เมื่อวันที่ 1 ต.ค. ที่ห้องพิจารณาคดี 814 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลอาญานัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีที่พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เป็นจำเลย ในคดีหมิ่นเบื้องสูงหมายเลขดำที่ 2066/2553 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทย์ยื่นฟ้องนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรา 8 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
กรณีเมื่อวันที่ 20 ก.ค. 2551 จำเลยนี้ได้ขึ้นปราศรัยบนเวทีปราศรัยกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย บริเวณเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ ด้วยการกระจายเสียงเครื่องขยายเสียง ท่ามกลางประชาชนที่มาฟังจำนวนหลายคน มีการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี และทางอินเตอร์เน็ต โดยผ่านทางเว็ปไซด์ของเอเอสทีวีให้ประชาชนทั้งคนไทยและต่างชาติได้รับชมและรับฟังทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ มีข้อความซึ่งจำเลยนำเอาคำปราศรัยของ น.ส.ดารณี ชาญเชิงศิลปะกุล ที่พูดบนเวทีปราศรัยที่ท้องท้องสนามหลวง อันเป็นการพูดที่มีถ้อยคำหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือ แสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์มาพูดซ้ำ อาจทำให้ประชาชนเข้าใจผิด เหตุเกิดที่แขวง-เขต ดุสิต กทม. ขอให้ลงโทษตามรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาญาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรา 8 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งจำเลยให้การปฏิเสธ คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ต่อมาโจทก์ยื่นอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ประชุมตรวจสำนวนแล้วเห็นว่า คดีมีประเด็นต้องวินิจฉัยว่าจำเลยมีเจตนาดูหมิ่นใส่ร้ายอาฆาต สถาบันหรือไม่ เห็นว่า ข้อเท็จจริงที่โจทก์จำเลยโต้แย้งกันในศาลล่างฟังได้ว่า จำเลยนำคำพูดของน.ส.ดารณี หรือ ดา ตอร์ปิโด พูดพาดพิงสถาบัน มาพูดที่เวทีพันธมิตรฯ ซึ่งเป็นการนำคำพูดมาหมิ่นประมาทซ้ำ ที่จำเลยอ้างว่าไม่เจตนา แต่เอาคำพูดมาพูดซ้ำก็เพื่อให้เห็นถึงการดำเนินคดีกับน.ส.ดารณี หรือ ดา ตอร์ปิโด ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยไม่มีความจำเป็นต้องเอาเนื้อหามาถ่ายทอดพูดซ้ำในที่สาธารณะ เพราะคนไทยบางส่วนไม่ทราบว่า น.ส.ดารณี หรือ ดา ตอร์ปิโด พูดอย่างไร ก็มาทราบจากการที่จำเลยพูด ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ ส่งผลกระทบต่อสถาบัน อันเป็นการกระทำที่ไม่ระวังระวังอย่างเพียงพอ การกระทำเป็นการครบองค์ประกอบความผิดแล้ว จึงเป็นความผิดฐานดูหมิ่นสถาบันฯ ตาม ป.อาญามาตรา112 ลงโทษจำคุก 3 ปี แต่คำให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษ 1ใน 3 คงจำคุก 2 ปี ทั้งนี้ทนายความได้นำหลักทรัพย์ดำเนินการยื่นขอประกันตัวต่อศาลต่อไป.
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น