วันนี้ ( 1 ม.ค.) ร.ต.ต.มาโนช สุขโชติ รอง สว.จร.สน.ลุมพินี ขณะปฏิบัติหน้าที่อยู่ได้รับแจ้งเหตุถนนทรุดตัวขนาดใหญ่ โดยมีรถประจำทางตกหล่ม บริเวณด้านข้างอาคารกรุงศรีอยุธยา สำนักงานเพลินจิต ถนนวิทยุขาเข้าก่อนถึงแยกเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน จึงประสานผู้บังคับบัญชาให้รับทราบก่อนรุดไปตรวจสอบ พร้อมประสานรถยก ขสมก. และเจ้าหน้าที่การประปานครหลวง
ที่เกิดเหตุเป็นพื้นผิวถนน 5 เลน บริเวณเลนซ้ายสุดก่อนถึงแยกดังกล่าว พบรถประจำทาง ขสมก.สาย 13 ยี่ห้อมิสซูบิชิ สีครีมแดง หมายเลขทะเบียน 11-9379 กรุงเทพมหานคร เลขข้างรถ 4-80369 วิ่งระหว่างคลองเตย-ห้วยขวาง จอดอยู่ บริเวณล้อหลังทั้ง 2 ข้าง ตกหล่มลงไปในร่องถนนซึ่งได้ทรุดตัวลงไป กว้างประมาณ 1 เมตร ยาว 3 เมตร และลึกกว่า 1 เมตร ทำให้รถไม่สามารถขยับได้ จากการตรวจสอบก่อนเกิดเหตุมีผู้โดยสารกว่า 10 ราย ต่างตื่นตกใจรีบต้องวิ่งลงจากรถแต่ไม่มีผู้ใดได้รับอันตรายจากเหตุการณ์ในครั้งนี้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการติดต่อรถยกจากศูนย์ซ่อมเร่งด่วน ขสมก.และหน่วยช่างของการประปานครหลวง มาช่วยกันลากรถขึ้นจากหล่ม จากนั้นจะทำการเร่งซ่อมแซมสภาพถนนให้สมบูรณ์ก่อนจะถึงวันพรุ่งนี้ (2 ม.ค.) หลังจากเป็นวันหยุดยาวในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2556 จากการสอบถาม นายชูศิลป์ ถิ่นจันทร์ อายุ 44 ปี โชเฟอร์รถคันดังกล่าว เผยว่า ก่อนเกิดเหตุวิ่งรถออกจากอู่คลองเตย โดยได้รับผู้โดยสารระหว่างทางประมาณ 10 คน เพื่อจะมุ่งหน้าไปย่านห้วยขวาง ขณะที่รถขับผ่านจุดดังกล่าวก่อนถึงแยกเพลินจิตเพียง 10 เมตรทันใดนั้น ก็ได้ยินเสียงพื้นถนนแตกดังสนั่นจากนั้นล้อหลังทั้ง 2 ข้าง ก็ติดหล่มทีแรกตนนึกว่ารถตกหลุมธรรมดา เลยพยายามเร่งเครื่องให้พ้นแต่ไม่สามารถเดินหน้าหรือถอยหลังได้ จึงลงไปตรวจสอบพบว่าเป็นเหตุถนนทรุด จึงตัดสินใจโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และประสาน ขสมก.ต้นสังกัดให้ทราบเพื่อหาทางแก้ปัญหา
นายสัมฤทธิ์ กันภัย อายุ 55 ปี รปภ.ของธนาคารกรุงศรี ฯ เผยว่า ช่วงเวลาประมาณ 08.00 น.ที่ผ่านมา ตนสังเกตเห็นน้ำประปาไหลออกมาจากตะแกรงระบายน้ำใต้บาทวิถีจุดดังกล่าว ขณะที่มีบางส่วนพวยพุ่งออกมาจากใต้พื้นถนนพร้อมทรายกรวดจำนวนหนึ่ง แต่ไม่ได้เอะใจอะไรคิดว่าเป็นเหตุท่อประปาใต้พื้นดินแตกเดี๋ยวหน่วยงานที่รับผิดชอบคงมาซ่อมแซมเอง กระทั่งมีคนมาบอกว่ารถประจำทางติดหล่มจึงรีบออกมาดูคาดว่าน่าจะเป็นเรื่องของท่อแตกทำให้น้ำเกิดการกัดเซาะดินทรายใต้พื้นถนนจนทรุดตัวในที่สุด
ด้าน นายสำเริง ทองศิริ อายุ 47 ปี ตำแหน่งนายช่าง 3 การประปานครหลวง สาขาแม้นศรี ซึ่งเดินทางมาพร้อมช่างหน่วยซ่อม เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบ เบื้องต้นพบปัญหาท่อประปาพีวีซี พลาสติก ขนาด 12 นิ้ว หรือ 300 ซีซี แตก อยู่ใต้พื้นถนนจนทำให้เกิดเรื่องขึ้น ซึ่งท่อดังกล่าวเป็นท่อที่วางมาได้ประมาณ 5-6 ปีแล้ว หลังจากนี้จะต้องทำการปิดวาล์วน้ำและเร่งทำการสูบน้ำที่ขังอยู่ในหลุมออกให้หมด ก่อนทำการซ่อมแซมท่อจุดที่เกิดปัญหาและรีบนำหินกรวดมาถมทับเพื่อให้ถนนพร้อมใช้งาน คาดว่าทุกอย่างจะเสร็จเรียบร้อยเย็นวันนี้
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น