ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ
www.becomz.com

  • ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ รามคำแหง

    ซ่อมคอมถึงบ้าน,ซ่อมคอมพิวเตอร์ถึงบ้าน,ซ่อมคอมนอกสถานที่,ซ่อมคอมพิวเตอร์ นอกสถานที่,วางระบบอินเตอร์เน็ต,วางระบบแลน,ระบบเน็คเวิร์ค,เขียนโปรแกรมเว็บไซด์,ดูแลคอมพิวเตอร์แบบรายเดือน-รายปี,พร้อมบริการด้านไอทีจ่าย. สนใจติดต่อ 095-954-4524

  • หากคุณกำลังมองหาสถานที่ รับซ่อมคอมถึงที่

    ราคือหน่วยรับซ่อมคอมพิวเตอร์ถึงที่ ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน ที่ทำงาน บริษัท ห้าง ร้าน สถานสงเคราะห์ โรงเรียน โรงพยาบาล ฯลฯ เราจะไปบริการซ่อมให้ในราคาสุดประหยัด ถูกกว่ายกไปซ่อมที่ห้างหรือร้านซ่อมแน่นอน เนื่องจากทางร้านของเราไม่ต้องเสียค่าเช่าพื้นที่ จึงสามารถลดต้นทุนในส่วนนี้ได้. สนใจติดต่อ 095-954-4524

  • www.becomz.com ให้บริการถึงที่

    บริการซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ โดยไม่ต้องยก เครื่องคอมให้เหนื่อย หรือ เสียเวลา การทำงานของคุณ เรา คือ ทางออกสำหรับคุณ ที่จะไป บริการถึงบ้าน ที่บ้าน หรือ อ๊อฟฟิต ( office ) และ คอนโด อาพาทเม้น ทุกสถานที่ พร้อม ทั้ง ให้ บริการซ่อมคอมพิวเตอร์ 24 ชั่วโมง สำหรับ ลูกค้าบางท่านที่สะดวก. สนใจติดต่อ 095-954-4524

  • ค่าบริการ

    – ซ่อมโปรแกรม แก้ปัญหาด้านโปรแกรมทั่วไป เครื่องละ 500 บาท – เเละลง Driver 300 บาท รวมกับ ซ่อมปกติเป็น 700 บาท – อะไหล่เสีย จะแจ้งราคาอะไหล่ก่อนซ่อม (ลูกค้าสามารถจัดหาอะไหล่เองได้) เพื่อความมั่นใจ ซ่อมเสร็จเรารับประกันซอฟเเวร์ 7วัน พร้อมให้คำแนะนำ และบริการหลังซ่อม ตลอดการรับประกันน ติดตั้งให้ถึงที่ .สนใจติดต่อ 095-954-4524

  • รับซ่อมทุกปัญหา โทรมาคุยกันก่อนได้ครับ

    – บริการอัพเกรดเครื่อง แก้ปัญหาเครื่องช้า รวนบ่อย ค้างบ่อย – บริการติดตั้ง แก้ปัญหา ระบบคอมพิวเตอร์ ระบบแลน-อินเตอร์เน็ต – บริการลงวินโดว์, ลงโปรแกรม, แก้ไวรัส, แก้ปัญหาต่างๆ – บริการฝากซ่อม-เคลม อะไหล่คอมฯ และสินค้าไอที ทุกชนิด – บริการจัดสเป๊คเครื่อง จัดชุดคอมมือ1-2 พร้อมใช้งาน ติดตั้งให้ถึงที่ .สนใจติดต่อ 095-954-4524

วันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

บุกปล้ำสาวแม่ลูกอ่อนก่อนหนีลงสระน้ำดับ

เมื่อเวลา 08.00 น. วันนี้ (25 พ.ย.) พ.ต.ท.เดชบัณฑิต ดุลย์เกรี พนักงานสอบสวน สภ.สวี จ.ชุมพร รับแจ้งจาก นายเจิมศักดิ์ ชื่นเกาะสมุย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 ต.วิสัยใต้ อ.สวี ว่า มีคนจมน้ำในสระน้ำของหมูบ้าน ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา จนขณะนี้ยังไม่พบตัว จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม แพทย์ รพ.สวี หน่วยกู้ภัยสายชล และเจ้าหน้าที่ชุดประดาน้ำ
ที่เกิดเหตุเป็นสระกว้างประมาณ 100 เมตร ยาวกว่า 700 เมตร และลึกประมาณ 5 เมตร อยู่บริเวณถนนสายหมู่บ้านเขาชันโต๊ะ-สำนักสงฆ์เขาหลัก เจ้าหน้าที่ชุดประดาน้ำลงงมหาร่างผู้สูญหายนานกว่า 1 ชม. จึงพบศพ นายชัยธวัช บัวบาน อายุ 45 ปี อาชีพรับจ้างทั่วไป ตรวจสอบสภาพศพไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 ชม.
สอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า ช่วงหัวค่ำวานนี้ผู้ตายได้ทะเลาะกันกับภรรยา จึงออกมาจากบ้านมานั่งดื่มสุราที่งานทำบุญฉลองขึ้นบ้านใหม่ของเพื่อนบ้าน ที่อยู่ห่างไปประมาณ 1 กม. พอตกดึกผู้ตายได้แอบปีนหน้าต่างเข้าไปจะปลุกปล้ำลูกสาวเจ้าของบ้าน ซึ่งเป็นสาวแม่ลูกอ่อน แต่ฝ่ายหญิงพยายามต่อสู้ขัดขืนร้องตะโกนให้คนช่วย ด้วยความตกใจจึงวิ่งหลบหนีกระโดดลงสระน้ำ แต่เนื่องจากอยู่ในอาการมึนเมาสุรา จึงไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ทำให้จมน้ำเสียชีวิต.
Share:

ฆ่าโหดหนุ่มนิรนามไฟฟ้าช็อต-เชือดคอซ้ำ

เมื่อเวลา 07.30 น. วันนี้ (25 พ.ย.) ร.ต.ท.ยศกร ทองนุ่น พนักงานสอบสวน สภ.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งพบศพถูกฆาตกรรมมาทิ้งในบ่อดินลูกรัง พื้นที่ หมู่ 2 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อม พ.ต.อ.สำราญ มาเจริญ ผกก. ฝ่ายสืบสวน และหน่วยกู้ภัยกุศลสงเคราะห์เกาะสมุย
ที่เกิดเหตุอยู่ห่างจากถนน สายแยกบ่อนไก่–วัดพังบัว ประมาณ 50 เมตร พบศพชายไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 20-25 ปี สภาพถูกห่อด้วยผ้าปูที่นอนสีขาว ทิ้งอยู่ริมบ่อดินลูกรัง ที่หน้าอกของศพมีรอยสักรูปมังกร และคำว่า “เดียวดาย” ส่วนที่หน้าอกข้างซ้ายมีรอยไหม้เกรียมคล้ายถูกไฟฟ้าช็อต ที่ลำคอถูกเชือดลึกถึงหลอดลม  และแขนข้างขวามีรอยถูกฟันด้วยของมีคม คาดว่าเสียชีวิตมาแล้ว 10 ชั่วโมง
ตรวจสอบภายในตัวพบเงินสด 120 บาท ใบเสร็จซื้อของจากร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง และกุญแจรถจักรยานยนต์ 1 ดอก ห่างไปเล็กน้อยพบซองบุหรี่ และไฟแช็กแก๊สตกอยู่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่า ผู้ตายน่าจะถูกฆ่ามาจากที่อื่น โดยคนร้ายน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 2 คน และอาจมีการทรมานด้วยการใช้ไฟฟ้าช็อต เพื่อให้ผู้ตายเปิดเผยเรื่องบางอย่าง ก่อนจะถูกเชือดคอและฟันซ้ำจนเสียชีวิต แล้วห่อศพมาโยนทิ้งอำพราง ส่วนสาเหตุ น่าจะมาจาก เรื่องหักหลังธุรกิจไม่เปิดเผยบางอย่าง และเรื่องชู้สาว อย่างไรก็ดีได้ให้ฝ่ายสืบสวนเร่งตรวจสอบหาว่าผู้ตายเป็นใครมาจากไหน เพื่อเป็นเบาะแสในการติดตาม
Share:

รวบโจรกระตุกหนวดเสือลักทรัพย์แฟลตทหาร-ตำรวจ

วันนี้ (21 พ.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ พล.ต.ต.มานิต วงศ์สมบูรณ์ รองผบช.น. พล.ต.ต.สุธีร์ เนรกัณฐี ผบก.น.2 พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รองผบก.น.2 พ.ต.ท.สิทธิชัย ธัญญาบาล พ.ต.ท.ชัยพันธ์ เพ็ชรสดศิลป์ สว.สส.สน.บางซื่อ ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมตัวนายนัฐพงศ์ หรืออาร์ท จันทร์จรัสสุข อายุ 32 ปี นายวุฒิชัย หรือกอล์ฟ คานพรม อายุ 29 ปี และน.ส.สุนิสา หรือนิ่ง คำงาม อายุ 21 ปี พร้อมของกลางทรัพย์สินมีค่าต่างๆรวมกว่า 316 รายการ ไขควงปากแบน 1 อัน ยาบ้า 1 เม็ด และรถจยย.หมายเลขทะเบียน สขค 375 กรุงเทพมหานคร 1 คัน โดยจับกุมนายนัฐพงษ์ได้ที่ซอยอินทามระ 8 ถนนสุทธิสารวินิจฉัย แขวงสามเสนใน เขตพญาไท ก่อนขยายผลไปจับกุมนายวุฒิชัยและน.ส.สุนิสาได้ที่บริเวณห้องพัก รัศมีแมนชั่น ซอยวิภาวดีรังสิต 3 แขวงจอมพล เขตจตุจักร

พล.ต.ต.สุธีร์ เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 20 พ.ย. ที่ผ่านมา ฝ่ายสืบสวนสน.บางซื่อ ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายนัฐพงษ์ ได้ภายในซอยอินทามระ 8 ขณะที่กำลังใช้คีมตัดเหล็กและไขควงตัดประตูบ้านของประชาชน เพื่อเข้าไปลักทรัพย์ จากนั้นได้สอบสวนขยายผลไปจับกุมผู้ร่วมขบวนการได้อีก 2 ราย คือนายวุฒิชัยและน.ส.สุนิสา ส่วนนายวสันต์ หรือตั้ม เทพนม หลบหนีไปได้ จากการสอบปากคำพบว่ากลุ่มผู้ต้องหาก่อเหตุลักทรัพย์มาแล้วหลายพื้นที่ทั้งสน.บางซื่อ สน.ดุสิต โดยจะเลือกห้องพักของแฟลตตำรวจและบ้านพักข้าราชการทหารที่ไม่มีคนอยู่ ทุกครั้งที่ออกก่อเหตุนายนัฐพงษ์และนายวสันต์จะเป็นคนงัดแงะห้องพักเข้าไปรื้อค้นทรัพย์สิน ส่วนนายวุฒิชัยทำหน้าที่ขับรถจยย.ไปส่งและรับกลับไปแบ่งทรัพย์สินกันภายในห้องพักที่รัศมี แมนชั่น มีน.ส.สุนิสา ช่วยคัดแยกทรัพย์สิน ก่อนจะให้นายวุฒิชัยนำไปขายและนำเงินมาแบ่งกันไปซื้อยาบ้ามาเสพ เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้า)ไว้ในครอบครอง และร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวนสน.บางซื่อ พร้อมทั้งเร่งติดตามตัวนายวัสนต์ มาดำเนินคดีต่อไป 

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มผู้ต้องหาได้เข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์ภายในห้องเลขที่ 31 แฟลตตำรวจส่วนกลางเฉลิมลาภ ซอยพหลโยธิน 6 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท ซึ่งเป็นห้องพักของพล.ต.ต.วันชาติ คำเครือคง ผบก.กฝ.บช.ตชด. ได้ทรัพย์สินมีค่าไปจำนวนมาก อาทิ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ ทองคำแท่ง 3 แท่ง สร้อยข้อมือทองคำ หนัก 1 บาท 4 เส้น สร้อยคอทองคำ 1 บาท 4 เส้น กำไลข้อมือทองคำ 2 บาท 4 เส้น และเครื่องเพชรอีกจำนวนหนึ่ง รวมมูลค่ากว่า 5 แสนบาท และยังเคยก่อเหตุเข้าไปลักทรัพย์ภายในห้องพักของนายทหารยศนายพลคนหนึ่ง ที่แฟลตกรมยุทธศึกษาทหารบกอีกด้วย.
Share:

ออกหมายจับคนร้ายอีก 1 คน แก๊งอุ้มรีดหลานรองนายกฯ กิตติรัตน์

วันนี้  21 พ.ย. พ.ต.อ.สมพร  กฤษณพิพัฒน์ ผกก.สน.ลำผักชี  เปิดเผยถึงความคืบหน้าของคดี 2 ว่าที่ ร.ท.อุ้มหลานชายนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ไปรีดทรัพย์นั้นว่า ขณะนี้ศาลจังหวัดมีนบุรี ได้อนุมัติออกหมายจับนายอลงกรณ์ หรือตี๋  บุญประสิทธิ์ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 45 ซอยทรัพย์สาคร แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม.เพื่อนร่วมแก๊ง ซึ่งทำหน้าที่ขับรถไปจำนำ ตามหมายจับเลขที่ 831/2555ลงวันที่ 20 พ.ย. 2555 ในข้อหา คือ 1.ปล้นทรัพย์โดยใช้อาวุธปืนและใช้ยานพาหนะหลบหนี 2.ร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 3.ร่วมกันพกพาอาวุธปืนไปในเมือง ที่ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต 4.หน่วงเหนี่ยวกักขัง 5.บังคับขืนใจผู้อื่น 6.แสดงตนเป็นเจ้าพนักงาน และกระทำตัวเป็นเจ้าพนักงาน โดยตนเองไม่มีหน้าที่

พ.ต.อ.สมพร เปิดเผยอีกว่า จากการตรวจสอบประวัตินายอลงกรณ์ เพิ่มเติม พบว่ายังมีหมายจับคดีพยายามฆ่าในท้องที่ สภ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ตามหมายจับเลขที่ จ 232/2553 ลงวันที่ 27 พ.ค.2553 เหตุเกิดที่ 384/39 ลากูน่าเฟส 2 ม.8 ต.สันทรายน้อย อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ซี่งขณะนี้นายอลงกรณ์กำลังหลบหนีอยู่  และกำลังให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีอย่างโดยเร็ว ส่วนประเด็นที่คนร้ายอ้างว่าได้มีนายที่อยู่ในกองปราบปรามเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์อุ้มในครั้งนี้  จากการสอบสวนในเชิงลึกก็ยังไม่พบว่ากลุ่มคนร้ายมีความเกี่ยวโยงกับใครในขณะนี้

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ ว่าที่ ร.ท.นันทวุฒิ มรรคผล อายุ 30 ปี ที่ปรากฎในภาพบนหน้าหนังสือพิมพ์ ที่กำลังนั่งควบคุมตัวนายฤทธิ์ โรจนกิจ ณ ระนอง โดยเป็นภาพที่ ตำรวจ สน.ลำผักชี ถ่ายไว้ได้ มีการสวมเสื้อเกราะอยู่ด้วยนั้น จึงได้แจ้งข้อหามีเครื่องยุทธภัณฑ์(เสื้อเกราะ)ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตเพิ่มเติมอีก 1 กระทง ส่วนประเด็นที่น่าจะมีเจ้าทุกข์รายอื่นๆ ถูกกระทำด้วย นั้นมีเพียง 2 รายจากย่านสมุทรปราการโทรศัพท์มาสอบถามแต่ยังไม่ได้เดินทางเข้ามาให้รายละเอียด

ต่อมาเวลา13.30 น. ได้มีนายศุภชัย จิตบุญ อายุ 44 ปี เจ้าของธุรกิจรับรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.เจริญ บุญศิลป์ พงส.(สบ.2)เพื่อให้เบาะแส โดยสงสัยหนึ่งในผู้ต้องหาคือ ว่าที่ ร.ท.นันทวุฒิ มรรคผล อาจจะเป็นผู้ก่อเหตุลักรถกระบะแบบยกสูง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นดีโฟร์ดี สีน้ำเงิน-เทา หมายเลขทะเบียน วฉ 8557กทม.ที่จอดไว้หน้าร้านสโนไวท์ นวดสปาร์ ถนนปทุมธานี-บางบัวทอง (345) ตำบลคลองข่อย อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรีไป เมื่อวันที่ 31 ต.ค.55
นายศุภชัย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เห็นภาพในหน้าหนังสือพิมพ์ มีรูปว่าที่ ร.ท.นันทวุฒิ มรรคผล ผู้ต้องหา สูงประมาณ 170 ซม.สวมแว่นสายตา ใส่เสื้อสีดำเปิดคอกว้างๆ ผิวขาว ซึ่งดูคล้ายกับคนที่ภาพวงจรปิด เก็บภาพไว้ได้ในขณะใช้ไขควงทะลวงกุญแจรถของตน แล้วขับหลบหนีไปพร้อมเงินสดในรถ 50,000 บาท จึงมาให้ข้อมูลกับตำรวจ และจะกลับมาอีกครั้งพร้อมภาพวงจรปิด เพื่อมาให้ตำรวจไปทำภาพนิ่งออกมาเปรียบเทียบในวันพรุ่งนี้

ต่อมาเมื่อเวลา 17.00 น. ทางเจ้าหน้าตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานได้เดินทางมาเก็บลายนิ้วมือแฝงและเส้นขนต่างๆ ภายในรถของผู้ต้องหา ซึ่งจะได้ส่งไปให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการมัดตัวของคนร้าย  นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบกล้องบันทึกขนาดเล็กที่ได้ติดอยู่บริเวณด้านหลังของกระจกมองหลังภายในรถที่สามารถบันทึกเหตุการณ์ภาพตรงหน้าได้อีกด้วย  และจะได้ส่งให้ฝ่ายเทคนิคทำการเปิดหาภาพที่บันทึกในกล้องวีดีโอว่าจะสามารถเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้หรือไม่
Share:

“วิรัตน์” ซัด “นายกฯ –บึ๊กโอ๋” ร่วมมือล้วงโผตั้งปลัดกลาโหม


วันนี้ ( 25 พ.ย.) ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้อภิปรายคนแรกโดยได้อภิปรายถึงการบริหารราชการของ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม พร้อมกันนี้ได้นำคลิปเสียงคล้ายการพูดคุยระหว่าง พล.อ.อ.สุกำพล และ พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม เกี่ยวกับการแต่งตั้งปลัดกระทรวงกลาโหมคนใหม่มาเปิดหลายช่วง รวม 15 คลิป เพื่อชี้ให้เห็นว่ามีการแทรกแซงของ  พล.อ.อ.สุกำพล โดยคลิปบางตอนมีเสียงว่า “ไม่ต้องให้ใครเข้ามา ขอคุยเรื่องโยกย้ายนิดนึง ผมอยากเสนอทนงศักดิ์” “ถ้าเรื่องนี้ถ้าเฉพาะหน่วยเสนอมาแล้วให้รับทราบ ก็ไม่ต้องมีรัฐมนตรีหรอก ก็จบไป” “ให้เห็นชอบทั้งหมดก็ไม่ต้องเซ็น แ..ง” “ถ้าเถียรเสนอชาตรีมา พี่ก็ต้องแก้เป็นทนงศักดิ์” “อยากให้เรื่องนี้อยู่แค่นี้ไม่ต้องมีหนังสือ เรา 5 คน ลูกผู้ชาย” “ผมขออนุญาตตัดสินใจเอาทนงศักดิ์ ต้องเข้าใจไม่เช่นนั้นมันจบไม่ได้” นี่คือการแสดงอำนาจบาตรใหญ่ของรัฐมนตรี ไม่พอใจก็เอาออก เอาคนที่สั่งขวาหัน ซ้ายหันได้อย่างนั้นหรือ ทั้งๆที่เจตนารมณ์กฎหมายป้องกันไม่ให้นักการเมืองล้วงลูก

นายวิรัตน์ กล่าวอีกว่า พล.อ.เสถียรทำถึงนายกฯ เพื่อขอเข้าพบพร้อมเจ้ากรมเสมียนตรา เพื่อรายงานเรื่องการแต่งตั้งปลัดกระทรวงกลาโหม และการถูกสั่งย้ายโดยไม่เป็นธรรม  แต่นายกฯในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุดที่ต้องบริหารทุกกระทรวง ต้องรับรู้รับทราบกลับเพิกเฉย ที่สำคัญ พ.ร.บ.ว่าด้วยวินัยทหาร2476 มาตรา 29 ระบุให้นายกฯต้องรีบดำเนินการไต่สวนหลังได้รับเรื่องร้องทุกข์ จึงอาจเข้าข่ายการละเลยและละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และท่านไม่สามารถปฏิเสธว่าไม่รับรู้รับทราบได้ เพราะมีใบตอบรับแล้ว ฉะนั้นกรณีนี้จึงเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เป็นการสมรู้ร่วมคิดกับการใช้อำนาจหน้าที่ของรมว.กลาโหม ที่ไปก้าวก่ายแทรกแซงฝ่ายข้าราชการขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 266 268 269 และ280 ถ้าไม่มีธรรมมาภิบาล ไม่มีนิติรัฐ นิติธรรมบ้านเมืองอยู่ไม่ได้ กองทัพก็จะกลายเป็นกองโจร ถ้ากองทัพเป็นกองทัพ ท่านก็คือหัวหน้ากองทัพ แต่ถ้ากองทัพเป็นกองโจร ท่านก็คือหัวหน้ากองโจร จึงไม่สามารถไว้วางใจนายกฯและรมว.กลาโหมได้

 พล.อ.อ.สุกำพล ชี้แจงว่า การแต่งตั้งปลัดกระทรวงกลาโหมจะต้องผ่านคณะกรรมการชุดเล็ก  และคณะกรรมการชุดใหญ่ที่ตัวเองเป็นประธาน โดยคณะกรรมการชุดใหญ่มีทั้งหมด 6 คน และหนึ่งเสียงมีสิทธิ์เท่ากันและบังคับใครไม่ได้ สำหรับคลิปเสียงที่ออกมาในวันที่ 17 ส.ค. 55   ยอมรับเป็นเสียงตน ซึ่งเป็นคลิปที่ไม่สมบูรณ์ นำมาเปิดเผยไม่ครบ และรู้ว่าใครอัดเสียง  แต่เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องถือผิดวินัยร้ายแรงที่สุดที่ไม่เคยเกิดขึ้นในกระทรวงกลาโหมมาก่อน และได้ตั้งกรรมการตรวจสอบ  สำหรับขั้นตอนแต่งตั้งปลัด จะพิจารณาในชุดใหญ่ก่อนก็ได้  แม้ เมื่อกรรมการชุดเล็กมีการเสนอชื่อ พล.อ.ชาตรี  ทัตติ รองปลัดกระทรวงกลาโหมขณะนั้นขึ้นมา แต่ชุดใหญ่ได้เลือก พล.อ.ทนงศักดิ์ ดังนั้น หากพล.อ.เสถียรเสนอชื่อพล.อ.ชาตรีขึ้นมา ตัวเองก็บอกว่าจะเปลี่ยนรายชื่อเพราะไม่สามารถขัดต่อมติที่ประชุมชุดใหญ่ได้

   พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวอีกว่า ส่วนระบุเรื่องความอาวุโส ที่ผ่านมาพล.อ.พล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์ อดีตรองปลัดกระทรวงกลาโหม มีอาวุโส แต่สุดท้ายก็มีการเรียกพล.อ.เสถียรมาเป็นปลัดกระทรวงกลาโหมในครั้ง  พล.อ.วิทวัส เป็นลูกผู้ชาย ก็ยอมรับในการตัดสิน   สำหรับการโยกย้ายนายทหารทั้ง 3 คน เนื่องจากมีพฤติกรรมไปยื่นหนังสือต่อประธานองคมนตรี และไปพบองคมนตรีบางคน  ถือเป็นการดำเนินการผิดวินัยร้ายแรงที่นำความลับที่ยังไม่เสร็จสิ้นไปเผยแพร่ต่อบุคคลภายนอก  และบุคคลที่ไปเผยแพร่เป็น 1 คนที่อยู่ในระดับจอมพล ตนจึงได้โยกย้ายไปช่วยราชการในสำนักรัฐมนตรีกลาโหม และตนก็ยืนยันว่าตัวเองมีอำนาจทำได้ และ 1ใน 3  คน ก็ได้ขอโทษตนในภายหลังและยอมรับว่าตัวเองทำถูกต้องแล้ว  อย่างไรก็ตามสำหรับการแต่งตั้งปลัดกระทรวงกลาโหมจะต้องยึดหลักอาวุโส  ประวัติการทำงาน และ ความรู้ความสามารถมาประกอบกัน มิใช่นำเรื่องอาวุโสมาพิจารณาอย่างเดียว

น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชี้แจงว่า  การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการทหารมีระเบียบชัดเจน นายกฯไม่สามารถข้ามขั้นตอนไปแทรกแซงได้ เพราะการแต่งตั้งดังกล่าวเป็นอำนาจของคณะกรรมการที่มีรมว.กลาโหมเป็นประธาน   อย่างไรก็ตาม หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนจาก พล.อ.เสถียร ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ สำนักเลขาธิการสำนักนายกฯ ทำหนังสือถึงพล.อ.อ.สุกำพล ให้ดำเนินการให้ถูกต้องและแจ้งให้ พล.อ.เสถียรทราบแล้ว
 
Share:

Disqus Shortname

Comments system

ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 095-954-4524

ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

Blog Archive

Post Top Ad

คลังบทความของบล็อก

Author Details

Menu - Pages

Business

Random Posts

Recent

Popular

Blog Archive