เมื่อเวลา 15.30 น. วันนี้ ( 30 ธ.ค. ) ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดราชบุรี รายงานข่าวด่วนเข้ามาว่า เกิดเหตุคนร้าย 3 คน ซึ่งเป็นนักโทษในเรือนจำกลางเขาบิน จ. ราชบุรี ประกอบด้วย นช.สุทธิรักษ์ แสงอาทิตย์ อดีตตำรวจ นช.รณชัย ศรีปานแก้ว ทั้งคู่ต้องโทษคดียาเสพติด และ นช.ประสิทธิ์ แสนสบาย ต้องโทษคดีฆ่าคนตาย ที่ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต ถูกคุมขังอยู่ในแดน 6 พยายามหลบหนีออกจากเรือนจำ โดยขับรถแทรกเตอร์ที่ใช้งานภายในเรือนจำ พุ่งชนกำแพงเรือนจำ แต่ผู้คุมเห็นเหตุการณ์จึงเข้าห้ามปรามและระงับเหตุ
ทำให้นักโทษทั้ง 3 คน ฉวยโอกาสใช้มีดและเหล็กแหลมเป็นอาวุธ จี้บังคับนายสุเทพ จ้อยศรีเกษ ผู้คุมเป็นตัวประกัน ล่าสุดตำรวจชุดปราบจรจล สภ.เมืองราชบุรี ระดมกำลังหลายร้อยนายเร่งเข้าพื้นที่ เพราะเกรงว่าจะเกิดเหตุบานปลายทำให้นักโทษคนอื่นๆก่อเหตุจลาจลเพื่อแหกคุก ล่าสุดนายสุรชัย พุ่มแก้ว ผบ.เรือนจำกลางจังหวัดราชบุรี นายธนวีรย์ ประวัติ ผบ.เรือนจำกลางเขาบิน ได้เข้าเจรจากับนักโทษทั้ง 3 คน ขอให้ปล่อยตัวผู้คุมและให้เสนอข้อเรียกร้อง โดยนักโทษได้ยื่นคำขาดให้เปิดทางหนี ทำให้ผลการเจรจาจึงไม่สำเร็จต่อมานายกอบเกียรติ กสิวิวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ได้ประสานกำลังตำรวจร่วมกับเจ้าหน้าที่เรือนจำกว่าร้อยนายเข้าควบคุมสถานการณ์ทั้งในและนอกเรือนจำไว้แล้ว ขณะนี้ผ่านไปกว่า 1 ชั่วโมง ผู้ต้องขังทั้ง 3 รายยังคงควบคุมตัวผู้คุมไว้ที่อาคารที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างเป็นแดนควบคุมพิเศษภายในเรือนจำกลางเขาบิน โดยยังไม่มีรายงานว่ามีการทำร้ายผู้คุม
สำหรับมาตรการควบคุมสถานการณ์ขณะนี้จะยังใช้วิธีการเจรจาเกลี้ยกล่อม ยังไม่ใช้วิธีเข้าปราบปรามแม้จะมีกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมแต่ไม่ต้องการให้เกิดการบาดเจ็บ เชื่อว่าสุดท้ายผู้ต้องขังทั้ง 3 รายจะอ่อนแรงไปเอง เนื่องจากไม่มีทั้งน้ำและอาหาร อาวุธที่ใช้มีเพียงเหล็กแหลม พื้นที่อาคารที่หลบอยู่ก็เป็นอาคารร้าง ไม่มีคนงานก่อสร้าง ดังนั้นเหตุการณ์จึงถูกควบคุมไว้ในพื้นที่จำกัด ไม่มีโอกาสลุกลาม ส่วนผู้ต้องขังรายอื่น ๆ ในเรือนจำได้ขึ้นเรือนนอนทั้งหมดแล้ว สำหรับผู้ต้องขังที่ก่อเหตุทั้ง 3 ราย ยังไม่ได้รับรายงานว่าเป็นกลุ่มผู้ต้องขังที่มีพฤติกรรมเป็นกลุ่มหัวโจกหรือไม่
นอกจากนี้ได้รับรายงานด้วยว่า ผู้ต้องขังทั้ง 3 ราย ได้วางแผนจะเข้าไปใช้บันไดภายในอาคารที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างเพื่อปีนกำแพงหลบหนี แต่ไม่สามารถหลบหนีได้จึงจับผู้คุมเป็นตัวประกัน ช่วงเกิดเหตุเพื่อนผู้ต้องขังอื่นไม่ได้ร่วมก่อเหตุชุลมุน ทำให้สามารถควบคุมเหตุการณ์ไว้ได้ระดับหนึ่ง จากนั้นผู้ต้องขังทั้ง 3 รายจึงจับตัวผู้คุมเป็นตัวประกันและนำตัวเข้าไปภายในอาคารร้างที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง จึงส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปปิดล้อมจุดเกิดเหตุและเรียกกำลังเจ้าหน้าที่เข้ามาเสริม
โดยเหตุการณ์นี้เรือนจำให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่มากที่สุด อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าเรือนจำกลางเขาบินเป็นเรือนจำความมั่นคงสูง มีกำแพงและระบบรักษาความปลอดภัยแน่นหนา มีระบบตัดสัญญาณโทรศัพท์มือถือ“การจับตัวผู้คุมเป็นตัวประกันเป็นเหตุการณ์ครั้งแรกที่เคยเกิดขึ้นในเรือนจำกลางเขาบิน เบื้องต้นคาดว่าผู้ต้องขังที่ก่อเหตุเป็นผู้ต้องขังคดียาเสพติด ที่พยายามหลบหนีเพราะคิดว่าเป็นช่วงวันหยุดยาว เรือนจำมีกำลังเจ้าหน้าที่ประจำการน้อย แต่เมื่อหลบหนีไม่ได้จึงใช้ไม้และเหล็กแหลมที่หาได้ภายในเรือนจำจับตัวผู้คุม” นายกอบเกียรติ กล่าว
กระทั่งเวลา 18.40 น. พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยทางโทรศัพท์ว่า ในเบื้องต้นได้รับรายงานจากผบ.เรือนจำกลางเขาบิน จ.ราชบุรี ว่าล่าสุดได้ปฏิบัติปิดล้อมผู้ต้องขัง 3 ราย ที่จับผู้คุมเป็นตัวประกันจบลงแล้ว โดยปฏิบัติการดังกล่าวมีผู้ต้องขัง 2 รายเสียชีวิต ส่วนนายนช.สุทธิรักษ์ ขอมอบตัว โดยผู้คุมปลอดภัย
ทั้งนี้มีรายงานข่าวแจ้งว่า สาเหตุที่มีการวิสามัญนักโทษ ทั้งที่แต่เดิมจะใช้วิธีเจรจาเกลี้ยกล่อมจนนักโทษอ่อนแรงไปเอง เนื่องจากเห็นว่า ใช้เวลาเจรจาอยู่นานอีกมืดค่ำแล้ว หากปล่อยให้สถานการณ์ยิ่งเนิ่นนาน จะส่งผลต่อความปลอดภัยของผู้คุมและอาจจะเกิดเหตุจลาจลในเรือนจำได้ โดยเจ้าหน้าที่ไม่ยอมให้รายละเอียดในการปฎิบัติการครั้งนี้ ซึ่งก่อนที่นักโทษจะเสียชีวิตได้มีเสียงปืนดังขึ้นกว่า 20 นัด รวมทั้งนักโทษชายสุทธิรักษ์ ที่เข้ามอบตัวอยู่ในสภาพบาดเจ็บมีเลือดไหลนองจากการทุบตีตามลำตัว
ต่อมาเวลา 19.40 น. พล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผบช.ภ.7 เปิดแถลงข่าวที่หน้าเรือนจำหลังปฏิบัติการวิสามัญฯครั้งนี้ว่า ระหว่างปิดล้อมกดดัน นช.สุทธิรักษ์ ตัดสินใจเข้ามอบกับเจ้าหน้าที่ก่อน แต่ขณะควบคุมตัวออกมานั้น ผู้คุมต่างโกรธแค้นจึงเข้ารุมประชาทัณฑ์จนบาดเจ็บสาหัส ส่วนนช.อีก 2 คน ชุดปฎิบัติการได้พยายามเจรจาให้มอบตัว แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ แถมยังใช้มีดเชือดคอตัวประกันและแทงตามลำตัวอีกหลายแผล จนตัวประกันส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดอยู่ภายในอาคารก่อสร้าง ทำให้ชุดปฎิบัติการตัดสินใจบุกเข้าชาร์จและวิสามัญฯ 2 นช. แต่ก็น่าเสียใจที่ไม่สามารถช่วยชีวิตผู้คุมได้ เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บสาหัสจึงเสียชีวิตในที่เกิดเหตุอย่างน่าสะเทือนใจ ขณะนี้กำลังรอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาพิสูจน์ศพผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น