเหตุที่จับภาพคนร้ายไว้ได้ แล้วตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียง และเส้นทางการหลบหนี เพื่อติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น