ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ
www.becomz.com

  • ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ รามคำแหง

    ซ่อมคอมถึงบ้าน,ซ่อมคอมพิวเตอร์ถึงบ้าน,ซ่อมคอมนอกสถานที่,ซ่อมคอมพิวเตอร์ นอกสถานที่,วางระบบอินเตอร์เน็ต,วางระบบแลน,ระบบเน็คเวิร์ค,เขียนโปรแกรมเว็บไซด์,ดูแลคอมพิวเตอร์แบบรายเดือน-รายปี,พร้อมบริการด้านไอทีจ่าย. สนใจติดต่อ 095-954-4524

  • หากคุณกำลังมองหาสถานที่ รับซ่อมคอมถึงที่

    ราคือหน่วยรับซ่อมคอมพิวเตอร์ถึงที่ ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน ที่ทำงาน บริษัท ห้าง ร้าน สถานสงเคราะห์ โรงเรียน โรงพยาบาล ฯลฯ เราจะไปบริการซ่อมให้ในราคาสุดประหยัด ถูกกว่ายกไปซ่อมที่ห้างหรือร้านซ่อมแน่นอน เนื่องจากทางร้านของเราไม่ต้องเสียค่าเช่าพื้นที่ จึงสามารถลดต้นทุนในส่วนนี้ได้. สนใจติดต่อ 095-954-4524

  • www.becomz.com ให้บริการถึงที่

    บริการซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ โดยไม่ต้องยก เครื่องคอมให้เหนื่อย หรือ เสียเวลา การทำงานของคุณ เรา คือ ทางออกสำหรับคุณ ที่จะไป บริการถึงบ้าน ที่บ้าน หรือ อ๊อฟฟิต ( office ) และ คอนโด อาพาทเม้น ทุกสถานที่ พร้อม ทั้ง ให้ บริการซ่อมคอมพิวเตอร์ 24 ชั่วโมง สำหรับ ลูกค้าบางท่านที่สะดวก. สนใจติดต่อ 095-954-4524

  • ค่าบริการ

    – ซ่อมโปรแกรม แก้ปัญหาด้านโปรแกรมทั่วไป เครื่องละ 500 บาท – เเละลง Driver 300 บาท รวมกับ ซ่อมปกติเป็น 700 บาท – อะไหล่เสีย จะแจ้งราคาอะไหล่ก่อนซ่อม (ลูกค้าสามารถจัดหาอะไหล่เองได้) เพื่อความมั่นใจ ซ่อมเสร็จเรารับประกันซอฟเเวร์ 7วัน พร้อมให้คำแนะนำ และบริการหลังซ่อม ตลอดการรับประกันน ติดตั้งให้ถึงที่ .สนใจติดต่อ 095-954-4524

  • รับซ่อมทุกปัญหา โทรมาคุยกันก่อนได้ครับ

    – บริการอัพเกรดเครื่อง แก้ปัญหาเครื่องช้า รวนบ่อย ค้างบ่อย – บริการติดตั้ง แก้ปัญหา ระบบคอมพิวเตอร์ ระบบแลน-อินเตอร์เน็ต – บริการลงวินโดว์, ลงโปรแกรม, แก้ไวรัส, แก้ปัญหาต่างๆ – บริการฝากซ่อม-เคลม อะไหล่คอมฯ และสินค้าไอที ทุกชนิด – บริการจัดสเป๊คเครื่อง จัดชุดคอมมือ1-2 พร้อมใช้งาน ติดตั้งให้ถึงที่ .สนใจติดต่อ 095-954-4524

วันอาทิตย์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ร้อยเวรเครียดคดีแหม่มออสซี่ขี่รถจยย.ชนตาย

จากกรณีสำนักข่าวต่างประเทศเผยคลิปวิดิโอรายการ A Current Affair ในชื่อตอน Tragedy in Thailand นำเสนอเรื่องราวของ คู่รักชาวออสเตรเลียที่เดินทางมาพักผ่อนที่เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา แต่เกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนท้ายรถจักรยานยนต์ของทั้งคู่เป็นเหตุให้แฟนสาวเสียชีวิต แต่ตำรวจกลับบังคับให้แฟนหนุ่มเซ็นเอกสารยินยอมว่าเป็นผู้ประมาทจนเกิดอุบัติเหตุเองนั้น
ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้นักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลีย ยกเลิกการเดินทางมาพักผ่อนที่เกาะสมุย แล้ว ซึ่งเหตุการณ์ นี้เกิดขึ้นเมื่อ เวลา 23.00 น.วันที่ 18 ตุลาคม ที่ผ่านมานาย จิมมี่ โรเบิร์ต คีทส์ อายุ 27 ปี สัญชาติออสเตรเลีย พร้อมด้วย น.ส.นิโคล ฟิกซิมอน อายุ 24 ปี สัญชาติเดียวกัน ผู้สื่อข่าวกีฬ่ของทีวีดังในประเทศออสเตรเลีย  ได้ขี่รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สีน้ำเงิน ทะเบียน ครท-856 สุราษฎร์ธานี  เมื่อมาถึงหน้าโรงแรมบัดดี้ หมู่ 3 ต.มะเร็ต อ.เกาะสมุย ทั้งสองซึ่งได้เปิดไฟเลี้ยว เพื่อเลี้ยวขวาเข้าที่พักในโรงแรม ได้เกิดเฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่ามีโอ ทะเบียน ควม-787 อุดรธานี ซึ่งมีนายก้องหล้า สาตื้อ อายุ 21 ปี  ทำให้รถล้มน.ส.นิโคล ได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
วันนี้ ( 1 ธ.ค.) ที่ สภ.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความเงียบเหงา เนื่องจากเป็นวันหยุดราชการด้วย แต่มีนายตำรวจระดับรอง ผกก.มานั่งทำงานเพื่อรอชี้แจง กับ พล.ต.ต.เกียรติพงศ์ ขาวสำอาง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ที่เดินทางมาตรวจสอบ ทั้งนี้ได้พบกับ  ร.ต.ท.ยศกร ทองนุ่น พนักงานสอบสวน สภ.บ่อผุด อ.เกาะสมุย เจ้าของคดี ซึ่งเป็นนายตำรวจ ใหม่ เปิดเผยว่า มารับตำแหน่งในตำแหน่งพนักงานสอบสวน เมื่อวันที่ 11 ต.ค.55 และในวันเกิดเหตุ หลังได้รับแจ้งมีเหตุรถชน จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ และได้ปฎิบัติตามขั้นตอนทุกอย่าง พร้อมได้บันทึกภาพระหว่างการตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ร.ต.ท.ยศกร ทองนุ่น เจ้าของคดีเปิดเผยด้วยการแบบเครียดๆว่า อยากจะทำคดีนี้ให้นี้ดีสุด เพราะเป็นคดีแรก ที่ตนได้เดินทางมาทำงาน ที่ สภ.บ่อผุด และอีกอย่างเป็นน้องใหม่ จึงต้องฟังคำสั่งหัวหน้าพนักงานสอบสวน และขั้นตอนในการดำเนินการสอบสวน คู่กรณี ทั้งสองฝ่ายในภายหลัง ตนไม่ได้เป็นคนสอบสวน
ผู้สื่อข่าว รายงานเพิ่มเติมว่า ในการตรวจสอบข้อเท็จจริง ทาง พล.ต.ท.ยงยุทธ เจริญวานิช ผบช.ภ 8 ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน ในเรื่องดังกล่าว โดยให้ พล.ต.ต.กิตติสัณห์ เดชสุนทรวัฒน์ รอง.ผบช.ภ. 8 พล.ต.ต.เกียรติพงศ์ ขาวสำอาง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี เป็นคณะกรรมการสอบสวน ในพื้นที่ ภาค 8 และ ให้ พ.ต.อ.วิทยา วังส์ด่าน ผกก.สภ.เกาะพะงัน มารักษาราชการแทน ร่วมตรวจสอบตรวจสอบข้อเท็จจริง และรื้อสำนวนการคดีทั้งหมดมาทำใหม่ เพื่อให้มีความโปร่งใสมากที่สุด
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก  ผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวบนเกาะสมุย เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลกระทบกับยอดการจองห้องพัก ในโรงแรมบนเกาะสมุย และโรงแรมบนเกาะพะงันแล้ว หลังจากที่ข่าวได้กล่าวได้ออกอากาศเผยแพร่ ที่ประเทศออสเตรเลีย เมื่อก่อนหน้านี้ และนักท่องเที่ยวที่จองห้องพักเอาไว้ ล่วงหน้าในช่วงเทศกาลคริสตมาส และเทศกาลปีใหม่ โดยนักท่องเที่ยวดังกล่าวได้ยกเลิกการเดินทางมาพักผ่อนในช่วงดังกล่าวจำนวนหนึ่ง
Share:

สลดจักรยานตกคลองพี่ชายรอดน้องวัย 3 ขวบดับ

เมื่อเวลา 20.00 น. วันนี้( 1 ธ.ค.) พ.ต.ต.พิพัฒน์ วรโชติศักดากร พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการ สน.บางเสาธง รับแจ้งมีเด็กพลัดตกลงไปในคลองบางเชือกหนัง ตรงข้ามบ้านเลขที่ 22/4  หมู่ที่ 2 แขวงบางเชือกหนัง เขตภาษีเจริญ จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต๊กตึ๊ง พร้อมทั้งประสานนักประดา ที่เกิดเหตุอยู่ห่างจากถนนกาญจนาภิเษก ประมาณ 100 เมตร เป็นกว้างประมาณ 10 เมตร ลึกประมาณ 4 เมตร พบ ด.ช.อรรถพล หรือดิว ดีสูงเนิน อายุ 13 ปี ยืนอยู่บนแท่งปูนในสภาพเนื้อตัวเปียกปอมมอมแมม ยืนร้องไห้ข้างจักรยาน  พร้อมกับบอกเจ้าหน้าที่ว่าน้องชายยังอยู่ในน้ำ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงทำการลงค้นหา โดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที ก็พบศพ ด.ช.อดิศร หรือพี ดีสูงเนิน อายุ 3 ปี
จาการสอบถาม ด.ช.อรรถพล กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุได้ปั่นจักรยานไปส่งเพื่อนซึ่งอยู่ภายในซอยเศรษฐี ห่างจุดเกิดเหตุประมาณ 100 เมตร โดยมีน้องชายนั่งอยู่เบาะสำหรับเด็กด้านหน้า ระหว่างทางกลับ พบว่าเป็นสะพานสูง และทราบว่ามีรถ จยย.พลัดตกลงไปหลายครั้ง จึงลงจากรถและจูงข้ามสะพานปูนจนผ่านมาได้สำเร็จ  แต่ขณะกำลังจะค่อมรถเพื่อปั่นต่อไปยังบ้านที่อยู่ติดกับถนนกาญจนาภิเษก รถเสียหลักทำให้ตกลงไปในคลองพร้อมน้องชายและจักรยาน ตนว่ายน้ำไม่เป็นได้พยายามตะเกียกตะกายหาที่เกาะร้องหาให้คนมาช่วย  ส่วนน้องและจักรยานได้จมหายไปต่อหน้าต่อตา
ด้านนายเด่นชัย เมฆสุวรรณ อายุ 43 ปี พลเมืองดีที่เหลือ ด.ช.อรรถพล กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุกำลังนั่งเล่นอยู่ในบ้าน จากนั้นได้ยินเสียงร้องเอะอะขอความช่วยเหลือ จึงออกมาดูก็พบ ด.ช. อรรถพล ร้องขอความช่วยเหลืออยู่ภายในคลองที่เกิดเหตุ จึงรีบกระโดดน้ำลงไปช่วยเหลือขึ้นมาอยู่บนฝั่ง จากนั้น ด.ช.อรรถพล บอกให้ช่วยน้องชายขึ้นมาด้วย จึงดำน้ำไปอีกครั้งพบเพียงจักรยาน จึงนำขึ้นมา แต่ไม่พบร่างของ ด.ช.อดิศร ด้วยความกลัวเนื่องจากกระแสน้ำไหลแรง จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือดังกล่าว
“สำหรับคลองดังกล่าวนั้นเพิ่งจะขุดลอกคลองเมื่อ 1 เดือนที่ผ่านมา และสะพานดังกล่าวชำรุดเรือหางยาวก็ไม่สามารถเข้ามากลับเรือได้ และยังมีอุบัติเหตุลักษณะเดียวกันอยู่หลายครั้ง จึงอยากฝากให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าเร่งซ่อมสะพานให้กลับมามีสภาพดีเหมือนเดิมด้วย” นายเด่นชัย กล่าว
Share:

3 ฝรั่งหนีฝ่าดงเท้าหนีโดดน้ำดับ

วันนี้ (2 ธ.ค.) พ.ต.ท.สงคราม ปั้นเอี่ยม พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งมีนักท่องเที่ยวชายชาวต่างชาติ 3 คนกระโดดน้ำทะเลลงไปลอยคออยู่กลางอ่าวพัทยา ตรงข้ามร้านอาหารตังเกซีฟู๊ด ในถนนวอล์คกิ้งสตรีท พัทยาใต้ หมู่ 10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง หลังรับแจ้งจึงประสานหน่วยกู้ภัยทางทะเลเมืองพัทยา นำกำลังพร้อมเรือยางรีบรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบพลเมืองดี นำเรือสปีดโบ๊ตขับไปช่วยเหลือมาขึ้นฝั่งได้ 1 คนในสภาพหมดสติ ไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ เจ้าหน้าที่พยายามปั๊มหัวใจช่วยเหลือแต่ก็ไม่เป็นผล เนื่องจากจมน้ำนาน ทราบชื่อภายหลังคือ นายมอลลอย แพทริก ลอว์เร้นซ์ อายุ 28 ปี สัญชาติอังกฤษ นอกจากนี้ยังพบเพื่อนของผู้ตาย 1 คนทราบชื่อภายหลังคือนายวิลส์ เจมส์ หลุยส์ อายุ 29 ปี สัญชาติอังกฤษ ว่ายน้ำหนีไปขึ้นเรือยอร์ชของนักท่องเที่ยวที่ลอยลำอยู่ห่างจากฝั่งประมาณ 500 เมตร ส่วนอีก 1 คนทราบชื่อนายรอบสัน เจรี่ อายุ 30 ปี สัญชาติเดียวกัน ลอยคออยู่ในทะเลห่างออกไปประมาณ 300 เมตร จึงรีบรุดนำเรือเร็วไปช่วยเหลือมาขึ้นฝั่งในสภาพอิดโรย สอบสวนเบื้องต้นทราบว่าทั้งหมดพักอยู่ที่โรงแรมฟลิปเปอร์ เฮ้าส์ ซอย 7 ถ.เลียบชายหาด
จากการสอบปากคำ นายฉัตรชัย จันทร์ศิริ อายุ 25 ปี อาชีพบาร์เทนเดอร์ที่ผับแห่งหนึ่งในถนนวอล์คกิ้งสตรีท ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุเห็นกลุ่มชายไทยประมาณ 5-6 คน วิ่งไล่ชาวต่างชาติทั้ง 3 คนซึ่งอยู่ในอาการมึนเมา ออกมาจากซอยโรงแรมมารีน สาเหตุเพราะชาวต่างชาติดังกล่าวไปทุบทำลายข้าวของของชาวบ้าน จากนั้นทั้ง 3 คนได้วิ่งเข้าไปในร้านตังเกซีฟู๊ดแล้วกระโดดลงน้ำทะเล และต่างคนต่างว่ายน้ำหนีไปคนละทิศละทาง กระทั่งนายมอลลอย หมดแรงว่ายไปเกาะกับเชือกของเรือบานาน่าโบ๊ต แล้วหมดสติจนจมน้ำเสียชีวิตดังกล่าว  ส่วนชายชาวต่างชาติอีก 2 คนซึ่งเป็นเพื่อนของผู้ตาย ชาวบ้านช่วยเหลือเอาไว้ได้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถสอบปากคำผู้บาดเจ็บได้ เนื่องจากยังอยู่ในอาการตกใจ ก่อนคุมตัวไปสอบปากคำ พร้อมจะตามตัวกลุ่มชายไทยมาร่วมสอบด้วย เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงและแจ้งข้อหาต่อไป.
Share:

รู้ชื่อฝรั่งถูกฆ่าบนเขาแล้วเป็นนักธุรกิจชาวฮังการี

วันนี้ ( 1 ธ.ค.) จากรณีพบผู้เสียชีวิตเป็นชายชาวต่างชาติถูกฆ่ายัดใส่ถุงพลาสติก ทิ้งไว้ในสวนยางพาราบนเทือกเขาป่าตอง หลังศาลเจ้าพ่อเสือ ซ.บางทอง ถนนวิชิตสงคราม ต.กะทู้ อ.กะทู้  จ.ภูเก็ต สภาพศพ นุ่งกางเกงในเพียงตัวเดียว ตามใบหน้าถูกทุบด้วยของแข็งและลำตัวถูกของมีคมกระหน่ำแทงหลายแห่ง เบื้องต้นคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 7 วัน ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าผู้เสียชีวิต คือ นายปีเตอร์ ไรท์ อายุ 46 ปี ชาวฮังการี  นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่พักในพื้นที่ ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งนายเอนดรอว์ บูดา ชาวฮังการี ได้เข้าแจ้งความ ที่ตำรวจท่องเที่ยว จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมา ว่าให้ช่วยติดตามตัวนายปีเตอร์ ไรท์ ซึ่งได้หนีความขัดแย้ง มาจากพื้นที่ อ.เกาะสมุย เข้ามาในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค. และได้เช่าบ้านอยู่ที่บ้านเลขที่ 1/30 หมู่ 3 ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต และขาดกันติดต่อกันเมื่อวันที่ 24 ต.ค.ที่ผ่านมา
 ต่อมา พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.วันชัย ปาละวัน ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต ,พ.ต.อ.ไกรทอง จันทร์ทองใบ ผกก.สภ.ทุ่งทอง นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ เจ้าหน้าที่กองพิสูจณ์หลักฐาน เข้าตรวจสอบบ้านเช่าเลขที่ 1/30 หมู่ 3 ต.ป่าคลอก เพื่อหาพยานหลักฐานว่าเกี่ยวข้องกับศพที่พบหรือไม่
จากการเข้าตรวจสอบพบว่าที่บ้านหลังดังกล่าวไม่มีคนอยู่ สอบถามเจ้าของบ้านเช่า พบว่าเป็นชาวต่างชาติได้มาเช่าเมื่อวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา ทราบเพียงชื่อ ปีเตอร์ โดยสังเกตุเห็นว่า นายปีเตอร์ได้หายไปตั้งแต่วันที่ 23 ต.ค. แต่ไม่ได้เอะใจ เนื่องจากคาดว่าจะออกไปท่องเที่ยว  ภายหลังเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ได้เข้าเก็บพยานหลักฐาน อาทิ เส้นผม เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับดีเอ็นเอของศพที่พบว่าตรงกันหรือไม่ เพื่อยืนยันตัวบุคคล
พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต กล่าวว่า ขณะนี้ค่อนข้างแน่ชัดว่าผู้เสียชีวิต คือ นายปีเตอร์ ไรท์ เนื่องจากมีพยานหลักฐานหลายอย่างสอดคล้องกัน รอเพียงผลการพิสูจณ์เอกลักษ์บุคคลอย่างเป็นทางการเท่านั้น ส่วนความขัดแย้งที่เป็นสาเหตุการเสียชีวิตนั้นได้ประสานไปยัง ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ในการเข้าสืบสวนหาสาเหตุความขัดแย้งที่เบื้องต้นพบว่า ก่อนที่นายปีเตอร์ จะหนีมาจากภูเก็ต ได้ถูกข่มขู่จากกลุ่มนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ด้วยกัน ซึ่งมีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต กล่าวต่อว่า ได้สั่งการให้ทุกพื้นที่ ของ จ.ภูเก็ต เร่งค้นหารถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีขาว แบบ 4  ประตู ซึ่งเป็นรถยนต์ของผู้ตาย ที่พบว่าได้หายไปหลังเกิดเหตุ ด้วยการตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าผู้ตายจะใช้เดินทาง โดยเฉพาะการออกจากห้องพักที่ ต.ป่าคลอก ไปยังพื้นที่ป่าตอง ขณะเดียวกันได้ประสานไปยังธนาคารเพื่อตรวจสอบบัญชี รวมถึงการเดินทางเข้าออกประเทศของผู้เสียชีวิตด้วย คาดว่าจะสามารถทราบเบาะแสได้ในเร็ว ๆ นี้
Share:

Disqus Shortname

Comments system

ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 095-954-4524

ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

Blog Archive

Post Top Ad

คลังบทความของบล็อก

Author Details

Menu - Pages

Business

Random Posts

Recent

Popular

Blog Archive