ครบ 1 เดือนเต็ม การสูญหายของ "นายวิโรจน์ โภคทรัพย์" หลังถูกรถยนต์ชนลากหายไร้วี่แววครอบครัวนอนไม่หลับ ต้องการกระดูกมาทำบุญ หวังเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามเปิดกล้องวงจรปิด หลังมีคนพบเห็นรถกระบะมีคอกเหล็ก ชนลากศพห้อยโตงเตงไปถึงพื้นที่ อ.สังขะ เพื่อคลี่ปมว่าอำพรางศพไว้ที่ใด
วันนี้ (19 ส.ค.55) ที่ จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่นายวิโรจน์ โภคทรัพย์ อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 84 บ้านปวงตึก หมู่11 ต.สลักได อ.เมือง จ.สุรินทร์ หายตัวไปตั้งแต่คืนวันที่ 19 ก.ค.55 หลังมีผู้พบเห็นว่า ได้เกิดอุบัติเหตุถูกรถเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ของนายวิโรจน์จนล้มลงที่บริเวณถนนสุรินทร์-สังขะ กม.6 ใกล้ปากทางเข้าหมู่บ้านปวงตึกฯ ซึ่งพลเมืองดีกำลังจะเข้าช่วยเหลือ แต่ไม่ทันการณ์ รถยนต์ที่วิ่งสวนมาด้วยความเร็ว ได้ชนลากหายตัวไปพร้อมกับความมืด หลังจากเกิดเหตุครอบครัวและญาติพี่น้องต่างได้พากันออกตามหาทุกแห่งหนแต่ก็ไร้วี่แวว จนถึงวันนี้ 19 ส.ค. เป็นวันที่ครบรอบ 1 เดือนเต็มของงการหายตัวไปของนายวิโรจน์ ซึ่งยังไร้วี่แวว ขณะที่ครอบครัวของผู้สูญหายก็ยังข่มตาไม่หลับ หวังเพียงลึกๆในใจว่านายวิโรจน์จะยังคงมีชีวิตอยู่ หรืออย่างน้อยก็ได้เพียงศพหรือกระดูกกลับมาทำบุญที่บ้านตามประเพณี
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านเลขที่ 84 บ้านปวงตึกหมู่ 11 ต.สลักได อ.เมือง จ.สุรินทร์ ของนายนายวิโรจน์ ได้พบกับนางสาวมาลี ช่อเพชร อายุ 49 ปี ภรรยา พร้อมด้วยลูกสาว ญาติพี่น้อง และเพื่อนบ้านจำนวนมาก ที่ยังคงเดินเข้ามาให้กำลังใจครอบครัวนายวิโรจน์ทุกวัน ตลอด 1 เดือนเต็มตั้งแต่นายวิโรจน์หายตัวไป ซึ่งทุกคนยังคงรอความหวังว่าจะได้พบศพหรือกระดูกนายวิโรจน์กลับคืนมาทำบุญตามประเพณีและคาดหวังว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะติดตามคดี และประสานเพื่อขอเปิดดูกล้องวงจรปิดเพื่อติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฏหมายให้ได้ เพราะทราบข่าวว่ามีคนพบเห็นรถกระบะสีแดง มีคอกหรือกรงเหล็กที่กระบะหลัง ลากศพห้อยโตงเตงด้านหลังรถเข้าไปในพื้นที่ อ.สังขะ ซึ่งอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุกว่า 60 กิโลเมตร อีกทั้งเพื่อคลี่ปมการสูญหายว่ารถคันดังกล่าวนำศพไปอำพรางไว้ที่ใด
ทางด้าน นางสาวมาลี ช่อเพชร อายุ 49 ปี ภรรยายนายวิโรจน์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้ทำบุญไปแล้ว 1 ครั้ง ทุกวันนี้ยังคงนอนไม่หลับ และยังทำใจไม่ได้ ในใจลึกๆ ยังคาดหวังว่าสามีจะยังมีชีวิตอยู่ และหากเสียชีวิตแล้วก็ยังคงคาดหวังว่าจะได้พบศพหรือนำกระดูกกลับมาทำบุญที่บ้าน ซึ่งความหวังสุดท้ายก็คงต้องพึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าของคดี โดยเฉพาะกล้องวงจรปิดที่อาจจะนำไปสู่การคลี่คลายปม.
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านเลขที่ 84 บ้านปวงตึกหมู่ 11 ต.สลักได อ.เมือง จ.สุรินทร์ ของนายนายวิโรจน์ ได้พบกับนางสาวมาลี ช่อเพชร อายุ 49 ปี ภรรยา พร้อมด้วยลูกสาว ญาติพี่น้อง และเพื่อนบ้านจำนวนมาก ที่ยังคงเดินเข้ามาให้กำลังใจครอบครัวนายวิโรจน์ทุกวัน ตลอด 1 เดือนเต็มตั้งแต่นายวิโรจน์หายตัวไป ซึ่งทุกคนยังคงรอความหวังว่าจะได้พบศพหรือกระดูกนายวิโรจน์กลับคืนมาทำบุญตามประเพณีและคาดหวังว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะติดตามคดี และประสานเพื่อขอเปิดดูกล้องวงจรปิดเพื่อติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฏหมายให้ได้ เพราะทราบข่าวว่ามีคนพบเห็นรถกระบะสีแดง มีคอกหรือกรงเหล็กที่กระบะหลัง ลากศพห้อยโตงเตงด้านหลังรถเข้าไปในพื้นที่ อ.สังขะ ซึ่งอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุกว่า 60 กิโลเมตร อีกทั้งเพื่อคลี่ปมการสูญหายว่ารถคันดังกล่าวนำศพไปอำพรางไว้ที่ใด
ทางด้าน นางสาวมาลี ช่อเพชร อายุ 49 ปี ภรรยายนายวิโรจน์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้ทำบุญไปแล้ว 1 ครั้ง ทุกวันนี้ยังคงนอนไม่หลับ และยังทำใจไม่ได้ ในใจลึกๆ ยังคาดหวังว่าสามีจะยังมีชีวิตอยู่ และหากเสียชีวิตแล้วก็ยังคงคาดหวังว่าจะได้พบศพหรือนำกระดูกกลับมาทำบุญที่บ้าน ซึ่งความหวังสุดท้ายก็คงต้องพึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าของคดี โดยเฉพาะกล้องวงจรปิดที่อาจจะนำไปสู่การคลี่คลายปม.
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น